เลเซอร์ผิวใส

รวมเลเซอร์และทรีตเมนท์เพื่อ หน้าขาวกระจ่างใส ลงรายละเอียดเจาะลึก

หน้าขาวใส เป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนปรารถนา เพราะผิวที่ขาวบ่งบอกถึงสุขภาพผิวที่ดี และยังทำให้บุคลิกดูดี ชวนให้มองอีกด้วย  ซึ่งบทความนี้ จะแนะนำรายละเอียดแบบเจาะลึก เกี่ยวกับการรักษา ที่จะปรับผิวให้ดูขาวกระจ่างใสขึ้น ทั้งในแบบของทรีทเม้นท์ เลเซอร์ และ เทคนิคอื่นๆ  ว่าตัวไหนดี ตัวไหนเด่น เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับประกอบการตัดสินใจให้หลายๆท่านนะครับ

สวัสดีครับ หมอชื่อ หมอเอ็ม หรือนายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกครับ

บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวกับ ปัญหาผิวหมองคล้ำ สาเหตุ และวิธีการแก้ไข ทำอย่างไรให้ผิวขาวกระจ่างใส ให้กับทุกท่านนะครับ

ผิวหมองคล้ำเกิดจากอะไร?

ผิวหน้าหมองคล้ำ เป็นปัญหากวนใจใครหลายๆคน ซึ่งมักเกิดขึ้นจากการที่ผิวหน้าของเราไปเผชิญกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ทำร้ายผิว ได้แก่ แสงแดด(อันนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยมากครับ) การสูบบุหรี่ สภาพอากาศที่หนาวแห้ง หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ก็จะมีปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ หรือการใช้ Skin Care ที่ไม่ถูกต้องก็ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำได้เช่นกัน ซึ่งหากผิวหน้าเกิดหมองคล้ำขึ้นมาแล้ว การดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสม และอาจจะมีเทคโนโลยีต่างๆ ทางการแพทย์เข้ามาช่วยก็จะสามารถแก้ไขปัญหา ให้ผิวหน้ากลับมาขาวใสได้อีกครั้งครับ

เรื่องของสีผิว ลงลึกรายละเอียดในแบบวิชาการ

ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องผิวหมองคล้ำเกิดขึ้นได้อย่างไร หมออยากให้เข้าใจถึงโครงสร้างของผิว สีผิว เม็ดสีปกติกันก่อนครับ ส่วนนี้อาจจะลงลึก และมีศัพท์แพทย์เยอะนิดหน่อยนะครับ ตรงนี้ถ้าอ่านแล้วงงสามารถข้ามไปที่บทความส่วนถัดไปด้านล่างได้เลยนะครับ

โครงสร้างผิวโดยปกติของเรา

ผิวหนังของเราในส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับสีผิวแบ่งออกได้เป็นชั้นใหญ่ๆ 2 ชั้นด้วยกันครับ นั่นคือ

  1. ชั้นหนังกำพร้า(Epidermis)

เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ปกป้องผิวของเราจากสภาวะแวดล้อม ซึ่งมีเซลล์หลักๆในชั้นนี้อยู่สองชนิด คือ

  • เซลล์ผิว(Keratinocyte)

เป็นเซลล์หลักของชั้นหนังกำพร้านี้ ซึ่งจะเติบโตจากส่วนล่างสุดของชั้นที่เรียกว่า Basement membrane ตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นขี้ไคลและหลุดออกไปที่ชั้นบนสุด

  • เซลล์สร้างเม็ดสี(Melanocyte)

เป็นเซลล์ที่พบบริเวณชั้นล่างสุดของชั้นหนังกำพร้า ลักษณะคล้ายๆปลาหมึกยักษ์ คือเป็นเซลล์ใหญ่ๆ และมีหนวดเล็กๆจำนวนมากที่เรียกว่า เดนไดรท์ Dendrite เชื่อมต่อกับเซลล์ผิวหลายๆเซลล์ เซลล์นี้จะทำหน้าที่สร้างเม็ดสีแล้วส่งให้กับเซลล์ผิวทาง”หนวด” หรือเดนไดรท์นี่เองครับ

