สิวที่หลัง

สิวที่หลัง เกิดจากอะไร? วิธีรักษาสิวที่หลัง อย่างไรให้หายขาด !!

สิวที่หลัง เป็นปัญหาที่น่ากังวลใจของทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ บางท่านมีสิวที่หลังเยอะมาก ทำให้หมดความมั่นใจ หลายๆท่านอาจจะรู้สึกว่า เมื่อเป็นสิวที่หลังแล้ว การรักษาสิวที่หลังให้หายเป็นเรื่องที่ยาก แต่หมอขอยืนยันว่าเป็นสิวที่หลังรักษาหายได้ครับ และยิ่งเริ่มต้นรักษาเร็ว ก็จะยิ่งลดการเป็นสิวเรื้อรัง ลดโอกาสเกิดสิวเพิ่ม เพราะสิวที่หลังอาจเกิดจากการสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งการรักษาก็จะช่วยลดแบคทีเรียจากต้นตออย่างทันท่วงทีครับ

ในบทความนี้ หมอจะเจาะลึก ถึงปัญหาสิวที่หลัง ว่า สิวที่หลังเกิดจากอะไร พูดถึงสาเหตุการเกิดสิวที่หลัง สิวที่หลังมีกี่ประเภท วิธีรักษาสิวที่หลัง และวิธีทําให้สิวที่หลังหาย การลบรอยสิวที่หลัง วิธีดูแลไม่ให้เกิดสิวที่หลัง และรายละเอียดอื่นๆ กันนะครับผม

ก่อนอื่นหมอขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะครับ หมอชื่อ หมอเอ็ม นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกนะครับ

สิวที่หลัง

สิวที่หลัง (Back Acne หรือเรียกรวบว่า Bacne ) เป็นปัญหาผิวพรรณชนิดหนึ่งที่ คนไข้จะมีสิวเกิดขึ้นที่บริเวณหลังโดยสิวที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นชนิดไม่อักเสบ Non-inflammatory Acne หรือสิวชนิดอักเสบ Inflammatory Acne ก็ได้ครับ สิวที่หลังพบได้ในทั้งผู้หญิงและสิวที่หลังผู้ชาย

สำหรับใครที่อยากอ่านข้อมูลเกี่ยวกับสิวเพิ่มเติม หมอรวบรวมไว้แล้วในบทความ “ สิว ” เกิดจากอะไร? หน้าเป็นสิวรักษายังไง? วิธีลดสิว แบบเอ็มวีต้าคลินิก คลิกอ่านได้เลยครับ

คุณหมอเอ็ม นายแพทย์ มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำ เอ็มวีต้า คลินิก (MVita Clinic)

เอ็มวีต้า คลินิก รักษาสิว ดูแลอย่างใกล้ชิด โดย คุณหมอเอ็ม นพ. มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำเอ็มวีต้า คลินิก และเป็นเจ้าของเองครับ คุณหมอมีประสบการณ์เรื่องผิวพรรณ และความงาม มานานกว่า 14 ปี + ครับ เคสที่คุณหมอดูแล และประทับใจผลลัพธ์ บอกต่ออย่างยาวนาน กว่า 10,000 + เคส คลินิกเปิดเข้าสู่ปีที่ 12+ แล้วครับ การันตีในผลลัพธ์ความพึงพอใจ การบริการที่น่าประทับใจ ตัวยาและเลเซอร์คุณภาพระดับสากล USFDA เอ็มวีต้า คลินิก ยินดีให้คำปรึกษา ก่อนเข้ารับบริการ เข้าพบแพทย์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ครับ

สิวที่หลังเกิดจาก

สิวที่หลังเกิดจาก การอุดตันของรูขุมขนบริเวณผิวที่หลัง ซึ่งโดยปกติแล้วผิวบริเวณหลังจะเป็นบริเวณที่มีต่อมน้ำมันค่อนข้างเยอะ จึงมักมีความมันมากกว่าผิวกายบริเวณอื่นอยู่แล้ว ดังนั้นมีแนวโน้มสูงที่น้ำมัน (Sebum) ที่ถูกขับออกมานั้นจะรวมกับเซลล์ผิวที่หลุดลอกจากด้านในของรูขุมขน ก่อให้เกิดการอุดตัน และค่อยๆกลายเป็น หัวสิว Comedone ขึ้นมานั่นเองครับ

ซึ่งถ้าพูดถึงสาเหตุการเกิดสิวที่หลังก็มีมากมาย มาดูกันครับว่า สาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง

สิวที่หลังเกิดจากสาเหตุอะไร ?

