สิวเสี้ยน

สิวเสี้ยนเป็นปัญหาผิวที่หลายคนกังวล ไม่อยากให้เกิด แต่รู้หรือไม่ว่าสาเหตุของการเกิดสิวเสี้ยนมีอะไรบ้าง? ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกว่า สิวเสี้ยนเกิดจากอะไร ? รักษาอย่างไร ? ป้องกันอย่างไร ?

สิวเสี้ยน คืออะไร

สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) คือ กลุ่มเส้นขนสีดำหรือสีขาวที่กระจุกตัวอยู่ในรูขุมขน เป็นการอุดตันของขนและรากขนในรูขุมขน พบบ่อยบนใบหน้าของเรา ส่วนใหญ่จะเห็นชัดเจนบนปลายจมูก คาง และแก้ม โดยมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ อยู่มากมาย หรือมีเส้นขนเล็กๆ เหมือนหนามแหลมยื่นออกมาจากรูขุมขน สิวเสี้ยนนั้นมีลักษณะที่คล้ายสิว แต่ไม่ใช่สิว เป็นเพียงการอุดตันของขนและรากขนที่เกิดขึ้นในรูขุมขนเพิ่มขึ้นจากปกติ

สาเหตุการเกิด สิวเสี้ยน

สาเหตุการเกิดสิวเสี้ยนยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่

• ขนที่ผิดปกติ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดสิวเสี้ยน ขนที่ผิดปกติเหล่านี้จะงอกออกมาจากรูขุมขนในลักษณะที่ผิดปกติ เช่น งอกออกมาในทิศทางที่ผิด งอกออกมาเป็นเส้นๆ หลายเส้นในรูขุมขนเดียว หรืองอกออกมาเป็นเส้นๆ ที่ยาวมาก
• ไขมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ไขมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วที่อุดตันรูขุมขนร่วมกับขนที่ผิดปกติ จะทำให้เกิดเป็นสิวเสี้ยน ในที่สุด
• ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงวัยรุ่นหรือตั้งครรภ์ อาจกระตุ้นให้เกิดสิวเสี้ยนได้
• เครื่องสำอาง เครื่องสำอางบางชนิดอาจอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวเสี้ยนได้ โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ซิลิโคน หรือพาราเบน

สิวเสี้ยน มีกี่แบบ

สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ สิวเสี้ยนหัวขาว และสิวเสี้ยนหัวดำ

• สิวเสี้ยนชนิดหัวขาว เกิดจากไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อุดตันในรูขุมขน มีลักษณะเป็นก้อนสีขาวหรือขุ่น มักพบบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก
• สิวเสี้ยนชนิดหัวดำ เกิดจากไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อุดตันในรูขุมขน พร้อมกับมีแบคทีเรียเจริญเติบโต ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีของไขมันเป็นสีดำ มีลักษณะเป็นจุดสีดำ มักพบบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก

สิวเสี้ยนเกิดบริเวณไหนได้บ้าง ?

สิวเสี้ยนสามารถเกิดขึ้นได้บริเวณใดก็ตามที่มีรูขุมขน แต่มักพบบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณจมูก แก้ม คาง และหน้าผาก ซึ่งบริเวณเหล่านี้มีรูขุมขนที่กว้างและผลิตน้ำมันมากกว่าบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย

นอกจากบริเวณใบหน้าแล้ว สิวเสี้ยนยังสามารถเกิดขึ้นบริเวณลำคอ หน้าอก แผ่นหลัง และต้นแขนได้อีกด้วย

สิวเสี้ยน มีลักษณะอย่างไร ?

สิวเสี้ยน มีลักษณะเป็นขนอ่อน มองเป็นจุดเล็กๆ สีดำหรือน้ำตาลบนใบหน้า ซึ่งสิวเสี้ยนและสิวหัวดำมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสิวชนิดเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างกันครับ ดังนี้

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวเสี้ยน

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวเสี้ยน มีดังนี้

• ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนวันละ 2 ครั้ง ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดสิวเสี้ยน เช่น การใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน การบีบสิว
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีน และธัญพืชเต็มเมล็ด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และแป้งขัดสี
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการอุดตันของรูขุมขน

หมอแนะนำเพิ่มเติมครับ

• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (salicylic acid) หรือกรดไกลโคลิก (glycolic acid) ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันของรูขุมขน
• หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน เช่น เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน แว็กซ์ หรือซิลิโคน
• หลีกเลี่ยงการบีบสิวเสี้ยนเอง เพราะอาจทำให้รูขุมขนอักเสบและเกิดรอยแผลเป็นได้
• พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด เพราะอาจทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนและกระตุ้นให้เกิดสิวเสี้ยนได้

สิวเสี้ยน อันตรายไหม

สิวเสี้ยนจัดอยู่ในประเภทของสิวชนิดไม่รุนแรง จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่เป็นอันตรายต่อผิวในระยะยาว แต่อาจทำให้เกิดความรำคาญและปัญหาด้านความสวยงามได้

หากสิวเสี้ยนอักเสบ อาจทำให้เกิดรอยแดง บวม เจ็บ และอาจเกิดเป็นหนองได้ ในกรณีที่สิวเสี้ยนอักเสบรุนแรง อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้

นอกจากนี้ สิวเสี้ยนอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้หากไม่รักษาอย่างเหมาะสมดังนั้นจึงควรดูแลรักษาสิวเสี้ยนอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อ

