เลเซอร์รอยดำ คืออะไร ? ได้ผลจริงไหม ทำที่ไหนดี ?

รอยดำ รอยแดง จากสิวเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจของสาวๆหลายคน แม้รอยดำจะสามารถหายเองได้หากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีแต่ก็ใช้เวลานาน อาจจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีครับ ดังนั้นจึงมีนวัตกรรมเลเซอร์รอยดำเพื่อเร่งให้รอยดำจางลงเร็วมากขึ้น ใช้เวลาน้อยลง ช่วยกู้ความมั่นใจให้กับผู้ประสบปัญหารอยสิวครับ

หัวข้อที่น่าสนใจ

รอยดำคืออะไร

ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องเลเซอร์รอยดำ มาเรียนรู้ก่อนว่ารอยดำคืออะไร รักษาอย่างไร เพื่อจะได้รักษาตนเองอย่างถูกวิธีครับ

รอยดำเกิดจากอะไร

รอยดำ เป็นรอยสิวรูปแบบหนึ่งที่เกิดจากการรักษาสิวอักเสบแบบผิดวิธี ทำให้ร่างกายหลั่งสารอักเสบและผิวหนังระคายเคือง จึงกระตุ้นให้เมลาโนไซต์ผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากเกินไปในบริเวณนั้นๆ ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดเป็นรอยแผลเป็นจากสิว ซึ่งรอยดำมักจะใช้เวลารักษานานเพราะเป็นการอักเสบที่ชั้นผิวหนังแท้ครับ

วิธีรักษารอยดำมีอะไรบ้าง

1. ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน C – ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนรอยดำ
2. ใช้ยาหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของเรตินอล – เรตินอล หรือวิตามิน A มีฤทธิ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้รอยดำดูจางลง อีกทั้งยังลดโอกาสการเกิดสิวใหม่
3. ใช้ยาที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิก แอซิด (BHA) หรือไกลโคลิคแอซิด (AHA) – ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนและผลัดเซลล์ผิว
4. ผลัดผิวด้วยสารเคมี – เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เห็นผลค่อนข้างไว้ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญใช้สารเคมีผลัดเซลล์ผิวให้ รอยดำจึงลดลงเร็ว แต่เห็นผลช้ากว่าการใช้เลเซอร์ลบรอยดำ
5. เลเซอร์รอยดำ – การทำเลเซอร์ลดรอยสิวเป็นวิธีแนะนำในการรักษารอยดำเพราะเห็นผลชัดเจน และยังช่วยฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสครับ

เลเซอร์รอยดำ

เลเซอร์รอยดำเป็นเลเซอร์รอยสิวรูปแบบหนึ่ง เป็นวิธีลดรอยดำจากสิวที่ได้รับความนิยมเพราะถือว่าเป็นวิธีที่เห็นผลเร็ว นอกจากนี้เลเซอร์จุดด่างดำยังช่วยทำให้ผิวดูดีมากยิ่งขึ้น เป็นการฟื้นฟูผิวพรรณให้มีน้ำมีนวลมากขึ้นไปในตัวครับ 

ทั้งนี้การทำเลเซอร์รอยดำควรทำในคลินิกที่เชื่อถือได้ เพราะหากไม่เชี่ยวชาญอาจส่งผลเสียมากกว่าเดิมครับ

ตัวอย่างเลเซอร์ลดรอยดำสิว เช่น q switch laser, picosecond laser, dual yellow laser

เลเซอร์รอยดำ มีกลไกอย่างไร

เลเซอร์รอยดำมีกลไกการทำงานได้สองรูปแบบคือ 

1. ใช้พลังงานและความยาวคลื่นของเลเซอร์จี้ไปยังรอยดำเพื่อลอกชั้นผิวหนังออก จะได้ผลดีกับรอยดำตื้นๆ นอกจากนี้การกรอเซลล์ผิวหนังเดิมออกก็จะเป็นการกระตุ้นให้สร้างชั้นผิวหนังใหม่ไปในตัว
2. ช่วยทำลายเม็ดสีเมลานินที่มีมากเกินไป วิธีนี้จะดีสำหรับรอยดำลึกๆครับ

