โบท็อกกราม ให้หน้าเรียว เป็นเทรนด์ที่ใครๆก็ชอบ หลายๆท่านมีโครงหน้าใหญ่ มีแก้ม ทำให้รูปหน้าดูไม่ค่อยสมส่วน ซึ่งการฉีดโบท็อก เป็นวิธีลดแก้มปรับรูปหน้าเรียวที่ได้ผลดีมากๆ ครับ ซึ่งบทความนี้หมอเขียนขึ้นเพื่อให้ความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดกราม สำหรับท่านที่อยากหน้าเรียว เพื่อให้ทราบว่าฉีดโบลดกรามคืออะไร ทำให้หน้าเรียวได้อย่างไร กี่วันเห็นผล ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ ต่างๆ พร้อมแนะนำ โบท็อกกรามควรฉีดที่ไหนดี และรีวิวโบท็อกกรามด้วยครับ
บทความนี้ หมอเอ็ม หรือนายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำ M Vita Clinic จะมาให้ความรู้แบบเจาะลึกเกี่ยวกับการ ฉีดโบลดกราม ว่าคืออะไร ช่วยให้หน้าเรียวได้อย่างไร เจ็บไหม กี่วันเห็นผล พร้อมทั้งข้อควรรู้และข้อควรปฏิบัติทั้งหมด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุดครับ
โบท็อกกรามคืออะไร ช่วยอะไรบ้าง
โบท็อกซ์ลดกราม หรือการฉีดโบลดกรามเป็นการใช้สารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum Toxin) ฉีดเข้าบริเวณกล้ามเนื้อกราม ซึ่งสารนี้เป็นโปรตีนที่สกัดมาจาก แบคทีเรีย Clostridium Botulinum สารนี้จะออกฤทธิ์โดยการยับยั้งสัญญาณประสาทที่กระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อขยับน้อยลงและตึงตัวลดลง เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณกรามได้ผ่อนคลายและใช้งานน้อยลง ขนาดของมันก็จะค่อย ๆ เล็กลงตามธรรมชาติ ส่งผลให้กรอบหน้าโดยรวมดูเรียวและซอฟต์ลง แม้ว่าชื่อเต็มของสารนี้คือ “โบทูลินั่มท็อกซิน” แต่คนส่วนใหญ่มักเรียกสั้น ๆ ว่า “โบท็อกซ์” ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่คิดค้นและถือลิขสิทธิ์เป็นรายแรก โดยยี่ห้อโบท็อกซ์ที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่
- Allergan Botox จากอเมริกา ซึ่งเป็นแบรนด์ดั้งเดิม ที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน
- Hugel Botox จากเกาหลี ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- Xeomin จากเยอรมนี มีจุดเด่นเรื่องความบริสุทธิ์ของโมเลกุล ลดโอกาสการดื้อยา
การฉีดโบลดกราม เป็นวิธีปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แพทย์จะใช้โบท็อกซ์ฉีดเพื่อคลายและลดขนาดกล้ามเนื้อกรามที่ใหญ่ให้เล็กลง ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียวและสมดุลขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ซึ่งผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับโครงสร้างเดิมและการประเมินของแพทย์ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดโบลดกราม?