สิวที่หลังเกิดจาก

สาเหตุการเกิดสิวที่หลัง ที่ใครได้เป็นแล้ว จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ซึ่งสาเหตุอันมากมาย เรามาเช็คกันครับ ว่ามาจากสาเหตุไหน จึงทำให้เกิดสิวที่หลังไม่หายขาดสักที จะได้เป็นหนึ่งในวิธีป้องกัน ลดความเสี่ยงในการเป็นสิวที่หลังได้อีกหนึ่งวิธีครับ

1. สิวฮอร์โมนที่หลัง

เป็นสิวที่หลัง

โดยฮอร์โมนหลักๆที่ทำให้เกิดสิวที่หลัง ส่วนใหญ่จะเป็น ฮอร์โมนเพศชาย ได้แก่ Testosterone หรือ DiHydroTestosterone : DHT หรือในผู้หญิงก็จะเป็นฮอร์โมน Progesterone ที่จะพบสูงขึ้นช่วงก่อนรอบเดือนครับ

  1. ฮอร์โมนในกลุ่มนี้จะออกฤทธิ์สองกลไกที่จะทำให้เกิดสิว เช่นเดียวกับที่ใบหน้า ดังนี้
    กระตุ้นต่อมน้ำมัน sebaceous gland ให้ทำงานมากขึ้นและขับน้ำมันออกมาที่ผิวมากขึ้น
  2. ทำให้เซลล์บุผิวในรูขุมขนมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้น เบียดให้รูขุมขนแคบลง เพิ่มโอกาสที่จะทำให้ รูขุมขนเกิดการอุดตันมากขึ้น

ด้วย 2 กลไกนี้จึงทำให้ เกิดเป็นสิวขึ้นมาครับ โดยในระยะแรกสิวที่หลังที่เกิดขึ้นมานั้น จะเป็นสิวที่ไม่อักเสบ มีลักษณะเป็นสิวหัวขาว (whitehead) ซึ่งภายในจะมีหัวสิวหรือคอมีโดน comedone อยู่

ซึ่งเมื่อเกิดการอุดตันเกิดมากขึ้น ก็จะทำให้ สิวหัวขาวค่อยๆใหญ่ขึ้น และเมื่อมีน้ำมันอุดตันอยู่ในรูขมขนมากขึ้นเช่นนี้ ก็จะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีภายในรูขุมขนที่มีการอุดตันนั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Cuticobacterium acnes หรือ C. acnes ทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบ ร่างกายจะส่งเม็ดเลือดขาวมาสู้กับแบคทีเรียที่รูขุมขนนั้น เกิดเป็นอาการบวมแดง มีหนอง กลายเป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ขึ้นมา ซึ่งเมื่อหายแล้วก็อาจทำให้เกิด รอยหรือแผลเป็นตามมาได้ด้วยครับ

2. การใส่เสื้อผ้าที่อับชื้น

สิวขึ้นหลัง
เสื้อผ้าที่อับชื้น ระบายเหงื่อได้ไม่ดี หรือผ้าที่มีความหนามากๆ อาจจะทำให้เหงื่อ และความมันสะสมที่ผิวของเรามากขึ้น จึงเพิ่มโอกาสเกิดสิวอุดตัน หรือเกิดโรครูขุมขนอักเสบใต้ร่มผ้า โดยเฉพาะที่หลังได้ครับ

3. กรรมพันธุ์

สิวที่หลัง กรรมพันธุ์

พบว่าท่านที่มีคนในครอบครัวเช่นคุณพ่อคุณแม่หรือญาติมีปัญหาสิวที่หลังก็มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวที่หลังได้ง่ายกว่าคนอื่นเช่นกันครับ

4. การออกกำลังกาย

สิวหลัง

การออกกำลังกายประเภทที่จะมีเหงื่อค่อนข้างมาก เป็นประจำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บางท่านหลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วจะยังไม่อาบน้ำในทันที แต่จะปล่อยให้เหงื่อค่อยๆแห้งไปเอง อาจจะยิ่งทำให้เป็นสิวที่หลัง หรือรูขุมขนอักเสบที่หลัง หรือใต้ร่มผ้าเพิ่มขึ้นได้

5. สภาพแวดล้อม

สิวที่หลังรักษา

ฝุ่นละลอง สิ่งสกปรกรอบตัว หรือการอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างร้อน หรือบางท่านชอบเข้าสตีม ซาวน่าก็มีส่วนทำให้เกิดรูขุมขนอักเสบ สิวที่หลัง ได้เช่นกันครับ

6. ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด

สิวที่หลังเยอะมาก

ยาบางชนิดสามารถทำให้เกิดปัญหาสิวที่หลังได้ ที่พบได้บ่อยและควรต้องระวังคือยากลุ่มสเตียรอยด์ เช่น Prednisolone ซึ่งปกติอาจจะใช้ในท่านที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน เช่น SLE 

ในบางครั้งยาสเตียรอยอาจมาในรูปของยาสมุนไพร ยาต้ม ยาหม้อ ยาลูกกลอน ซึ่งอาจพบจำหน่ายกันในชุมชนได้ ยาพรุ่งนี้ต้องระวังนะครับ หักชาในระยะสั้นๆอาจจะเหมือนรู้สึกว่าได้ผลดีบางท่านที่มีปัญหาเรื่องปวดเข่าปวดข้อต่างๆทานแล้วจะรู้สึกดีขึ้นเพราะยาพวกนี้มีสเตียรอยด์ซึ่งจะช่วยต้านการอักเสบแต่พอทานไปนานๆแล้วฤทธิ์ของสเตียรอยด์จะทำให้เกิดผลแห้งเคียงหลายอย่างและสิวที่หลังก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันครับ

นอกจากนี้ยังมียาสเตียรอยด์อีกกลุ่มหนึ่งที่มักทำให้เป็นสิวที่หลังได้คือยาสเตียรอยด์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่นักกล้าม ซึ่งจริงๆยาในกลุ่มนี้ก็คือฮอร์โมนเพศชายนั่นเองซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้อย่างที่หมอได้กล่าวไปแล้วครับ

7. แพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

สิวขึ้นหลังบอกโรค

เช่นเดียวกับที่ใบหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และเครื่องสำอางสำหรับผิวกาย ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดสิวที่หลังได้เช่นกันครับ

สิวที่หลังมีกี่ประเภท

ประเภทของสิวที่หลัง แบ่งให้เข้าใจง่าย จะมี 2 ประเภทใหญ่ แต่แม้จะเป็นสิวประเภทไหน แนะนำควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาอย่างถูกวิธีครับ

1. สิวที่หลัง แบบไม่อักเสบ

สิวขึ้นหลังเกิดจาก

สิวที่หลัง แบบไม่อุดตัน เป็นสิวประเภทสิวอุดตันที่มีลักษณะไม่มีการบวมแดง ไม่มีอาการเจ็บปวดของผิว สิวหลังประเภทนี้ หากรักษาหรือกำจัด ด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะไม่มีปัญหาในเรื่องของรอยตามมามากนัก และจะหายไว มักไม่เป็นแผลเป็น

สิวอุดตัน สิวหัวขาว หรือ สิวหัวปิด

สิวที่หลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มขนาดเล็ก มองด้วยตาเปล่าเป็นหัวสีขาวใต้ผิว ไม่เห็นรูขุมขน หากปล่อยไว้นาน จะมีเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Cuticobacterium acnes หรือ C. acnes ทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบขึ้นมาในอนาคตได้ และตามมาด้วยรอยแผลเป็นจากสิวเป็นรักษายากครับ

สิวอุดตัน สิวหัวดำ หรือ สิวหัวเปิด

สิวที่หลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มคล้ายสิวหัวขาว แต่จะสังเกตุเห็นรูขุมขนชัด จะมีจุดสีน้ำตาลหรือสีดำ เนื่องจากหัวสิวที่โผลขึ้นมา ทำปฏิกริยากับอากาศ จำเป็นต้องกดออกด้วยวิธีที่ถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบ และติดเชื้อในอนาคต ลดความเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็น

2. สิวที่หลัง แบบอักเสบ

สิวผดที่หลัง

สิวที่หลังกรณี สิวอักเสบ มีดังนี้

สิวอักเสบบวมแดง

สิวที่หลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มอักเสบ ปวด บวมแดง ไม่มีหัวหนอง เมื่อสิวยุบมักมีรอย และโอกาสเกิดแผลเป็นหลังสิวหายหากแกะเกา

สิวอักเสบแบบนูนบวมแดง

สิวที่หลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มขนาดเล็กอักเสบ เกิดจากสิวอัดตันมาก่อน หากทิ้งไว้นานหรืออักเสบนานก่อให้เกิดเป็นสิวหนอง

สิวอักเสบเป็นหนอง

สิวที่หลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มมีหัวหนองสีขาวหรือเหลือง ปวด บวมแดง หากทิ้งไว้นาน หรือรักษาผิววิธี มีโอกาสเกิดรอยดำ รอยแดง จากสิว รอยหายยาก และหากอักเสบนานก่อให้เกิดสิวอักเสบขนาดใหญ่ในอนาคตได้ครับ