วิธีรักษาสิวเสี้ยน

การรักษาสิวเสี้ยนเป็นวิธีที่จะช่วยกำจัดสิวเสี้ยนบนใบหน้าของเราได้ ช่วยให้ผิวหน้าสะอาด ปราศจากจุดสีขาวหรือดำของสิวเสี้ยน วิธีการรักษาสิวเสี้ยนมีทั้งวิธีการรักษาด้วยตัวเอง และการรักษาแบบที่จะต้องพึ่งพาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สำหรับวิธีต่างๆ ในการรักษาสิวเสี้ยน มีดังนี้

• ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและได้รับความนิยมมาก อีกทั้งยังทำได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนที่เป็นแผ่นมาสก์ แปะลงไปบนผิวบริเวณจมูก ทิ้งไว้สักครู่หนึ่งแล้วลอกออก ก็สามารถกำจัดสิวเสี้ยนได้แล้ว การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนจะช่วยกำจัดสิวเสี้ยนในบริเวณกว้าง แต่ก็ควรระวังการใช้งาน ไม่ควรใช้บ่อยครั้งจนเกิดไป ยิ่งผู้ที่มีมีผิวบอบบาง แพ้ง่าย อาจทำให้ผิวเกิดความระคายเคือง เกิดผิวแห้ง ผิวลอก หรืออักเสบได้

• สครับผิวหน้า

วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้กับใบหน้าของเรา โดยใช้การสครับผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ลดการอุดตันในรูขุมขน แนะนำให้สครับผิวอย่างเบามือ และไม่สครับบ่อยครั้งจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้ผิวแห้งและเสียสมดุลผิว เมื่อสครับผิวแล้วควรบำรุงผิวด้วย เพื่อให้มีความผิวชุ่มชื้นและเนียนกระชับขึ้น

• ใช้สกินแคร์กำจัดสิวเสี้ยน

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด BHA และ AHA สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดเหล่านี้มีคุณสมบัติในการจัดการปัญหาสิวเสี้ยน เพราะเป็นกรดที่สามารถละลายในไขมัน แล้วซึมเข้าสู่รูขุมขนและต่อมไขมันเพื่อลดการอุดตันในรูขุมขนได้ดี จึงช่วยจัดการสิวเสี้ยนบนใบหน้าได้ดี และยังช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส

• รักษาด้วยการกดสิว

การกดสิวใช้เครื่องมือพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อกดสิวเสี้ยนดำหรือสิวหัวดำ โดยจะกดบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยนดำเพื่อให้ก้อนไขมันและสิ่งที่อุดตันอยู่ภายในรูขุมขนถูกบีบออกมา ควรใช้วิธีนี้อย่างระมัดระวัง แนะนำให้ทำกับผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่ากดสิวเอง หรือเลือกใช้บริการกับคลินิกที่ดูแลด้านผิวพรรณที่มีแพทย์อยู่ เพื่อให้ผิวหน้าได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและปลอดภัย

• ลอกสิวเสี้ยนด้วยกรดผลไม้

เป็นกระบวนการที่ใช้กรดผลไม้เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกและสร้างผิวใหม่ที่เรียบเนียนขึ้น กรดที่ใช้จะมีความเข้มข้นที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม การลอกสิวด้วยกรดผลไม้ควรทำกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย เพราะอาจเกิดรอยดำ ผิวแห้งลอก แสบผิวได้

• เลเซอร์สิวเสี้ยน

วิธีนี้จะเป็นการใช้เลเซอร์เพื่อจัดการปัญหาสิวเสี้ยนได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น การเลเซอร์สิวมีอยู่มากมายหลายแบบที่ช่วยในการรักษาสิวเสี้ยนได้ เช่น CO2 Laser, V beam, Pico Laser, Long Pulse Nd Yag รวมถึงการฉายแสง IPL ก็สามารถรักษาสิวเสี้ยนได้เช่นกัน หากรักษาเป็นประจำจะช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้เกือบหมด แต่ควรรักษากับเพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะวิธีนี้อาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น ผิวแดง ผิวแห้ง หรือระคายเคืองผิว ช่วยรักษาสิวเสี้ยนได้ดีและมีประสิทธิภาพสูง

ลอกสิวเสี้ยน ราคา

ลอกสิวเสี้ยน ที่ เอ็มวีต้า คลินิก ราคา 300.- ต่อ บริเวณครับ ทำโดยผู้เชี่ยวชาญครับผม ที่ เอ็มวีต้า คลินิก รักษาสิวอย่างเชี่ยวชาญ มีโปรแกรมรักษาสิวที่ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย และสิวทุกประเภท ครับผม

ข้อควรระวังในการกำจัดสิวเสี้ยน

• หลีกเลี่ยงการบีบสิวเสี้ยนเอง เพราะอาจทำให้รูขุมขนอักเสบและเกิดรอยแผลเป็นได้
• หากสิวเสี้ยนอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

หากทำตามวิธีดูแลรักษาสิวเสี้ยนข้างต้นแล้ว พบว่าสิวเสี้ยนยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม

เอ็มวีต้า คลินิกรักษาสิว

หากกำลังมองหาคลินิกรักษาสิว สิวเสี้ยน หรือปัญหาผิวด้านอื่น ๆ M Vita Clinic ดูแลรักษาใบหน้าแบบครบวงจร รักษาสิวและสุขภาพผิว มีบริการรักษาสิวให้เลือกหลากหลาย ติดต่อ สอบถาม ปรึกษา ได้ที่…