หน้าใสเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนปรารถนา เพราะผิวที่ใสไร้สิวบ่งบอกถึงสุขภาพผิวที่ดี และยังทำให้บุคลิกดูดี ชวนมองอีกด้วย บทความนี้หมอจะมาแนะนำรายละเอียดแบบเจาะลึกเกี่ยวกับการเลเซอร์ผิวหน้า เพื่อปรับผิวให้ดูขาวกระจ่างใสด้วยเลเซอร์หน้าใส QuadroStar ProDual Yellow Laser และ Cellex Laser เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับประกอบการตัดสินใจให้กับหลาย ๆ ท่านกันครับ รวมถึงรายละเอียดว่า เลเซอร์หน้าใส ราคาเท่าไหร่ และเลเซอร์หน้าใส กี่ครั้งเห็นผลครับ
สวัสดีครับ หมอชื่อหมอเอ็ม หรือนายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกครับ
เลเซอร์หน้าใส คืออะไร?
เลเซอร์หน้าใสเป็นวิธีการรักษาด้วยการเลเซอร์ผิวหน้าที่ช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งทำให้ผิวดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเลเซอร์ทำงานโดยการจับเม็ดสีเมลานินในผิว โดยไม่ทำลายผิวหนังบริเวณรอบข้าง อย่างไรก็ตาม หลังจากทำเลเซอร์แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด เนื่องจากสามารถทำให้ผิวคล้ำขึ้นได้
ในปัจจุบัน เลเซอร์ผิวหน้าที่นิยมใช้ในการรักษาผิวหน้า ได้แก่ Q-Switch, ND-Yag, และ Fractional ซึ่งสามารถช่วยจัดการกับเม็ดสีที่ไม่สม่ำเสมอ รอยดำจากสิว กระ ฝ้า และยังช่วยกระชับรูขุมขนได้ด้วย นอกจากนี้ QuadroStar ProDual Yellow Laser เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้เกิดการตกสะเก็ด และเหมาะสำหรับรักษารอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว ทำให้หน้าดูใสขึ้นด้วย
เลเซอร์หน้าใส ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
เลเซอร์หน้าใสมีส่วนช่วยดังนี้
- ช่วยลดรอยแดง และเส้นเลือดฝอยที่ผิดปกติบนใบหน้า
- ลดเลือนจุดด่างดำ รอยฝ้า และกระ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับและอ่อนเยาว์
- ลดการอักเสบของสิว และป้องกันการเกิดสิวใหม่
- กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียน
- ปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอและกระจ่างใส
การทำเลเซอร์หน้าใสมีกี่ประเภท
ที่เอ็มวีต้า คลินิก เรามีการรักษาด้วยเลเซอร์ผิวหน้าสองประเภทหลัก คือ QuadroStar Pro Yellow Laser และ Cellex Laser ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกัน ดังนี้
QuadroStar Pro Yellow Laser
เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้ความยาวคลื่นแสงสีเหลือง 577 นาโนเมตร ซึ่งมีความสามารถในการเจาะลึกถึงชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลเซอร์ชนิดนี้มีความโดดเด่นในการรักษาปัญหาผิวหน้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลดรอยแดงและเส้นเลือดฝอยที่ผิดปกติ บรรเทาการอักเสบของสิว ลดเลือนจุดด่างดำและรอยฝ้า รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้กับผิว นอกจากนี้ ยังมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากไม่ทำลายผิวหนังบริเวณรอบข้าง และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวด้วย
Cellex Laser
เป็นเลเซอร์ที่ใช้ความยาวคลื่นแสงแบบเฉพาะเจาะจง โดยมุ่งเน้นการฟื้นฟูและปรับสภาพผิวเป็นหลัก เลเซอร์ประเภทนี้มีประสิทธิภาพในการรักษาที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ ไปจนถึงการลดเลือนจุดด่างดำและรอยฝ้าด้วยการทำลายเม็ดสีเมลานิน นอกจากนี้ ยังช่วยลดการอักเสบของสิวโดยการปรับสมดุลการผลิตน้ำมันในผิว กระชับรูขุมขนที่กว้าง และที่สำคัญคือสามารถฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพพร้อมกับกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลเซอร์ทั้งสองประเภทของเรานี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดย QuadroStar Pro Yellow Laser จะเน้นการรักษาปัญหาผิวหน้าเฉพาะจุดด้วยความแม่นยำสูง ในขณะที่ Cellex Laser จะมุ่งเน้นการฟื้นฟูและปรับสภาพผิวในภาพรวม เพื่อให้ผิวดูสดใสและมีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งการเลือกใช้เลเซอร์ประเภทใดนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยหมอจะช่วยประเมินสภาพผิวให้อีกด้วยก่อนเลือกทำหัตถการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดกับแต่ละบุคคล