สิวอักเสบขนาดใหญ่ สิวหัวช้าง

สิวที่หลังลักษณะนี้จะเป็นเป็นตุ่มอักเสบ ปวด บวมแดง มีหัวหนองสีขาวหรือเหลือง รักษายากกว่าสิวทุกประเภท หากรักษาผิววิธีเมื่อสิวหายจะมีรอยดำลึก รอยหายยาก และโอกาสเกิดแผลเป็นหรือ หลุมสิว แนะนำให้พบแพทย์เพื่อวางแผนรักษาทันทีครับ

หากเริ่มเป็นสิว แน่นอนโอกาสจะเป็นเรื้อรัง ค่อนข้างสูงเลยครับ จากที่เป็น 1 – 2 จุด พอเกิดความกังวล ไปจับ สัมผัส แกะ เกา สามารถทำให้ลุกลาม และยิ่งเป็นประเภทสิวอักเสบ จะเกิดรอยลึกแน่นอน ควรปรึกษาแพทย์ รักษาร่วมกับการทานยาฆ่าเชื้อที่จ่ายโดยแพทย์เท่านั้นครับ

สิวขึ้นหลังบอกโรคอะไรได้บ้าง

สิวขึ้นที่หลัง ที่คอ อาจจะเป็นอาการของโรค ได้เช่นกัน เช่น

  1. ตุ่มติดเชื้อบนผิวหนัง (Cyst) ถ้าหากผิวหนังอักเสบและติดเชื้อ ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองเกิดเป็นตุ่มสิวซีสต์ขึ้นมา
  2. คีลอยด์ (Keloid) แผลนูนหนา ตุ่มแข็งที่นู่นขึ้นมาไม่หายซักที

สิวที่หลังเยอะมาก สิวเต็มหลัง พบแพทย์ดีไหม ?

สำหรับท่านที่มีสิวที่หลังค่อนข้างเยอะมีอักเสบเป็นเม็ดใหญ่จำนวนมาก หรือมีรอยสิวค่อนข้างเยอะเต็มทั่วหลังหมอแนะนำว่าควรรับการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการรักษาสิวที่หลังโดยตรงจะเป็นการดีที่สุดครับ 

เพราะว่าปัญหาสิวที่หลังในกรณีที่เป็นเยอะหากเรารีบรักษาอย่างถูกวิธีให้เร็วที่สุด จะมีโอกาสที่สิวจะหายได้สนิทมากกว่าและใช้เวลาในการรักษาสั้นกว่าที่จะปล่อยให้เป็นหนักยิ่งขึ้นจนรุนแรงลุกลามแล้วมาเริ่มรักษาทีหลังนะครับ

วิธีรักษาสิวที่หลัง

วิธีรักษาสิวที่หลัง วิธีทำให้สิวที่หลังหาย ทำอย่างไรได้บ้าง ได้แก่

1. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นการกระตุ้นของการเป็นสิวที่หลัง

รักษาสิวที่หลัง
  1. งดการบีบแกะเกาสิวที่หลัง เนื่องจากจะทำให้เกิดเป็นรอยได้ง่าย และอาจจะทำให้สิวที่หลังอักเสบเพิ่มขึ้นสิวเต็มหลังได้ครับ
  2. รักษาความสะอาดของผิวบริเวณแผ่นหลัง ควรอาบน้ำถูสบู่เป็นประจำเช้าเย็นแต่ไม่ควรถี่กว่านั้นเนื่องจากจะทำให้ ผิวอาจเกิดการระคายเคืองขึ้นมาได้ครับ
  3. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะมีเหงื่อค่อนข้างเยอะ
  4. หลังอาบน้ำให้แต้ม เจลแต้มหัวสิว เวลาหลังรอให้แห้งสักครู่ แล้วจึงสวมเสื้อผ้า
  5. พยายามสวมใส่เสื้อผ้า ที่มีเนื้อไม่หนาจนเกินไประบายอากาศได้ดีไม่อับชื้น
  6. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง งดเข้าสตีม ซาวน่า

2. รักษาสิวที่หลังด้วยวิธีทางการแพทย์

รักษาสิวที่หลังด้วยยา

หากลองปรับพฤติกรรมแล้ว ยังไม่ดีขึ้น ใช้เวลานาน หรือหนักกว่าเดิม การรักษาโดยใช้วิธีการการแพทย์ซึ่งได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกรักษาสิวก็จะให้ผลที่ชัดเจน รวดเร็ว ปลอดภัย ได้ผลดีขึ้นอย่างแน่นอนมากกว่าครับ