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีใบหน้าเรียวสวยได้รูปดูเป็นวีเชฟ ก็สามารถเข้ารับการฉีดหน้าเรียวเพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการได้ หมอมีวิธีเบื้องต้นในการตรวจเช็กกล้ามเนื้อกรามด้วยตัวเองที่บ้านง่าย ๆ
- วางฝ่ามือทั้งสองข้างทาบบริเวณมุมกราม (ตรงแถว ๆ ฟันกรามซี่ในสุด)
- ออกแรงกัดฟันแน่น ๆ
- หากรู้สึกว่ามีก้อนกล้ามเนื้อนูนแข็ง ๆ เด้งสู้มือขึ้นมา นั่นคือกล้ามเนื้อกรามของคุณ หากคลำแล้วรู้สึกว่ามีขนาดใหญ่ การฉีดโบลดกราม จะช่วยให้ใบหน้าของคุณเรียวลงได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหน้าใหญ่ไม่ได้มาจากกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว อาจเกิดจากไขมันสะสมหรือโครงสร้างกระดูกก็ได้ ซึ่งต้องใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ
ฉีดโบท็อกซ์กรามเจ็บไหม
ฉีดโบท็อกซ์กรามเจ็บไหม? โดยทั่วไปแล้วการฉีดโบลดกรามไม่เจ็บมาก อยู่ในระดับที่ทนได้สบายมากครับ อาจจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น เหมือนมดกัดเบา ๆ แพทย์จะมีการใช้น้ำแข็งประคบ เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ และเนื่องจากใช้เข็มขนาดเล็กมากและฉีดในปริมาณที่ไม่ลึก คนไข้ส่วนใหญ่จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาครับ กรณีคนไข้ประสงค์อยากได้ยาชาให้แจ้งกับทางคลินิกได้ อย่างไรก็ตาม ระดับความเจ็บปวดอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความไวต่อความเจ็บปวดส่วนบุคคล โดยสรุป การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามเป็นหัตถการที่ค่อนข้างไม่เจ็บและทนได้สำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทราบรายละเอียดและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนรับการรักษา
ความปลอดภัยในการฉีดโบท็อกซ์กราม
สำหรับการฉีดโบลดกรามหรือโบทูลินั่มท็อกซินกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน นั้นมีความปลอดภัยสูงมาก แทบจะไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ เลย ส่วนใหญ่ ผลข้างเคียงที่อาจพบได้มักไม่รุนแรงและหายได้เอง
- อาการช้ำตามรอยเข็มฉีดเพียงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปได้ภายในประมาณ 3-5 วัน
- อาจพบอาการบวมหรือตึงตรงบริเวณกราม ในช่วง 3 วันแรก ซึ่งหายได้เอง
- บางท่านจะรู้สึกว่าในช่วงแรกหลังฉีดหน้าเรียว จะไม่ค่อยมีแรงในการเคี้ยวอาหาร ซึ่งเป็นผลจากการทำงานของโบท็อกซ์และเป็นเพียงชั่วคราว ส่วนใหญ่ อาการนี้จะหายภายใน 1-2 อาทิตย์
- ยิ้มไม่สมมาตร เป็นผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก เกิดจากการที่ยากระจายตัวไปโดนกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม ซึ่งเทคนิคการฉีดของแพทย์ที่มีความชำนาญจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้
ข้อควรปฏิบัติ ก่อนการฉีดโบท็อก

ก่อนฉีดโบท็อก มีข้อที่ควรปฏิบัติดังนี้
- หากเป็นไปได้ ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ ibuprofen naproxen วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
- หากเป็นไปได้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมงก่อนการรักษา
- หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง
- ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณริมฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา เพราะคุณหมออาจจะพิจารณาให้ยาป้องกันการกำเริบของโรคเริมหลังฉีดได้ในบางท่าน
ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ หลังฉีดโบท็อก

เพื่อให้ผลลัพธ์จากการฉีดโบลดกราม อยู่กับเราไปนาน ๆ ควรปฏิบัติตัวดังนี้ครับ
- พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมงแรก ประมาณ 15-30 นาทีหลังฉีด เพื่อให้ยากระจายเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
- หลังการฉีด 4 ชั่วโมงแรกควรหลีกเลี่ยงการก้มหน้าหรือนอนราบในช่วง 4 ชั่วโมงแรก
- อย่านวด กด หรือกระทำการอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษาเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์หลังการรักษา เช่น สวมหมวก สวมหมวกกันน็อค หรือนวดหน้า
- งดการอยู่ในที่ร้อนเช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อน หรือการออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพราะความร้อนอาจสลายโบท็อกซ์ได้
- สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังการรักษาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูรุนแรง
- สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้ โดยรอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 1-7 วัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปอย่างน้อย 3-7 วัน
- หากมีข้อสงสัยหรือสิ่งผิดปกติใดๆ ให้ติดต่อทางคลินิกหรือกลับมาพบคุณหมอ
โบท็อกกรามเห็นผลตอนไหน
สำหรับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อกรามหรือบริเวณน่อง การฉีดโบท็อกจะใช้เวลาในการเห็นผลนานกว่าบริเวณอื่น ด้วยเหตุผลว่ากล้ามเนื้อเหล่านี้มีมวลและความหนาแน่นมากกว่า ทำให้สารโบท็อกต้องใช้เวลาในการแพร่กระจายและออกฤทธิ์ได้อย่างทั่วถึง
โดยทั่วไป คนไข้จะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงประมาณ 2 สัปดาห์หลังการฉีด ซึ่งในช่วงแรก อาจรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรงลงเล็กน้อย และการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะลดลง หลังจากนั้น กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ เล็กลงอย่างต่อเนื่อง จนเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังการฉีด
ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อก
ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์กรามจะคงอยู่ได้ประมาณ 4-8 เดือน แต่ระยะเวลาอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ยี่ห้อของโบท็อกซ์ ที่มีผลต่อการออกฤทธิ์ ปริมาณยา ที่แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะสมกับขนาดกล้ามเนื้อ และความเข้มข้นของตัวยา ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยาวนานที่สุด
เมื่อโบท็อกซ์หมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อกรามจะค่อย ๆ กลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่ไม่ต้องกังวลว่ากรามจะใหญ่กว่าเดิม ในทางกลับกัน ขนาดของกล้ามเนื้อที่กลับมามักจะเล็กลงกว่าก่อนฉีดโบลดกรามเล็กน้อย เปรียบเทียบได้กับการที่กล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่เป็นเวลาหลายเดือน จึงเกิดการฝ่อลีบลงตามธรรมชาติ
ฉีดโบท็อกกรามยี่ห้อไหนดี
ปัจจุบันนี้ มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารโบท็อกซ์ หลายแบรนด์มาก ๆ ที่ผ่าน อย. ในท้องตลาด ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ก็คือ โบท็อกซ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวดั้งเดิมเก๋าสุด ก็คือ โบท็อกซ์ อัลเลอร์แกน (Botox allergan) ขวดสีม่วงนั่นเอง รองลงมา ก็จะเป็น โบท็อกซ์สายยุโรป ที่ดัง ๆ ในบ้านเราจะมี ซีโอมิน (Xeomin) หรือ โบเยอรมัน กับดิสพอร์ต (Dysport) ต่อมาก็จะเป็นโบท็อกซ์สายเกาหลี ซึ่งมีเยอะหลายแบรนด์มาก ๆ ที่ดัง ๆ ก็จะมี นิวโรน็อค (Neuronox), โบทูแลค (Botulax), นาโบตะ (Nabota), ฮูเจล (Hugel), และ เอสท็อค (Aestox) และสุดท้ายก็จะเป็นโบท็อคสายฮ่องกงคือ บีทีเอ็กซ์เอ (BTXA) และอาจจะมีแบรนด์อื่นที่ไม่ได้กล่าวไว้ในที่นี้ด้วย
ณ ปี 2019 แบรนด์ที่หมอกล่าวมาทั้งนี้ ได้ผ่านการรับรองจาก อย. แล้ว ส่วนแบรนด์อื่น ๆ หากคนไข้สงสัยก็สามารถเช็กผ่านเว็บของทาง อย. ได้ที่ https://porta.fda.moph.go.th/FDA_SEARCH_ALL/MAIN/SEARCH_CENTER_MAIN.aspx
คำถามที่พบบ่อย
ฉีดโบท็อกกกราม ดียังไง
ตอบ การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามมีข้อดีคือ ช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่หรือมีรูปหน้าทรงสี่เหลี่ยม โดยโบท็อกซ์จะยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อค่อย ๆ มีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวสวยเป็นทรงวีเชฟ หัตถการนี้ใช้เวลาทำน้อย เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