นอกจากนี้ยังมีเซลล์อื่นๆ เช่นเซลล์ดักจับสิ่งแปลกปลอม (Langerhans cell) และเซลล์ที่ช่วยเกี่ยวกับการสัมผัส(Merkel’s cell) ซึ่งเป็นส่วนน้อยมาก ๆ ครับ

2. ชั้นหนังแท้(Dermis)

ชั้นหนังแท้นี้จะมีโครงสร้างเส้นเลือด รากขน เส้นประสาทอยู่ครับ และมี “เนื้อเยื่อประสาน”  (Ground substance) เป็นเนื้อเยื่อที่ประสานรวมโครงสร้างทั้งหมดเข้าด้วยกัน เซลล์หลักในที่นี้ คือ เซลล์สร้างเส้นใย (fibroblast) ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจน อีลาสติน และสร้างสารเนื้อเยื่อประสาน (Ground substance) เช่น พวกกรดไฮยาลูรอนิก และอื่นๆครับ

เม็ดสี หรือ เมลานิน คืออะไร สำคัญอย่างไร

เม็ดสี หรือ เมลานิน เป็นสารสีที่ช่วยปกป้องผิวของเราจากแสงแดด ซึ่งถูกผลิตโดยเซลล์สร้างเม็ดสี(Melanocyte) ดังที่ได้กล่าวไปแล้วครับ เมลานิน จะยังแบ่งออกได้เป็นสองชนิดอีกครับ คือ ยูเมลานิน(Eumelanin) เป็นเม็ดสีที่ให้สีโทนดำกับสีน้ำตาล และฟีโอเมลานิน(Pheomelanin) เป็นเม็ดสีที่ให้โทนส้มแดงครับ ก็คือถ้าผิวของเรามียูเมลานินมากก็จะเป็นโทนสีน้ำตาลเข้มกว่ากรณีที่เรามีฟีโอเมลานินมากนั่นเองนั่นเองครับ

ในกระบวนการสร้างเม็ดสี ตามแผนผังที่หมอได้ลงไว้ด้านล่าง จะเห็นว่า ทั้งยูเมลานินและฟีโอเมลานินสามารถถูกสร้างได้ในกระบวนการเดียวกัน เพียงแต่แยกไปคนละด้าน ดังนั้นสมมุติว่าคนสองคน ผิวมีการสร้างเม็ดสีพอๆกัน แต่คนนึงกระบวนการไปทางยูเมลานิน อีกคนไปทางฟีโอเมลานิน คนสองคนนี้จะมีสีผิวคนละเรื่องกันเลยครับ และสิ่งหนึ่งที่กำหนดว่าจะสร้างเป็นยูหรือฟีโอเมลานินนี่ก็คือกรรมพันธุ์ด้วยส่วนนึงครับ

ซึ่งเมื่อเซลล์สร้างเม็ดสีได้สร้างเม็ดสีขึ้นมาแล้ว จะบรรจุเม็ดสีใน”ถุงเม็ดสี”(melanosome) ก่อนนำส่งสู่เซลล์ผิวต่อไปครับ

สีผิวของเรา

สีผิวของเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะพันธุกรรมของเราเป็นตัวกำหนดครับ โดยพบว่าในคนผิวขาว แม้จะมีจำนวนของเซลล์สร้างเม็ดสีเท่ากับคนผิวเข้ม แต่การสร้างเม็ดสีจะไม่เท่ากัน

ตารางข้างล่างนี้จะแสดงความแตกต่างระหว่าง คนผิวเข้มกับคนผิวขาวครับ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร

จากรูปจะเห็นว่าในคนผิวเข้ม ถุงเม็ดสีจะถูกสร้างออกมามากกว่า มีขนาดใหญ่กว่า และถูกส่งเข้าสู่เซลล์ผิวกระจายตัวเยอะกว่ามากๆ และในชั้นบนสุดของผิวคนผิวเข้มจะมีถุงเม็ดสีอยู่เยอะมากครับ นอกจากนี้ในคนผิวขาว กระบวนการสร้างเม็ดสีจะได้เป็นฟีโอเมลานิน ในขณะที่คนผิวเข้มจะไปทางยูเมลานิน ทำให้สีผิวแตกต่างกันที่ตรงนี้ด้วยนั่นเอง และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผิวของคนผิวเข้มจึงเข้มกว่าคนผิวขาวครับ นี่คือลักษณะของสีผิวของเราแบบปกติ ทีาจะแตกต่างกันตามพันธุกรรมครับ ต่อไปจะกล่าวเจาะลึกส่วนของผิวที่หมองคล้ำจากสภาวะแวดล้อมมากระตุ้นนะครับ