ซึ่งโดยปกติแล้ววิธีการที่คุณหมอจะใช้ในการรักษาก็จะมีหลายวิธีด้วยกันได้แก่

  1. การกดสิวหลัง จะช่วยเอาหัวสิวอุดตันที่อยู่ตามรูขุมขนออกหากทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้วยวิธีที่ถูกต้องแล้วจะสามารถทำให้สิวหายได้เร็วขึ้นมากนัก
  2. การฉีดสิว ด้วยตัวยาลดการอักเสบซึ่งจะถูกฉีดเข้าสู่สิวที่อักเสบโดยตรงจะทำให้การอักเสบของสิวลดลงอย่างรวดเร็วเห็นผลภายใน 1-2 วันหลังฉีดช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดรอยดำหรือรอยแผลเป็นได้ครับ
  3. ทรีทเม้นท์ผิว ซึ่งมีได้หลายรูปแบบ บางคลีนิคอาจจะใช้วิธีการมาส์ค บางคลินิกอาจจะใช้เครื่องมืออุปกรณ์ อย่างเช่น คลื่นเลเซอร์ความถี่สูง หรือการฉายแสงลดเชื้อสิว เพื่อช่วยให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้นครับ
  4. เลเซอร์สิว และเลเซอร์รอยสิวหลัง ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิกมีเลเซอร์หลากหลายชนิดที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาสิวและรอยสิวได้ครับ
  5. ยา ในส่วนของตัวยาที่ใช้ในการรักษาสิวที่หลังจะถูกจ่ายโดยแพทย์ที่ทำการรักษาซึ่งรายละเอียดตรงนี้หมอจะพูดในหัวข้อถัดไปนะครับ

3. รักษาสิวที่หลังด้วยยา

ลบรอยสิวที่หลัง

สำหรับตัวยาที่ใช้ในการรักษาสิวที่หลังมีหลายชนิด

ตัวอย่างเช่น

  • เบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ Benzoyl peroxide มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C.acnes ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวอักเสบนอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยละลายสิวอุดตันทำให้สิวอุดตันหลวมและหลุดออกได้ง่ายขึ้นด้วยครับ

สำหรับผลิตภัณฑ์ BP ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะมาในรูปของเจลครีมที่จะทาทิ้งไว้แล้วล้างออกแต่ในต่างประเทศจะมีในรูปแบบของโฟมเจลที่เอาไว้ฟอกตัวแทนสบู่แล้วล้างออกด้วยครับ

  • อะดาพาลีน Adapalene ตัวยาอนุพันธ์กรดวิตามินเอที่มีคุณสมบัติช่วยละลายสิวอุดตันและป้องกันการเกิดสิวอุดตันใหม่ ตัวนี้มาในรูปของเจลครีมซึ่งเหมาะสำหรับทาเฉพาะก่อนนอนบริเวณที่เป็นสิว

ข้อควรระวังยาตัวนี้อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายสำหรับท่านที่ผิวค่อนข้างบอบบาง ควรใช้อย่างระมัดระวัง อาจเริ่มทาในปริมาณน้อยๆก่อนหรืออาจจะทาคืนเว้นคืนแล้วค่อยๆปรับเพิ่มทีหลังเมื่อผิวเริ่มคุ้นกับตัวยานะครับ

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวที่หลัง

วิธีป้องกันไม่ให้เป็นสิวที่หลัง
  1. เวลาอาบน้ำให้พยายามชำระล้างทำความสะอาดแผ่นหลังให้ทั่วถึงและหมดจดที่สุด 
  2. สำหรับท่านที่ผิวมีขี้ไคลได้ง่าย อาจทำการสครับผิวบ้างประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง โดยควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่หยาบหรือบาดผิวจนเกินไป และไม่ควรขัดด้วยความรุนแรงครับ
  3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายที่เหมาะกับผิว เช่น เลือกใช้ครีมอาบน้ำ หรือสบู่ที่เหมาะกับสภาพผิว หากผิวค่อนข้างมันอาจพิจารณาใช้สบู่ก้อนแทนการใช้ครีมอาบน้ำ เป็นต้น
  4. เปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อย ๆ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นละออง หรือเชื้อโรค ไรฝุ่นและอื่นๆ โดยหมอแนะนำให้พยายามทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าปูที่นอน รวมถึงผ้าห่มทุกสัปดาห์จะดีที่สุดครับ
  5. พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ยาสมุนไพร ยาต้ม ยาหม้อ ยาลูกกลอน ท่านที่ต้องการจะใช้ยากลุ่มฮอร์โมนเพศชายควรศึกษาผลก่อนใช้ให้ละเอียดครับ