ทั้งนี้พลังงานและความยาวคลื่นที่ใช้จะแตกต่างกันไปเพราะรอยดำอาจอยู่ในชั้นผิวหนังลึกไม่เท่ากัน ส่งผลให้จำนวนครั้งการทำเลเซอร์ลดรอยดำต่างออกไปด้วยเช่นกัน โดยเลเซอร์รอยดำจะทำประมาณ 4-6 ครั้ง รอยดำจึงจะจางหายไป แต่เลเซอร์สามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้ตั้งแต่ครั้งแรกๆที่ทำครับ

เลเซอร์รอยดำ มีกี่แบบ อะไรบ้าง

เลเซอร์รอยดำมีประเภทหลัก 2 แบบ ด้วยกันครับ

1. เลเซอร์ที่ทำให้เกิดแผล

เลเซอร์รอยดำประเภทนี้จะใช้เลเซอร์ในการกรอผิวเพื่อลอกชั้นผิวออกโดยใช้ลำแสงความเข้มข้นสูง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพราะเป็นการลอกเซลล์ผิวที่มีเมลานินส่วนเกินออกจึงเห็นผลค่อนข้างเร็วครับ หลังการรักษาผิวอาจมีรอยแดงแต่จะหายเองใน 3-10 วันครับ เลเซอร์ประเภทนี้ เช่น Trinity, Aurora, และDual Yellow Laser

2. เลเซอร์ที่ไม่ทำให้เกิดแผล

เลเซอร์ลดรอยสิวประเภทนี้จะไม่ได้ทำลายชั้นผิวหนังออกแต่เป็นการกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนแทนและทำปฏิกิริยากับรอยสิวใต้ผิวหนัง จึงไม่ทำให้เกิดแผล แต่วิธีนี้ก็จะเห็นผลช้ากว่าครับ เลเซอร์ประเภทนี้ เช่น CO2 Laser, ND:YAG, Diode Laser, Picosecone Laser, และเลเซอร์ในกลุ่ม Q Switch Laser อย่าง Alexandrite, Ruby

ทั้งนี้จะเลือกแบบใดก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ ปริมาณจุดด่างดำและปัจจัยอื่นๆ เช่น มีการรักษารอยแผลจากสิวชนิดอื่นอย่างการใช้ เลเซอร์หลุมสิวไหม แพทย์จะให้คำแนะนำเพิ่มเติมครับ 

ข้อดี – ข้อจำกัดของการเลเซอร์รอยดำ

หลังจากแนะนำเรื่องเลเซอร์รอยดำมาพอสมควรแล้ว เราจะมาเทียบข้อดีและข้อจำกัดของเลเซอร์ลบรอยดำให้เห็นชัดๆครับ

ข้อดีของการเลเซอร์รอยดำ

• เห็นผลเร็ว รอยดำสิวจางไว
• ช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน มีน้ำมีนวล
• เลเซอร์รอยดำช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

ข้อจำกัดของการเลเซอร์รอยดำ

• ราคาค่อนข้างสูง
• ต้องมารับการรักษาด้วยเลเซอร์รอยดำหลายครั้ง อย่างต่ำ 4-6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกันประมาณ 1-2 สัปดาห์
• ผู้ที่มีรอยแผลจากสิวประเภทอื่นๆ เช่น หลุมสิว ด้วยอาจต้องใช้เลเซอร์หลายครั้ง

การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์รอยดำ

ก่อนทำเลเซอร์รอยดำต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูกันเลยครับ

1. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และบุหรี่อย่างต่ำ 2 สัปดาห์
2. เลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง เลี่ยงแสงแดด 1-2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ลดรอยสิว
3. ใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ BHA(ซาลิไซลิก เอซิด)และAHA ได้ปกติก่อนทำเลเซอร์รอยดำ แต่งดการสครับผิว
4. หากมียาโรคประจำตัว แจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
5. งดยาแอสไพรินและอาหารเสริม 2 สัปดาห์
6. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

ขั้นตอนการเลเซอร์รอยดำ

ขั้นตอนและระยะเวลาอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและเครื่องมือต่างๆที่ใช้ทำเลเซอร์รอยดำครับ แต่โดยรวมเลเซอร์รอยดำสิวมีขั้นตอนดังนี้ครับ

ขั้นตอนที่ 1 ทำความสะอาด

แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าและเครื่องสำอางทั้งหมดก่อนการทำเลเซอร์รอยดำ ทางที่ดีคือไม่แต่งหน้ามารับการรักษาครับ