โบท็อกกราม อันตรายไหม มีผลข้างเคียงรึเปล่า
ตอบ การฉีดโบกรามมีความปลอดภัยสูงมากเมื่อดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผลข้างเคียงที่อาจพบได้มักเป็นอาการเล็กน้อยและชั่วคราว เช่น รอยช้ำตามรอยเข็มฉีดซึ่งหายภายใน 3-5 วัน อาการบวมหรือตึงบริเวณกรามในช่วง 3 วันแรก และความรู้สึกไม่มีแรงในการเคี้ยวอาหารในช่วงแรกซึ่งจะหายภายใน 1-3 สัปดาห์ อาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้น้อยมาก คือ การยิ้มไม่เท่ากันทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากตัวยาอาจออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการยิ้มด้วย ดังนั้นจึงควรเลือกรับการรักษาจากแพทย์ที่มีประสบการณ์
ฉีดโบท็อกแล้วแต่งหน้าได้ไหม
ตอบ สามารถแต่งหน้าได้หลังการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม แต่ควรทำด้วยความนุ่มนวลและหลีกเลี่ยงการกดถูบริเวณที่ฉีดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการฉีด ควรระมัดระวังไม่นวด กด หรือกระทำการใดๆ ที่จะมีผลต่อบริเวณที่ได้รับการรักษา เพื่อไม่ให้ตัวยาเคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หากมีอาการบวมหรือช้ำ สามารถใช้เครื่องสำอางปกปิดได้ แต่ควรทาเบา ๆ และทำความสะอาดใบหน้าอย่างนุ่มนวล
ฉีดโบท็อกแล้ว ผลของโบท็อกกรามจะอยู่ได้นานแค่ไหน
ตอบ ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกบริเวณกล้ามเนื้อกรามจะคงอยู่ได้ประมาณ 4-8 เดือน ซึ่งระยะเวลาที่แน่นอนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ แบรนด์ของโบท็อกที่เลือกใช้ ปริมาณยา (โดส) ที่ได้รับ และความเข้มข้นของตัวยา (การเจือจางด้วยน้ำเกลือมากหรือน้อย) นอกจากนี้ ลักษณะการใช้งานกล้ามเนื้อกรามของแต่ละบุคคลก็มีผลต่อระยะเวลาในการคงอยู่ของโบท็อกด้วย ผู้ที่มีการใช้งานกล้ามเนื้อกรามมาก เช่น คนที่บดฟันหรือเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำ อาจพบว่าผลของโบท็อกหมดเร็วกว่าคนทั่วไป
โบท็อกช่วยลดริ้วรอยได้ไหม
ตอบ โบท็อกจะสามารถช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อได้ เช่น รอยเหี่ยวย่นระหว่างคิ้ว รอยตีนกา และรอยย่นบนหน้าผาก แต่โบท็อกไม่สามารถแก้ไขริ้วรอยร่องลึกได้ เช่น ร่องแก้ม รอยจากมุมปากถึงจมูก ดังนั้น จึงควรใช้ฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มร่องลึกเหล่านี้แทน
โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ยอดนิยม ได้แก่ Juvederm ที่มีหลายสูตรสำหรับเติมเต็มบริเวณต่างๆ, Restylane ที่เหมาะกับการเพิ่มปริมาตรให้ริมฝีปาก และ Belotero ที่เหมาะกับริ้วรอยบางๆ และพื้นที่บอบบาง
ฉีดโบลดกรามกี่วันเห็นผล?
ตอบ หลังฉีดโบกรามกล้ามเนื้อจะเริ่มนิ่มลงในสัปดาห์ที่ 1-2 จะเริ่มสังเกตเห็นว่ากรอบหน้าดูเรียวขึ้นประมาณ 2-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดเมื่อครบ 1-2 เดือน ครับ
ฉีดโบลดกรามยี่ห้อไหนดี?
ตอบ โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นต่างกันไป ที่ M Vita Clinic เราเลือกใช้เฉพาะโบท็อกซ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. และมีคุณภาพสูง เช่น Allergan, Xeomin หรือแบรนด์ชั้นนำจากเกาหลี แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมกับขนาดกล้ามเนื้อและงบประมาณของคนไข้แต่ละราย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
โบท็อกซ์ช่วยลดริ้วรอยได้ด้วยไหม?
ตอบ โบท็อกซ์ช่วยลดริ้วรอยได้ครับ การฉีดโบท็อกซ์มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมในการลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า (Dynamic Wrinkles) เช่น รอยตีนกา หว่างคิ้ว และหน้าผาก แต่สำหรับร่องลึกที่อยู่นิ่ง ๆ (Static Wrinkles) เช่น ร่องแก้ม การรักษาด้วยฟิลเลอร์จะเหมาะสมกว่าครับ
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่าย ๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมาก ๆ ครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่