รักษาสิวที่หลัง ที่ไหนดี

รักษาสิวที่หลัง ที่ไหนดี เป็นอีกหนึ่งคำถาม และตัวเลือกในการตัดสินใจ เพื่อเลือกคลินิกรักษาสิว เพราะปัจจุบัน สิวที่หลังโอกาสเกิดค่อนข้างสูง ทั้งจากฝุ่น มลภาวะ และสิ่งสำคัญที่ทำให้หายได้ คือการรักษา รักษาสิวหลัง ที่ไหนดี ที่ราคาไม่สูงมาก แต่มีความปลอดภัย เห็นผลเร็ว และแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด มาดูกันครับว่าควรเลือกจากอะไร 

  1. รักษาสิวที่หลัง ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง
  2. ต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง
  3. อุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ ที่ สะอาด ทันสมัย พร้อมใช้งาน
  4. มีขั้นตอนการรักษาสิวที่หลังที่ครอบคลุม พร้อมราคาที่สมเหตุสมผล
  5. รีวิวจากผู้ได้รับการรักษาจริง ไม่ว่าจะเป็นรีวิวจากทาง Facebook , Google Map , Wongnai , Website รวมรวมคลินิก และรีวิวจากคลินิกเอง เป็นรีวิวจากลูกค้าที่เข้ามารับบริการจริง
  6. คลินิกมีการใส่ใจในการบริการ และติดตามผลอย่างใกล้ชิด

รักษาสิวที่หลังหายขาด ที่ เอ็มวีต้าคลินิก

รักษาสิวที่หลังหายขาด

สำหรับที่เอ็มวีต้าคลินิกหมอมีโปรแกรมที่ค่อนข้างให้ผลดี รักษาสิวและรอยที่หลังได้อย่างเห็นผลค่อนข้างชัดเจน ซึ่งโปรแกรมนี้มีชื่อว่า เมดิแอคเคลียร์ ครับ ซึ่งโปรแกรมตัวนี้เป็นโปรแกรมตัวเดียวกับที่ทำที่ใบหน้า แต่จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน เล็กน้อยในบางจุดครับ

โปรแกรม Mediaclear ที่หลัง

รักษาสิวและรอยที่หลัง

สำหรับขั้นตอนของโปรแกรม Mediaclear ที่หลัง มีดังนี้ครับ

1. ทรีตเม้นท์ดูแลสิว ดังนี้

       – ผลัดเซลล์ผิวบริเวณหลัง อย่างอ่อนโยนด้วย Tangerine Peel ซึ่งเป็นกรดผลไม้ AHA ที่อ่อนโยนต่อผิว และช่วยลดการอุดตัน รักษารอยสิว ทำให้กดสิวได้ง่ายขึ้น

       – ทำโอโซนเปิดรูขุมขน ให้ง่ายต่อการกดสิว

       – จี้สิวอักเสบที่หลังด้วยคลื่นเลเซอร์ความถี่สูง ให้แห้งยุบลงไวขึ้น

       – ฉายแสงสีน้ำเงิน ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในผิวชั้นตื้น ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวหลัง และช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย

       – ฉีดสิวโดยแพทย์

       – ได้รับยาทาสิว 4 ชิ้นและยากิน 1 ชุดทุกๆครั้ง เพื่อให้รักษาต่อเนื่องด้วยตัวเองครับผม

2. เลเซอร์ขจัดรอยแดงรอยดำ ลดรอยสิวที่หลัง

ในส่วนของการเลเซอร์ลดรอยสิวที่หลัง ใช้เครื่องเลเซอร์ Pro Yellow Laser ประสิทธิภาพสูง จากประเทศเยอรมนี ร่วมกับเลเซอร์ Helios II  ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อสิว ลบรอยแดงรอยดำอย่างเห็นผล ตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มทำเลยครับ และยังควบคู่กับเลเซอร์ชนิดอื่น ตามอาการ ตามการประเมินของแพทย์ครับ ในส่วนของเลเซอร์หมอใช้ตัว จะ Cover รวมอยู่ในโปรแกรมแล้วครับ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