วิธีเตรียมตัวก่อน-หลังทำเลเซอร์หน้าใส
เพื่อให้ผลลัพธ์ของการทำเลเซอร์ออกมาดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง การเตรียมตัวก่อนทำและดูแลผิวหลังทำอย่างถูกวิธีจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง
วิธีเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์หน้าใส
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องเจอแดดจัด ๆ หรือการอาบแดดเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinoids อย่างน้อย 3-5 วัน
- หยุดการสครับ ขัด หรือลอกผิว ที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
- บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมผิวให้แข็งแรงพร้อมรับการทำเลเซอร์
- หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาบางชนิด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
หลังทำเลเซอร์หน้าใสต้องดูแลตัวเองอย่างไร
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันผิวคล้ำเสีย
- เน้นการทามอยส์เจอไรเซอร์และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอบประโลมผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดอาการแห้ง แดง และช่วยฟื้นฟูผิว
- ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ และงดการถูผิวแรง ๆ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิวหรือไวท์เทนนิ่งที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง จนกว่าผิวจะกลับสู่สภาพปกติ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวจากภายใน
ข้อดี ข้อเสียของการทำเลเซอร์หน้าใส
การทำเลเซอร์หน้าใส ข้อดี ข้อเสียที่หมอจะพูดถึงมีดังนี้
ข้อดีของการทำเลเซอร์หน้าใสคือ
- รักษาปัญหาผิวได้หลายอย่างในครั้งเดียว เช่น ลดรอยแดง จุดด่างดำ และกระตุ้นคอลลาเจน
- ปลอดภัย ไม่ทำลายผิวบริเวณรอบข้าง
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ฟื้นตัวเร็ว กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
ข้อเสียของการทำเลเซอร์หน้าใสคือ
- ต้องทำหลายครั้งต่อเนื่องเพื่อเห็นผลชัดเจน
- อาจมีอาการแดง บวม ระคายเคืองชั่วคราว
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องทำซ้ำเพื่อรักษาผล
- ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ต้องดูแลเป็นพิเศษ
- มีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีโรคผิวหนังบางชนิด หรือแพ้ง่าย
ผลข้างเคียงที่พบได้หลังทำเลเซอร์หน้าใส
- อาการบวมแดง : เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดขึ้นทันทีหลังทำและจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือ 1-2 วัน
- ผิวแห้งและลอกเป็นขุย : ผิวอาจมีภาวะขาดน้ำและเกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ซึ่งเป็นกระบวนการฟื้นฟูผิวตามปกติ
- รู้สึกแสบร้อนหรือระคายเคือง : อาจมีความรู้สึกอุ่น ๆ หรือแสบเล็กน้อยบริเวณที่ทำ ซึ่งจะค่อย ๆ ทุเลาลงเอง
- เกิดสะเก็ดบาง ๆ : ในเลเซอร์บางชนิด อาจเกิดสะเก็ดบนผิวบริเวณที่มีเม็ดสีเข้ม ซึ่งจะหลุดลอกออกไปเองภายใน 5-7 วัน ห้ามแกะหรือเกาโดยเด็ดขาด
เลเซอร์หน้าใสเหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า หมองคล้ำ ขาดความสดใส
- ผู้ที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ เช่น รอยดำรอยแดงจากสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
- ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ และกระชับรูขุมขน
- ผู้ที่มีปัญหารอยแผลเป็นจากสิวชนิดตื้น
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าที่ชัดเจนและรวดเร็วกว่าการใช้ครีมบำรุง
ทำเลเซอร์หน้าใสเจ็บหรือไม่
การทำเลเซอร์หน้าใสเป็นการเลเซอร์ผิวหน้าที่มีความเจ็บปวดน้อย โดยในขณะที่แพทย์ทำการยิงเลเซอร์ ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกถึงความอุ่นร้อนและแสบจี๊ด ๆ เล็กน้อยคล้ายถูกหนังยางดีดเท่านั้น หลังการการยิงเลเซอร์อาจมีอาการแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลย
เลเซอร์หน้าใสอันตรายหรือไม่
การทำเลเซอร์หน้าใสในปัจจุบันมีความปลอดภัย หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และเลือกใช้บริการในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีการใช้เครื่องเลเซอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจึงน้อยมาก โดยผลข้างเคียงส่วนใหญ่มักเป็นเพียงอาการชั่วคราวที่ไม่รุนแรงและสามารถหายได้เอง ดังนั้น การเลือกคลินิกและแพทย์จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อน
ทำเลเซอร์หน้าใส ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์
ระยะเวลาในการทำเลเซอร์หน้าใสนั้น สามารถแบ่งได้ดังนี้
ระยะเวลาที่เห็นผล
- ผลลัพธ์เบื้องต้น : หลังทำครั้งแรกจะสังเกตเห็นผิวที่สดใสขึ้น ผิวเนียนนุ่มขึ้น
- ผลลัพธ์ที่ชัดเจน : ควรทำอย่างน้อย 3-4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์
- ผลลัพธ์ที่คงทน : แนะนำให้ทำ 6-8 ครั้งต่อคอร์ส เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วในการเห็นผลลัพธ์
- สภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
- การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การออกแดด การพักผ่อน
- ความสม่ำเสมอในการเข้ารับการรักษา
คำแนะนำเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดี
- ทำตามจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำอย่างต่อเนื่อง
- ดูแลผิวและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงตามที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมากๆ
การรักษาระยะยาว
- ควรทำทรีทเมนต์บำรุงผิวเป็นประจำ
- อาจต้องทำเลเซอร์ซ้ำทุก 3-6 เดือนเพื่อรักษาผลลัพธ์
- ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ
ทำเลเซอร์หน้าใสที่ M Vita Clinic ดีอย่างไร
เอ็มวีต้า คลินิกของเรา โดดเด่นด้วยการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ทั้ง QuadroStar Pro Yellow Laser และ Cellex Laser ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าได้อย่างตรงจุด ภายใต้การดูแลของคุณหมอเอ็ม นพ.มนตรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณโดยเฉพาะ
เลเซอร์หน้าใส ราคาเท่าไหร่
สรุปบทความ
การทำเลเซอร์หน้าใส เป็นหนึ่งในวิธีการเลเซอร์ผิวหน้าที่ได้รับความนิยมมากสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวหมองคล้ำ โดยใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่า และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
ซึ่งที่เอ็มวีต้า คลินิก มีเลเซอร์สองประเภทหลักคือ QuadroStar Pro Yellow Laser และ Cellex Laser ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาผิวหลากหลาย ทั้งการลดรอยแดง จุดด่างดำ กระตุ้นคอลลาเจน และกระชับรูขุมขนภายใต้การดูแลของคุณหมอเอ็ม นพ.มนตรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณที่พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
หากสนใจสามารถขอรับคำปรึกษาผ่านช่องทางด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมาทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่