สาเหตุของหน้าหมองคล้ำ แบบเจาะลึก

แสงแดด

เป็นสาเหตุที่มักพบบ่อยที่สุด ซึ่งปัจจุบันนี้มีงานวิจัยมาแล้วครับว่า ไม่ใช่แค่แสงยูวีเพียงอย่างเดียวนะครับ ที่ทำให้เราผิวเข้มขึ้น จริงๆแล้วแสงในช่วงคลื่นอื่น(เช่น แสงที่ตาเรามองเห็น แสงสว่างธรรมดาๆ) ก็ทำให้หน้าเราหมองคล้ำลงได้เช่นกันครับ หมายความว่าแม้แต่แสงแดดในยามเช้า ยามเย็น หรือบางท่านที่ทำงานใกล้แสงนีออนที่มีความจ้ามากๆ ก็อาจจะดูคล้ำลงได้เช่นกันครับ ถ้าเราได้รับแสงเหล่านี้เป็นเวลานานเกินไป ซึ่งแสงจะทำปฏิกิริยากับผิว กระตุ้นการสร้างเม็ดสี และยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งจะไปทำลายโครงสร้างผิว และคอลลาเจน อีลาสตินด้วยนะครับ เรียกว่าแสงแดดนี่ทำให้ผิวคล้ำแล้วยังทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยอีกด้วยครับ

Skin Care

ไม่ว่าจะเป็น โทนเนอร์ เซรั่ม ครีม สบู่ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของสารที่ระคายเคืองผิว สกินแคร์เหล่านี้ หากเราใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ การระคายเคืองผิวจะค่อยๆสะสมมากขึ้นมากขึ้น ทำให้เกิดการอักเสบของชั้นผิว ก็จะส่งผลให้ผิวเราค่อยๆดูหมองคล้ำขึ้นจากการอักเสบที่เรื้อรังนี้เองครับ

ส่วนผสมของสกินแคร์ที่สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองผิวก็ได้แก่ สี น้ำหอม สารกันบูดบางชนิดและส่วนผสมอื่นๆ ดังนั้นการเลือกใช้ครีมบำรุงผิวควรเลือกชนิดที่เหมาะสำหรับผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ซึ่งมักจะมีส่วนผสมที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวด้วยครับหรือหาก ลองใช้สกินแคร์ตัวไหนแล้ว รู้สึกแสบหน้า หน้าแดง หรือว่ามีอาการระคายเคืองก็ควรหยุด ไม่ควรที่จะใช้ต่อเนื่องนะครับ

การสูบบุหรี่

ส่วนผสมของสารนิโคตินในบุหรี่นั้นจะส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดใต้ผิวไม่ดี และทำให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน ผิวจึงดูหมองไม่สดใสครับ

อายุ

ช่วงวัยที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ผิวมีการเสื่อมสภาพ คอลลาเจน อีลาสติน และเซลล์ผิวจะเสื่อมลง ผิวมีน้ำมันหล่อเลี้ยงน้อยลง และแห้งกร้านมากขึ้น ส่งผลให้สีผิวเปลี่ยนดูหมองคล้ำลงด้วยครับ นอกจากนี้ผิวที่อายุมากขึ้น จะมีวงจรการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวใหม่ ที่ช้าลง ส่งผลให้มีเซลล์ผิวเก่าๆตกค้างที่ผิวมากขึ้น ผิวก็จะดูหมองคล้ำไม่ค่อยสดใสครับ

สภาพอากาศ

อากาศที่หนาวและแห้ง จะดูดน้ำออกจากผิว และผิวที่แห้งจะดูหมองคล้ำลง ไม่สดใส เช่นเดียวกับสาเหตุอื่นๆที่กล่าวมาครับ

การพักผ่อนไม่เพียงพอ

ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกายไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังทำให้ผิวไม่มีโอกาสฟื้นฟู อาจทำให้ผิวเปลี่ยนสีดูหมองคล้ำลงได้ครับ