QuadrostarPro Yellow

สิวเต็มหลัง

QuadrostarPro Yellow ช่วยรักษาสิว รอยแดงและรอยดำสิวได้ดี แสงเลเซอร์ในช่วงความยาวคลื่นสีเหลือง (577 nm) จะถูกดูดซับได้ดีด้วย ฮีโมโกลบิน ในเม็ดเลือดแดง ซึ่งอยู่ในหลอดเลือด ดังนั้นแสงเลเซอร์ในช่วงคลื่นนี้จึงสามารถรักษาปัญหาผิวพรรณที่เป็นเกี่ยวกับเส้นเลือดได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ รอยแดงสิว รอยดำ และแสงในช่วงคลื่นนี้ยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย C.acnes และช่วยทำให้ต่อมน้ำมันมีขนาดเล็กลงได้อีกด้วยครับ

HELIOS II : Q switched Nd YAG

ผดที่หลัง

แสงตัวหลักที่หมอนำมาใช้ในการรักษาปัญหารอยดำสิว รอย สิวที่หลังเยอะมาก คือ แสงอินฟราเรด 1064 nm โดยจะยิงในโหมดที่เป็น Fractional ซึ่งจากประสบการณ์ ตัวนี้หากตั้งค่าพลังงานได้เหมาะสม จะให้ผลการรักษาในส่วนของรอยดำได้เห็นผลชัดเจนเร็วมากๆครับ โดยสามารถใช้ยิงควบคู่เป็นตัวเสริมกับ แสงสีเหลือง ของตัวเลเซอร์หลัก QuadrostarPro Yellow ได้ในกรณีที่มีรอยดำค่อนข้างเข้มครับ

ความพิเศษของ เลเซอร์รอยสิวที่หลัง ของ เอ็มวีต้าคลินิก

มาดูกันครับว่าทำไมต้อง รักษาสิวที่หลัง ที่ เอ็มวีต้า คลินิก

  1. เอ็มวีต้า คลินิก มีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง
  2. คุณหมอเอ็ม นพ.มนตรี อุดมประเสริฐกุล มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง และมีความเชี่ยวชาญประสบการณ์ด้านการรักษาสิว ผวพรรณ และความงาม มาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี มีเทคนิคในการยิงเลเซอร์เป็นเทคนิคพิเศษ ที่คิดค้นขึ้นมาจากประสบการณ์อันยาวนานซึ่งเห็นผลชัดเจนมาก หลังทำเพียงครั้งแรกก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างครับ
  3. ที่เอ็มวีต้า คลินิก มีทีมผู้เชี่ยวชาญ ที่ทุกคนได้รับการเทรนจากคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกเคสที่เข้ามารับบริการ มีผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  4. ผลลัพธ์การรักษา เน้นการรักษาแบบองค์รวม หากมีสิวก็จะให้การดูแลรักษาไปด้วย ไม่ได้รักษาแค่รอยอย่างเดียว จึงช่วยรักษาสิว สิวที่หลัง และช่วยป้องกันการเกิดรอยใหม่ ทำให้ผลการรักษาดีขึ้นอย่างชัดเจน
  5. อุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ ที่ เอ็มวีต้า คลินิก สะอาด ทันสมัย พร้อมใช้งาน มีเครื่องเลเซอร์ที่หลากหลายและเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงมาตรฐานระดับโลกจึงมั่นใจในผลการรักษาได้เป็นอย่างดี
  6. รีวิวจากทางคลินิก เอ็มวีต้า คลินิก รีวิว รักษาสิวที่หลัง จากผู้ได้รับการรักษาจริง ไม่ว่าจะเป็นรีวิวจากทาง Facebook , Google Map , Wongnai , Website รวมรวมคลินิก และรีวิวจากคลินิกเอง เป็นรีวิวจากลูกค้าที่เข้ามารับบริการจริง ครับผม
  7. รางวัลการันตี ที่ เอ็มวีต้า คลินิก โดย หมอเอ็ม นพ.มนตรี อุดมประเสริฐกุล ได้รับรางวัล Best Acne Treatment , 1st เรื่องการรักษาสิวจากเว็บการันตี และใบ Certificate มากมาย ยืนยันและการันตีในคุณภาพ และการให้บริการครับ
  8. ราคาตามจริง ไม่ขายนอกเหนือเกินความจำเป็น พนักงานรับชำระค่าบริการตามที่คนไข้คุยกับคุณหมอ ที่คุณหมอสั่งเท่านั้น