ขั้นตอนที่ 2 ทายาชา

• อาจจะมีการทายาชาบริเวณที่ทำอย่างต่ำ 30 นาที เพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บระหว่างทำเลเซอร์รอยดำ (เฉพาะทำเลเซอร์แบบที่ทำให้เกิดแผล)

ขั้นตอนที่ 3 ยิงเลเซอร์

ใช้ลำแสงเลเซอร์รอยดำยิงเข้าที่รอยดำเพื่อทำให้จางลง เวลาที่ใช้คือประมาณ 10-30 นาที อาจเพิ่มลดตามสภาพผิวหน้าและเครื่องมือ และยังขึ้นอยู่กับว่ารักษาร่วมกับรอยสิวรูปแบบอื่นหรือไม่ด้วยครับ

การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์รอยดำ

หลังทำเลเซอร์รอยดำแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดีดังนี้ครับ

1. งดใช้เครื่องสำอางประมาณ 1 สัปดาห์
2. งดล้างหน้า 24 ชั่วโมง
3. เลี่ยงการสครับผิว ผลัดหรือขัดเซลล์ผิวด้วยตนเอง
4. เลี่ยงแสงแดด ที่แจ้งที่มีแดดจัด ประมาณ 2 สัปดาห์
5. ป้องกันรูขุมขนอุดตันด้วยการใช้สกินแคร์ที่ไม่มีส่วนผสมเป็นน้ำมันประมาณ 2-3 เดือน
6. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยครีมบำรุง
7. ถ้ามีสิวขึ้นหลังทำเลเซอร์รอยดำ ไม่ควรแกะสิวเอง
8. ทางคลินิกอาจมียาให้ ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแแพทย์สม่ำเสมอครับ

นอกจากต้องดูแลตนเองให้ดีแล้ว เลเซอร์รอยดำอาจมีผลข้างเคียงดังนี้ครับ

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดหลังเลเซอร์รอยดำ

• เกิดรอยแดงที่ผิว แต่รอยแดงนี้จะหายไปเองในประมาณหนึ่งสัปดาห์ คันผิวหน้า
• เลือดออก
• แสบหน้า
• ผิวหนังบวมแดง

อาการเหล่านี้ควรหายภายใน 3-10 วันหลังทำเลเซอร์รอยดำ หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์ หากมีแผลพุพอง มีหนอง ควรพบแพทย์ทันที

ดูแลผิวอย่างไรไม่ให้เกิดรอยดำ

วิธีที่ดีที่สุดคือป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำตั้งแต่แรก โดยสามารถป้องกันได้ดังนี้ครับ

• ล้างหน้าเป็นประจำอย่างถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกไม่ให้มาอุดตันรูขุมขน
• ล้างเครื่องสำอางค์ให้สะอาดก่อนนอน
• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า สกินแคร์ที่อ่อนโยนต่อผิว
• ทานอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยงอาหารไขมันสูง เช่น ของทอด เพราะอาจทำให้มีไขมันอุดตันในรูขุมขนง่ายขึ้น
• เลี่ยงการสูบบุหรี่เพราะมีสารทำลายคอลลาเจน
• ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ทั้งนี้การโดดแดดจัดอาจทำให้รอยดำเข้มขึ้นกว่าเดิมจึงควรเลี่ยง
• หากมีสิว ควรรักษาสิวอย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดรอย

แต่หากมีรอยดำเกิดขึ้นมาแล้ว ทางเอ็มวีต้าคลินิกก็ขอแนะนำเลเซอร์รอยดำเพื่อให้รอยดำจางลงอย่างรวดเร็วพร้อมเสริมสุขภาพผิวหน้าครับ

เลเซอร์รอยดำที่ไหนดี

หากมีคำถามว่า เลเซอร์รอยดําที่ไหนดี? การรับการรักษาด้วยเลเซอร์รอยดำมีความละเอียดอ่อน จึงควรเลือกสถานที่ที่ตรงตามเกณฑ์ดังนี้ครับ

1. แพทย์น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาติ สามารถตรวจสอบได้จาก https://checkmd.tmc.or.th/ ครับ
2. มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีใบรับรองความปลอดภัย
3. แพทย์มีความเชี่ยวชาญมาก มีใบ certificate ต่างๆ เพราะการรักษาด้วยเลเซอร์จะต้องแม่นยำเรื่องการใช้พลังงานและความถี่ ตั้งค่าเครื่องมือให้ดี เพื่อผลลัพธ์ที่ดีไม่ให้รอยดำชัดขึ้นกว่าเดิมครับ
4. มีรีวิวการรักษาที่น่าเชื่อถือ
5. มีบริการหลังการรักษาโดยมีพนักงานโทรมาสอบถาม

เลเซอร์รอยดำที่ Mvita Clinic

ที่เอ็มวีต้าคลินิก เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมเครื่องมือทันสมัยให้บริการ การันตีด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีทั้งยังมีรีวิวมากมายครับ ถ้ามีคำถามใดๆเกี่ยวกับเลเซอร์รอยดำหรือปัญหาผิวหน้าอื่นๆ ผู้เชี่ยวชาญของเรายินดีตอบคำถามครับ

หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ Line: @mvitaclinic

เลเซอร์รอยดำ ราคาเท่าไหร่

เลเซอร์รอยดํา ราคาเท่าไร? ทางเอ็มวีต้าคลินิกเรามีหลายโปรแกรมที่เกี่ยวกับเลเซอร์รอยดำให้เลือก ขึ้นอยู่กับความต้องการครับ

• Medi-Aclear : รักษาทั้งรอยดำ รอยแดงจากสิว และสิว
  • คอร์ส 10 ครั้ง ราคา 17,000 บาท ตกครั้งละ 1,700 บาท
  • คอร์ส 5 ครั้ง ราคา 10,500 บาท ตกครั้งละ 2,100 บาท
  • รายครั้ง ครั้งละ 3,500 บาท
• Gold K Scan : เหมาะสำหรับรักษารอยดำรอยแดงจากสิว ไม่จำกัดจำนวนรอย
  • คอร์ส 10 ครั้ง ราคา 13,500 บาท ตกครั้งละ 1,350 บาท
  • คอร์ส 5 ครั้ง ราคา 8,500 บาท ตกครั้งละ 1,700 บาท
  • รายครั้ง ครั้งละ 2,500 บาท

รีวิวเลเซอร์รอยดำ

ที่คลินิกเอ็มวีต้ามีรีวิวที่เห็นผลลัพธ์จากเลเซอร์รอยดำมากมาย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลเซอร์รอยดำ ( Q & A )

บางคนอาจจะมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องเลเซอร์รอยดำหรือเลเซอร์ลดรอยสิวอยู่ ทางเอ็มวีต้าได้รวบรวมคำตอบไว้แล้วครับ

คุณหมอเอ็มให้กำลังใจคนมีปัญหาสิว สิวอักเสบ ที่ขาดความมั่นใจเรื่องผิวทุกท่านนะครับ ว่ารักษาหายได้ อย่างตรงจุด ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ กลับมาผิวสวย หน้าใส อีกครั้งครับ หมอเอ็ม ยินดีให้คำปรึกษาฟรี!! ครับ

• เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
• อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
• ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
• สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
• เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
• ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

เอกสารอ้างอิง

• Callender, V. D., St Surin-Lord, S., Davis, E. C., & Maclin, M. (2011). Postinflammatory hyperpigmentation: etiologic and therapeutic considerations. American journal of clinical dermatology, 12(2), 87–99. https://doi.org/10.2165/11536930-000000000-00000
• Goldman L, Wilson RG, Hornby P, Meyer RC. Radiation From a Q-Switched Ruby Laser.J Invest Dermatol1965,44(1):69–71
• Lee, S., Lee, T., Kim, H., Kim, J., Eun, H., & Kim, R. (2013). A practical comparison of Copper Bromide Laser for the treatment of vascular lesions. Annual International Conference of the IEEE Engineering in Medicine and Biology Society. IEEE Engineering in Medicine and Biology Society. Annual International Conference, 2013, 3765–3768. https://doi.org/10.1109/EMBC.2013.6610363
• Shah, S., & Alster, T. S. (2010). Laser treatment of dark skin: an updated review. American journal of clinical dermatology, 11(6), 389–397. https://doi.org/10.2165/11538940-000000000-00000

ค้นหา