นวัตกรรมหน้าขาวใส รักษาอย่างไรได้บ้าง

สำหรับที่เอ็มวีต้าคลินิก เรามีนวัตกรรมมากมายที่จะตอบโจทย์ในเรื่องความขาวใส เรียงลำดับจากเบาๆไปหาตัวเลเซอร์ที่ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจที่สุดครับ หมอขออนุญาตให้ข้อมูลดังนี้นะครับ


ทรีตเม้นต์


ทรีตเม้นต์ครบขั้นตอนการบำรุงผิวให้แลดูกระจ่างใส ลบเลือนรอยด่างดำ ด้วยขั้นตอนการผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยน ด้วยกรดผลไม้สูตรพิเศษ Tangerine peel ที่มีกรดซิตริกจากธรรมชาติ พร้อมส่วนผสมที่บำรุงผิว การผลักวิตามินด้วยตัวยา 5 ชนิด ด้วยเทคโนโลยี Cryotherapy ซึ่งใช้ความเย็น 4°C ผลักวิตามินพร้อมกับการปลอบประโลมผิว และมาส์คผิวหน้า ผิวคุณจะสว่างกระจ่างใสอย่างชัดเจนครับ


ELECTROPORATION SYSTEM

ทรีตเม้นต์ระดับสูงที่ใช้เครื่องพริสทีน Pristine จากบริษัทวิโอร่า ซึ่งเป็นเครื่องกรอผิวด้วยหัวผลึกเพชรที่มีมาตรฐานได้รับการรับรองจาก อย สามารถกรอผิวได้อย่างอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวบาง ให้ผิวของท่านแลดูเรียบเนียนและสว่างขึ้น

จากนั้นจึงทำการผลักวิตามินเกรดพรีเมี่ยมและสารกลุ่มลดเม็ดสีลงสู่ผิวชั้นลึกด้วยเครื่องอินฟิวชั่น Infusion จากบริษัทวีโอร่าเช่นกัน เครื่องนี้จะใช้เทคโนโลยี Ionwave โดยปล่อยกระแสไฟฟ้าที่ความถความถี่ที่เหมาะสม จะทำให้เกิดการจัดเรียงของผนังเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าใหม่ให้เป็นช่องว่างเล็กๆ ที่เรียกว่า microchanneling ซึ่งจะเป็นทางผ่านของวิตามินต่างๆ ทำให้ลงไปได้ลึกยิ่งกว่าการผลักวิตามินทั่วๆไปถึง 40 เท่า ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้รับรางวัลโนเบลในปี 2003 ครับ ด้วย Infusion ตัวนี้จะสามารถผลักวิตามินลงไปได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ได้เลยทีเดียว จึงมีผู้เรียกเทคนิคนี้ว่าเป็น “เมโสหน้าใสแบบไม่ใช้เข็ม”ครับ ซึ่งด้วยตัวยาวิตามินระดับพรีเมี่ยม ดังนั้นหลังทำผิวของท่านจะดูกระจ่างใสขึ้นทันทีครับ


เลเซอร์


Dual Yellow

เลเซอร์หน้าขาวใส ถือเป็นตัวช่วยทางลัดที่ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการผลที่ชัดเจนครับ ซึ่งเลเซอร์ที่ช่วยเรื่องความขาวใส จริงๆมีหลายชนิด แต่สำหรับที่ เอ็มวีต้าคลินิก หมอเลือกใช้ตัว Dual yellow เป็นเลเซอร์หลักครับ แล้วเจ้า Dual yellow นี้มีหลักการทำงาน และข้อดีอย่างไร เรามาเรียนรู้เพิ่มเติมกันเลยครับ


Dual Yellow คืออะไร?

Dual yellow  คือ เลเซอร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากเครื่องเลเซอร์ๆไปที่มักจะให้พลังงานแสงที่ช่วงความยาวคลื่นเดียว แต่สำหรับ Dual Yellow จะให้พลังงานแสงที่ 2 ช่วงความยาวคลื่น คือแสงสีเหลือง( ความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร)  และแสงสีเขียว( ความยาวคลื่น 5711 นาโนเมตร)  เนื่องจากมีแหล่งกำเนิดแสง เป็นสารคอปเปอร์โบรไมด์ (CuBr) นั่นเองครับ ตัวนี้เป็นเทคโนโลยีจากบริษัท Norseld จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐาน FDA จากประเทศต่างๆทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราด้วยครับ


Dual Yellow มีกลไกการทำงานอย่างไร?

พลังงานแสงสีเหลืองและสีเขียวของเครื่อง Dual Yellow จะทำงานเสริมกันในการรักษาปัญหาผิวพรรณหลากหลายชนิด โดยหลักการก็คือ

  • แสงสีเหลือง (ความยาวคลื่น 578 nm)

 ที่ช่วงความยาวคลื่นนี้ จะถูกดูดซับได้ดีโดยสารฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นสารที่พบอยู่ในเม็ดเลือดแดงซึ่งอยู่ในเส้นเลือด ดังนั้น แสงสีเหลืองจึงมีคุณสมบัติในการรักษาปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นเลือดทั้งหมด เพราะเมื่อฉายไปที่ผิว แสงเกือบทั้งหมดจะจำเพาะเจาะจงถูกดูดซับโดยเม็ดเลือดแดงในเส้นเลือด และทำให้เกิดความร้อนขึ้นเฉพาะในบริเวณของเส้นเลือด จึงสามารถที่จะสลาย เส้นเลือดส่วนเกินได้นั่นเอง ซึ่งกระบวนการนี้เราเรียกว่า selective photothermolysis ครับ

ปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นเลือด ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยแสงสีเหลืองของ Dual Yellow ได้แก่ รอยแดงสิว อาการหน้าแดง เส้นเลือดฝอยที่ผิว และนอกจากนี้ ยังพบว่าแสงสีเหลืองมีคุณสมบัติ ในการกระตุ้นคอลลาเจน ที่ผิวด้วย จึงสามารถทำให้ผิวดูเนียนใสขึ้น นั่นเองครับ

  • แสงสีเขียว (ความยาวคลื่น 511 nm)

สำหรับช่วงความยาวคลื่นนี้พบว่าสามารถถูกดูดซับได้ดีมากโดยเมลานิน หรือเม็ดสีที่อยู่ในเซลล์ผิวของเรา ซึ่งหลักการเช่นเดียวกับแสงสีเหลืองที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ครับ คือเมื่อฉายไปที่ผิว แสงสีเขียว จะถูกดูดซับโดยเมลานินที่อยู่ในเมลาโนโซม ทำให้เกิดความร้อนขึ้น โดยจำเพาะเจาะจงดังนั้นแสงสีเขียวจึงสามารถที่จะช่วยรักษา ปัญหาที่เกี่ยวกับ เม็ดสีของผิว เช่น กระ ฝ้า รอยดำสิว และสามารถช่วยปรับผิวให้มีความขาวกระจ่างใสมากขึ้นได้ด้วยครับ


หน้าขาวใสด้วย Dual Yellow

จากคุณสมบัติของแสงทั้งสองสีที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ ใช้เพื่อช่วยทำให้ผิวของเรามีความกระจ่างใสมากขึ้น รวมทั้งจัดการ จุดด่างดำ เลเซอร์รอยสิว หรือข้อบกพร่องต่างๆให้จางหายไปได้ด้วยครับ 

สำหรับท่านที่มีผิวค่อนข้างคล้ำนั้น แสงสีเขียว จะช่วยลดเม็ดสีบนผิวของท่าน ช่วยปรับให้ผิวดูสว่างขึ้นจากการที่เม็ดสีลดลง 

ส่วนท่านที่มีผิวค่อนข้างขาวอยู่แล้ว  บางครั้ง ความคล้ำอาจจะเกิดจากการที่ผิวของท่านมีเส้นเลือดฝอยมากเกินไป ทำให้ดูหมอง(ลักษณะคล้ายกับคนต่างชาติผิวขาว ที่เวลาทานแอลกฮอล์แล้วหน้าแดง ทำให้หมอง ดูเหมือนผิวหน้ามีสีเข้มขึ้นประมาณนั้นครับ) แสงสีเหลือง จะช่วยลดปริมาณเส้นเลือดฝอยส่วนเกินบนผิวของท่าน ช่วยปรับให้ผิวดูสว่างขึ้นจากอาการแดงของผิวที่ลดลงครับ