รักษารอยสิว ที่หลัง ภายใน 7 วัน ทำได้ไหม

คนส่วนใหญ่ต้องการความรวดเร็ว ต้องการ รักษาสิว รอยสิวที่หลัง ภายใน 7 วัน สามารถทำได้ครับ แต่ต้องเป็นกรณีของลักษณะสิวที่มีปริมาณน้อย ผดเล็กๆ สิวตื้น รอยสิวสีไม่เข้ม แค่ยังไม่เรื้อรังครับ แต่ใน 7 วันนี้ ต้องเข้มงวดกับตัวเองมาก ฟังและทำตามคำแนะนำการรักษาของแพทย์อย่างเคร่งครัด และถูกต้องครับ

รักษาสิวที่หลัง ราคา

รักษาสิวที่หลัง ราคา ที่เอ็มวีต้า คลินิก แพทย์แนะนำ รักษาด้วยโปรแกรม Medi-Aclear รักษาสิวหลังและเลเซอร์รอยสิวที่หลัง ครบสูตร

รักษาสิวที่หลัง ราคา

ราคา รักษาสิวที่หลัง

รักษาสิวหลัง ราคา

คำถามที่พบบ่อย

รักษาสิวที่หลัง กี่วันเห็นผล ?

โดยส่วนใหญ่แล้วสำหรับที่เอ็มวีต้าคลินิก การรักษาสิวที่หลังจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก ทั้งในส่วนของสิวและรอยสิวครับ

อย่างไรก็ตามท่านที่เป็นสิวค่อนข้างเยอะ หมอแนะนำให้ทำต่อเนื่อง จากที่ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ก็จะดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆจนหายในที่สุดครับ

สิวที่หลังลุกลามเป็น สิวที่หน้าอก สิวขึ้นหลังคอ ได้ไหม ?

โดยส่วนใหญ่แล้ว ท่านที่เป็นสิวที่หลังมักจะมีปัญหาสิวอยู่ที่เฉพาะโซนผิวบริเวณหลังครับ

อย่างไรก็ตามมีคนไข้บางท่าน ที่เป็นสิวที่หลัง และในขณะเดียวกันก็มีลุกลามมาที่หน้าอก บริเวณคอ และมาถึงบริเวณใบหน้าได้เช่นกัน คนไข้ในกลุ่มนี้ก็จัดว่าเป็นสิวค่อนข้างรุนแรงมากครับ 

ซึ่งคนไข้ในกลุ่มนี้หมอขอแนะนำว่าควรได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการรักษาสิวโดยตรงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะครับ

ข้อสรุป

สิวที่หลัง เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ โดยประเภทของสิวที่หลังนั้นมีหลายรูปแบบ บางประเภทที่ค่อนข้างรุนแรงหากไม่รักษาด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะทิ้งรอยแดงรวมถึงจุดด่างดำเมื่อหายไป การรักษาสิวที่หลังโดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในการรักษาร่วมด้วย แนะนำให้รีบรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่คลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรอง จะดีที่สุดครับ

เอ็มวีต้าคลินิก เราเป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านรักษาสิว โดยตรง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามแพทย์เพิ่มเติมได้จากช่องทางด้านล่างหรือแอดไลน์เพื่อการปรึกษาโดยตรงกับทางเรา ได้ที่…

เอ็มวีต้าคลินิกมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวพรรณโดยเฉพาะ คอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ก่อนการรักษา ในระหว่างการรักษา และหลังการรักษา เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สามารถติดต่อนัดคิวพบหมอ หรือสอบถามโปรโมชั่น ได้ที่…

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

เอกสารอ้างอิง

  • Bikowski J. “A review of the safety and efficacy of benzoyl peroxide (5.3%) emollient foam in the management of truncal acne vulgaris.” J Clin Aesthet Dermatol. 2010;3(11):26-9.
  • Brand B, Gilbert R, et al. “Cumulative irritancy comparison of adapalene gel 0.1% versus other retinoid products when applied in combination with topical antimicrobial agents.” J Am Acad Dermatol. 2003;49(3 Suppl):S227-32.
  • Del Rosso JQ. “Management of truncal acne vulgaris: current perspectives on treatment.” Cutis. 2006 May;77(5):285-9.
  • Eichenfield LF, Andrew C. Krakowski AC, et al. “Evidence-Based Recommendations for the Diagnosis and Treatment of Pediatric Acne.” Pediatrics. 2013;131 Suppl 3:S163-86.
  • Leyden JJ, Del Rosso JQ. “The effect of benzoyl peroxide 9.8% emollient foam on reduction of Propionibacterium acnes on the back using a short contact therapy approach.” J Drugs Dermatol. 2012;11(7):830-3.

วันเผยแพร่

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*: