ผิวขาดน้ำ

ผิวขาดน้ำคืออะไร ต่างจากผิวแห้งอย่างไร พร้อมเคล็ดลับบูสต์ผิวให้กลับมาชุ่มชื้น

ผิวขาดน้ำ เป็นปัญหาผิวที่หลายคนมักมองข้าม เพราะคิดว่าเป็นเพียงผิวแห้งธรรมดา แต่ความจริงแล้วผิวขาดน้ำกับผิวแห้งคือภาวะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าคุณรู้สึกว่าผิวหมองคล้ำ แต่งหน้าไม่ติด เป็นขุยง่าย หรือรู้สึกตึง ๆ หลังล้างหน้า นั่นอาจเป็นสัญญาณของผิวขาดน้ำก็ได้ บทความนี้ หมอเอ็ม จาก M VITA Clinic จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจความแตกต่างของปัญหาผิวทั้งสองประเภทนี้ พร้อมแชร์เคล็ดลับฟื้นฟูผิวให้กลับมาชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอกครับ

ผิวขาดน้ำคืออะไร อาการเป็นอย่างไร

ผิวขาดน้ำ (Dehydrated Skin) คือ ภาวะที่ผิวมีน้ำในผิวไม่เพียงพอ แม้ภายนอกอาจดูมันหรือแห้ง แต่จริง ๆ แล้วโครงสร้างผิวภายในกลับขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวดูไม่สดใส แต่งหน้าไม่ติด รู้สึกตึง ผิวหมองง่าย และไวต่อการระคายเคือง

ผิวขาดน้ำเกิดจากอะไร

ผิวขาดน้ำเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การดื่มน้ำน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ การอยู่ในห้องแอร์หรืออากาศแห้งเป็นเวลานาน รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไปจนทำลายน้ำมันธรรมชาติของผิว นอกจากนี้ การล้างหน้าบ่อยเกินความจำเป็นก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำโดยไม่รู้ตัวได้

ผิวขาดน้ำต่างจากผิวแห้งอย่างไร

ผิวขาดน้ำต่างจากผิวแห้งอย่างไร

แม้จะดูคล้ายกัน แต่ผิวขาดน้ำและผิวแห้งก็มีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • ผิวขาดน้ำ คือ ภาวะที่ผิวขาด ‘น้ำ’ ซึ่งอาจเกิดกับทุกสภาพผิว แม้แต่คนผิวมันก็สามารถมีผิวขาดน้ำได้
  • ผิวแห้ง คือ ผิวที่ขาด ‘น้ำมัน’ โดยธรรมชาติ เป็นลักษณะเฉพาะของผิวที่ผลิตไขมันน้อย จึงมักลอกเป็นขุยและรู้สึกผิวตึงตลอดเวลา

ดังนั้น คนที่มีผิวหน้าแห้งจริง ๆ อาจต้องใช้การบำรุงที่เน้นเพิ่มไขมันให้ผิว ในขณะที่คนผิวขาดน้ำต้องเน้นเติมความชุ่มชื้นจากน้ำและสารไฮเดรตโดยเฉพาะ

5 เคล็ดลับแก้ปัญหาผิวขาดน้ำ

การดูแลผิวขาดน้ำไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ถ้าเราเข้าใจวิธีเติมน้ำให้ผิวอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ โดยสามารถทำตามวิธีง่าย ๆ ที่ M VITA Clinic นำมาฝากได้ตามนี้

1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เติมความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก

ดื่มน้ำให้เพียงพอ เติมความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก

การดื่มน้ำเป็นพื้นฐานที่ง่ายที่สุดในการดูแลผิว เพราะน้ำช่วยหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรดื่มน้ำวันละประมาณ 6–8 แก้ว หรือ 1.5–2 ลิตรขึ้นไป และถ้าคุณออกกำลังกายหรืออยู่ในที่ที่อากาศร้อน ควรดื่มเพิ่มเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากร่างกายด้วย นอกจากนี้ การเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดการขับน้ำออกจากร่างกายและป้องกันผิวแห้งจากภายในด้วย

2. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ตัวช่วยล็อคความชุ่มชื้น

ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ตัวช่วยล็อคความชุ่มชื้น

มอยส์เจอไรเซอร์คือไอเทมสำคัญที่คนผิวขาดน้ำไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีสารดึงน้ำ (Humectants) อย่าง Hyaluronic Acid ที่ช่วยดูดซับน้ำเข้าสู่ผิว, Glycerin ที่ช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้น และ Ceramide ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง โดยแนะนำให้ทามอยส์เจอไรเซอร์ขณะผิวยังหมาดหลังล้างหน้า เพื่อช่วยล็อคน้ำไว้ในผิวได้ดีขึ้น และเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น คนที่มีผิวหน้าแห้งอาจเลือกเนื้อครีมเข้มข้นมากกว่าคนผิวมัน

3. ลดอาบน้ำอุ่น เพื่อปกป้องชั้นไขมันธรรมชาติของผิว

ลดอาบน้ำอุ่น เพื่อปกป้องชั้นไขมันธรรมชาติของผิว

แม้การอาบน้ำอุ่นจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่สำหรับผิวแล้ว กลับเป็นตัวการที่ทำให้ผิวขาดน้ำมากขึ้น เพราะน้ำร้อนจะละลายไขมันธรรมชาติที่เคลือบอยู่บนผิว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นเร็วกว่าปกติ ถ้าคุณมีผิวแห้งหรือรู้สึกตึงผิวหลังอาบน้ำ ควรลดอุณหภูมิของน้ำ และอาบให้น้อยกว่า 15 นาที พร้อมใช้เจลอาบน้ำสูตรอ่อนโยนที่ไม่มีสารซัลเฟต เพื่อปกป้องสมดุลผิวในระยะยาว

4. ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ ช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน

ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ ช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน

การอยู่ในห้องปรับอากาศหรือทำงานในออฟฟิศนาน ๆ คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นโดยไม่รู้ตัว การใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศจึงเป็นวิธีที่ช่วยปรับสมดุลความชื้นในสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่นอนในห้องแอร์เป็นประจำ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศแห้ง เช่น ฤดูหนาวหรือในเมืองใหญ่ การรักษาความชื้นในห้องให้อยู่ระหว่าง 40–60% จะช่วยให้ผิวไม่ระคายเคือง และยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วย

5. ใช้มาสก์บำรุงผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง บูสต์ความชุ่มชื้นเร่งด่วน

ใช้มาสก์บำรุงผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง บูสต์ความชุ่มชื้นเร่งด่วน

การมาสก์หน้าคือวิธีฟื้นบำรุงผิวขาดน้ำแบบเร่งด่วน โดยแนะนำให้เลือกมาสก์เนื้อเจลหรือแผ่นมาสก์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว เช่น Aloe Vera, Hyaluronic Acid, หรือ Vitamin B5 ซึ่งมีคุณสมบัติปลอบประโลมผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในทันที สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวขาดน้ำเป็นประจำ การมาสก์หน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง จะช่วยให้ผิวดูฟู นุ่ม เด้ง และแต่งหน้าง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สรุปบทความ

กินอะไรให้ผิวไม่ขาดน้ำ

ผิวขาดน้ำเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในทุกสภาพผิว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมอาจทำให้ผิวเสื่อมโทรมและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ การดื่มน้ำให้เพียงพอ เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น และเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายเกราะป้องกันผิว จะช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรง ชุ่มชื้น และสุขภาพดีได้อีกครั้ง

สำหรับใครที่เผชิญปัญหาริ้วรอยจากภาวะผิวขาดน้ำ เช่น ร่องลึกบริเวณหน้าผาก หรือริ้วรอยชัดเจน และต้องการลดริ้วรอยแบบเร่งด่วน ก็สามารถเลือกใช้วิธีทางการแพทย์อย่างการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเพื่อเติมเต็มร่องลึกได้ โดยเฉพาะฟิลเลอร์เนื้อละเอียดอย่าง Belotero Restylane หรือ Juvederm ที่ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ หรือหากเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อบ่อย ๆ การฉีดโบท็อกก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ผิวกลับมาเรียบตึงได้ทันใจเช่นกันที่ M VITA Clinic เราพร้อมให้บริการทุกท่านอย่างครบวงจร ทั้งโบท็อกและฟิลเลอร์ ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เรามีทีมแพทย์ผู้มากประสบการณ์ และเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล นอกจากนี้ M VITA Clinic ยังเป็นคลินิกรักษาสิว ที่ช่วยดูแลปัญหาผิวแบบองค์รวม เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าผิวของคุณจะกลับมาสวยสุขภาพดีในทุกมิติ

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

วันเผยแพร่

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*:

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษา นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า