Dual Yellow ดีกว่า IPL หน้าใสอย่างไร

IPL ที่เราเห็นทั่วไปตามคลินิก ไม่จัดว่าเป็นเลเซอร์ครับ แต่เป็นพลังงานแสงความเข้มสูง ซึ่งใน 1 ช็อตที่ปล่อยออกมานั้น มีพลังงานแสงหลายช่วงคลื่น แสงสีแดง ส้ม เหลือง เขียวและอินฟราเรดปนกันอยู่ ไม่ได้มีแสงความยาวคลื่นใดความยาวคลื่นหนึ่งจำเพาะเจาะจงแบบเข้มข้นเหมือนอย่างเลเซอร์ ดังนั้นผลที่ได้จะกว้างๆ ไม่สามารถเน้นเฉพาะปัญหาใดปัญหาหนึ่งเหมือนอย่างเลเซอร์ ต่างกับ Dual Yellow ที่เป็นเลเซอร์ มีพลังงานแสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง 2 สี พลังงานจึงเข้มข้นกว่า สามารถเน้นปัญหาต่างๆได้อย่างเห็นผลชัดเจนมากกว่า และผลข้างเคียงก็น้อยกว่าด้วยครับ

สรุปง่ายๆก็คือ Dual Yellow เป็นเลเซอร์จึงเน้นเรื่องของความขาวใสได้มากกว่าพลังงานแสงความเข้มสูงอย่าง IPL ครับ


Dual Yellow หน้าขาวใส ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?

ปกติแล้ว Dual Yellow เป็นเลเซอร์ที่ค่อนข้างให้ผลรวดเร็ว โดยทั่วไปหลังทำเพียงครั้งแรกก็สามารถสัมผัสถึงผลลัพธ์ได้แล้วครับ ผิวของท่านจะดูสว่างขึ้น จุดด่างดำรอยแดง หรือรอยสิวต่างๆจะเริ่มเลือนหาย โดยที่ไม่มีแผลไม่มีสะเก็ดไม่ต้องพักฟื้นใดๆทั้งสิ้นครับ หลังทำทันที ท่านจะสามารถเห็นความขาวใสขึ้นประมาณ 10-20% และผลลัพธ์จะค่อยๆชัดมากขึ้นในวันรุ่งขึ้น แล้วจะเห็นผลชัดเจนมากที่สุดประมาณวันที่ 3 หลังทำครับ


Dual Yellow หน้าขาวใส สามารถทำได้บ่อยแค่ไหน?

สำหรับ Dual Yellow เป็นเลเซอร์ที่ค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว สามารถทำได้เรื่อยๆโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ส่วนใหญ่หมอแนะนำให้ทำ Dual Yellow เพื่อหน้าขาวใสได้ทุกๆ 2 สัปดาห์ ซึ่งระยะประมาณนี้จะได้ผลดีที่สุดครับ แต่บางท่านที่ทำต่อเนื่องจนเห็นผลดีแล้ว สามารถเว้นห่างขึ้นได้บ้าง อาจจะเป็นทำทุก 3-4 สัปดาห์ก็พอได้ครับ เพื่อเป็นการเมนเทน แล้วช่วงไหนที่อยากจะเน้นเป็นพิเศษก็ค่อยกลับมาทำทุก 2 สัปดาห์ได้อีกครับผม


Dual Yellow หน้าขาวใสที่เอ็มวีต้าคลินิก แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร

  1. ที่เอ็มวีต้าคลินิก เรามีหัวยิงสำหรับเครื่อง dual Yellow ครบทุกหัวครับ ได้แก่
    • หัว contact 1.0 mm
    • หัว Zoom 0.6 mm
    • หัว Scanner 5.0 mm
    • หัว Scanner 10.0 mm
    • หัว shining bright(contact 5.0 mm)
  2. หมอมีประสบการณ์ในการยิง Dual Yellow มาตั้งแต่ปี 2554 ได้ศึกษาเทคนิคในการยิงที่หลากหลาย ทำให้รู้ว่าเครื่อง Dual Yellow สามารถนำมาใช้ประยุกต์ ในการรักษาปัญหาผิวได้หลากหลายจริงๆครับ แล้วด้วยเทคนิคที่หลากหลายนี่แหละที่เราสามารถนำมารังสรรค์ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจให้กับคนไข้ได้ครับ
  3. ที่เอ็มวีต้าคลินิก แพ็คเกจสำหรับทำเลเซอร์ Dual Yellow เพื่อผิวขาวใส เราไม่เพียงดูแลในเรื่องของความขาวใสเท่านั้นนะครับ แต่ยังดูแลรวมไปถึงการรักษากระ จุดด่างดำรอยแดงขี้แมลงวันไฝ ด้วย เพื่อให้คนไข้มีผิวหน้าที่ขาวกระจ่างใสและเกลี้ยงไร้จุดบกพร่องใดๆครับ

Dual Yellow มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง? ปลอดภัยหรือไม่?

พลังงานของเครื่อง Dual Yellow จัดอยู่ในกลุ่มของ Laser เย็น รูปแบบพลังงานแสงที่ปล่อยออกมามีความอ่อนโยนสูงมาก ดังนั้น สำหรับการทำ Dual Yellow จึงเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆเลยครับ จะมีบ้างก็ ในกรณี ที่พลังงานตอนยิงสูงกว่าปกติเล็กน้อย ในบางครั้ง อาจทำให้เกิดเป็นสะเก็ดขึ้นได้ แต่สะเก็ดสำหรับเครื่อง Dual Yellow เป็นสะเก็ดเพียงบางๆเท่านั้นครับ ถ้าเกิดขึ้นมักจะอยู่บนผิว ประมาณ 3-5 วันและจะค่อยๆหลุดออกโดยจะไม่เกิดแผลเป็นใดๆทั้งสิ้นครับ โดยสรุปก็เป็นเลเซอร์ที่มีความปลอดภัยสูงมากๆ ครับ สำหรับเครื่อง Dual Yellow ตัวนี้ ที่สำคัญเครื่องนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน จาก องค์การอาหารและยา จากประเทศไทย USFDA KFDA อีกด้วยครับ


Dual Yellow เจ็บไหม? ความรู้สึกขณะทำเป็นอย่างไร?

ดังที่ได้กล่าวไว้ในข้อด้านบนนะครับ เครื่อง Dual Yellow จัดว่าเป็น Laser เย็น พลังงานค่อนข้างมีความอ่อนโยนสูง ดังนั้นความรู้สึกในขณะที่ทำจะค่อนข้างสบายผิวมากๆ เรียกได้ว่าแทบจะไม่เจ็บเลย ส่วนใหญ่จะเพียงรู้สึกแค่อุ่นๆเท่านั้น อาจจะมีแค่เพียงบางจุด เช่นเวลาที่หมอเน้นรอยแดงสิว อาจจะมีรู้สึกจี๊ดบ้างเพียงเล็กน้อยในระดับที่ทนได้ครับ


Dual-Yellow โปรโมชั่นและราคา

Coming soon


รีวิว Dual-Yellow เลเซอร์หน้าขาวใสของเอ็มวีต้า

รีวิวคุณแซนดี้ พลอยปภัส นักแสดง/พิธีกรสาวสวย เลือกดูแลผิวให้พร้อมเสมอ ด้วยเลเซอร์ Gold Lucent by Dual Yellow

รีวิวคุณไกด์ เลเซอร์หน้าขาวใส Gold Lucent by Dual Yellow

รีวิวน้องมีน ณัฐกฤต (มีน the Knot) ดาราหนุ่มหล่อกับ Gold Lucent by Dual Yellow เลเซอร์หน้าขาวใส

มีน the knot เลเซอร์
มีน ณัฐกฤต หน้าใส
มีน the knot
มีน ณัฐกฤต หน้าใส

รีวิวคุณปอย Platinum Lucent by Dual Yellow เลเซอร์หน้าขาวใส ดีจนต้องบอกต่อ

อ่านเรื่องราวรีวิวของคุณปอยโดยละเอียดได้ที่นี่ครับ

รีวิวคุณคิง เลเซอร์หน้าขาวใสแบบผู้ชาย Gold Lucent by Dual Yellow

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*: