สิวหิน

สิวหิน ตุ่มนูนคล้ายสิวใต้ตา คือะไร พร้อมวิธีรักษาอย่างไรให้หาย

สิวหิน ตุ้มคล้ายสิวใต้ตา เม็ดแข็งๆ นูนๆ ใต้ผิว มองเห็นเป็นเม็ดสีขาว หรือเหลือง เรียงรายจำนวนมาก ไม่เจ็บ หลายท่านลองเอามือบีบหรือเอาที่กดสิวลองกดดูก็ไม่ออก แถมยิ่งปล่อยไว้ตุ่มเหล่านี้ก็กลับค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้น นานหาย และด้วยตำแหน่งที่เป็นคือรอบดวงตา ใต้ตา หน้าแก้ม จึงค่อนข้างเห็นได้ชัดจึงทำให้เสียความมั่นใจอีก ตุ่มลักษณะแบบนี้บางทีไม่ใช่สิว แต่เป็นลักษณะทางผิวหนังที่เรียกว่า “สิวหิน” ครับ

หลายท่านคงสงสัยว่า แล้วเจ้าสิวหินนี้คืออะไร?  มีที่มาอย่างไร เป็นแล้วหายเองได้ไหม สิวหินวิธีรักษา รักษาอย่างไร หายแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นอีกหรือไม่ ในบทความนี้หมอจะมาตอบคำถามที่หลายท่านสงสัย รวมถึงให้รายละเอียดของเจ้าสิวหินนี้นะครับ

เอ็มวีต้าคลินิก สิวหิน

ก่อนอื่นหมอขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะครับ หมอชื่อหมอเอ็ม นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกครับ

สิวหิน คืออะไร

สิวหิน (Syringoma) หลายๆคนเข้าใจว่าเป็นสิว เช่นเดียวกับสิวอุดตัน แต่สิวหินไม่ใช่โรคสิวเหมือนสิวทั่วไป เพราะ สิวหิน คือเนื้องอกที่เกิดขึ้นที่ต่อมเหงื่อ (Eccrine sweat glands) เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงหรือเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง (Benign หรือ Non-cancerous neoplasms) ตัวเนื้องอกจะอยู่ลึกลงไปในผิวหนังชั้นหนังแท้

พบได้บ่อยในวัยรุ่นเพศหญิง โดยเฉพาะชาวเอเชียที่มีสีผิวค่อนข้างเข้ม, ชาวคอเคเซียน (Caucasian), และผู้ที่มีเชื้อสายญี่ปุ่น (Japanese)

สิวหินโดยปกติจะเป็นโรคที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บปวด และไม่สามารถเจริญไปเป็นโรคที่ร้ายแรงกว่าเดิมได้ เพียงแต่จะสร้างความรำคาญหรือรู้สึกว่าไม่สวยงามเมื่อส่องกระจกเท่านั้น ทั้งนี้มีรายงานว่า สิวหินทำให้รู้สึกเจ็บหรือคันได้เช่นกัน โดยเฉพาะในเวลาที่เหงื่อออก แต่ก็พบกรณีดังกล่าวได้น้อยมาก

สำหรับใครที่สนใจอ่านเกี่ยวกับ สิว เพิ่มเติม คลิกได้เลยครับ หมอรวบรวมมาให้แล้วครับผม

สิวหินมักพบบริเวณไหน

สิวหินมักปรากฏอยู่ตามใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม ใต้ตา เปลือกตา จมูก และริมฝีปาก นอกจากนี้ในบริเวณอื่นตามร่างกายยังสามารถพบได้ในบริเวณหนังศีรษะ, อวัยวะเพศภายนอกของผู้หญิง (vulva), อวัยวะเพศชาย, หน้าอก, และรักแร้ อีกด้วย

สิวหินใต้ตาและเปลือกตา

สิวหินใต้ตา

สิวหินเปลือกตาและใต้ดวงตา จะเกิดขึ้นกระจายตัวอยู่รอบๆดวงตา (Periorbital) จะเกิดขึ้นในกรณีที่ไม่ได้เป็นสิวหินจำนวนมากนัก ลักษณะของสิวหินใต้ตาจะเป็นตุ่มขนาดเล็กๆ สีขาว หรือสีเหลือง ไม่มีการอักเสบหรือบวมแดง แต่รักษาได้ยาก เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ใกล้อวัยวะบอบบาง บางครั้งสิวหินสามารถลามลงมาถึงบริเวณโหนกแก้มได้ด้วย

สิวหินที่จมูก

สิวหินที่จมูก

บริเวณสันจมูก ข้างสันจมูก สามารถเกิดสิวหินได้เช่นกันครับ สร้างความรำคาญใจ ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน บางเคสขึ้นเป็นกระจุก เห็นได้ง่ายโดยเฉพาะบริเวณจมูก

สิวหินที่หน้าอกและลำตัว

สิวหินหน้าอกและลำตัว

ในกรณีที่เป็นสิวหินจำนวนมาก (Eruptive Syringoma) สิวหินจะปรากฏอยู่ที่หน้าอก ลำตัวหน้าท้อง ที่ง่ามนิ้ว และแขนขาได้ บางกรณีที่เป็นรุนแรง อาจพบสิวหินเป็นตุ่มสีน้ำตาลแดงจำนวนมาก ที่ต้นขาและขาหนีบร่วมด้วยได้ แต่ก็พบได้น้อยมาก

ทั้งนี้ สิวหินในแต่ละบริเวณมีลักษณะของโรคและสาเหตุการเกิดโรคเหมือนกัน

ลักษณะสิวหิน

ลักษณะของสิวหินใต้ตา และสิวหินในบริเวณอื่นๆ จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนหลายเม็ด ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-3 มิลลิเมตร มีสีเดียวกับผิวหนัง สีขาวซีด หรืออาจเป็นสีเหลืองในกรณีที่ผู้ป่วยมีผิวสีเข้ม แต่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ

สิวหิน เกิดจากอะไร

สิวหินใต้ตาเกิดจาก

สิวหิน ยังไม่ทรายสาเหตุที่เกิดอย่างแน่ชัด แต่เป็นไปได้ว่า สิวหิน อาจเกิดจากท่อต่อมเหงื่อจับกลุ่มกัน และรวมตัวกับเนื้อเยื่อไฟบรัส (Fibrous stroma) ส่งผลให้เคราตินจับตัวจนแข็ง เกิดเป็นก้อนเนื้องอก ตุ่มแข็งใต้ผิวหนังขึ้นมา ส่วนสาเหตุกระตุ้นที่ทำให้เกิดสิวหินนั้นยังไม่แน่ชัด บางครั้งอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ บางครั้งเกิดจากการที่ต่อมเหงื่อทำงานมากเกินไปจนแบ่งเซลล์ผิดปกติ หรือบางกรณีก็อาจเกิดจากพันธุกรรมได้เช่นกัน

มีรายงานว่าการเกิดสิวหินสามารถเป็นผลข้างเคียงจากโรค หรือเกิดขึ้นโดยสัมพันธ์กับโรคบางอย่างได้เช่นกัน อย่างภาวะดาวน์ซินโดรม (Down syndrome), Brooke-Spiegler syndrome, และโรคเบาหวาน (Diabetes mellitus)

สิวหินมีหลายหลายชนิด สาเหตุการเกิดแตกต่างกันออกไป ดังนี้ 

สิวหินในทารก

เด็กทารกแรกเกิด มักพบสิวหินได้ ต้องปล่อยให้หายไปเอง ไม่ควรแคะ บีบ แกะเกา อาจทำให้ผิวอักเสบได้ เนื่องจากโดยปกติแล้วก้อนซีสต์เหล่านี้จะค่อย ๆ จางหายไปได้เมื่อทารกโตขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ ครับ แม่ๆไม่ต้องกังวลครับ

สิวหินปฐมภูมิ

สิวหินปฐมภูมิ สามารถเกิดได้ทั้งในวัยเด็กและผู้ใหญ่เกิดจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังจากการรวมตัวของเส้นใยเคราติน อยู่ใต้ผิว บริเวณที่ไม่มีรูขุมขน อยู่ในลักษณะสิวหัวปิด สิวปฐมภูมิมักเกิดขึ้นที่บริเวณ เปลือกตา จมูก อวัยวะเพศทั้งหญิงและชาย สามารถหายไปเองได้ แต่ใช้เวลา

สิวหินหนุ่มสาว

ในวัยหนุ่มสาว ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ที่อาจมีสาเหตุมาจากมะเร็งผิวหนังบางประเภท กลุ่มอาการการ์ดเนอร์ (Gardner Syndrome)

สิวหินชนิดบาดแผล

สิวหิน กรณีที่ผิวหนังเกิดการอักเสบเป็นแผล หรือแผลพุพอง ลักษณะเป็นปื้นๆ ทำให้ผิวหนังและรูขุมขนบริเวณนั้นถูกรบกวน สิวหินชนิดบาดแผลนี้มักพบที่หลังมือ นิ้วมือ เป็นต้น

สิวหินชนิดแบนราบ

สิวหินชนิดแบนราบ มักพบได้กับทุกวัย แต่ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงวัยกลางคน บริเวณที่พบคือ หลังหู บริเวณตา โหนกแก้ม กราม ไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด อาจเกิดจากการติดเชื้อหรือโรคผิวหนังบางชนิด

สิวหิน VS สิวข้าวสาร ต่างกันอย่างไร

สิวใต้ตา

หลายคนเข้าใจว่าสิวหินและสิวข้าวสารใต้ตาเป็นโรคเดียวกัน เนื่องจากลักษณะของโรคที่คล้ายคลึงกันมากเมื่อมองจากภายนอก แต่ความเป็นจริงแล้ว มีข้อแตกต่างกัน ดังนี้

สิวข้าวสาร และสิวหิน มีลักษณะต่างกัน ดังนี้

  • สิวข้าวสารเป็นซีสต์ที่มีผนัง ต่างกับ สิวหินที่เป็นเนื้องอก
  • สิวหินจะอยู่ลึกใต้ผิวหนัง ทำให้ตุ่มสิวหินจะนูนน้อยกว่า ไม่เป็นไตแข็งเท่าสิวข้าวสาร
  • ส่วนสิวข้าวสารจะเป็นตุ่มนูน เนื่องจากก้อนซีสต์อยู่ที่ผิวหนังชั้นบน บางครั้งตัวซีสต์สามารถบีบออกมาได้คล้ายกับสิว
  • ทั้งสองอย่างเกิดจากสาเหตุต่างกัน ใช้การรักษาที่ต่างกัน แม้ลักษณะโดยรวมจะคล้ายกันแต่ก็สามารถแยกจากกันได้จากการดูภายนอก

กลุ่มคนที่มีโอกาสพบสิวหินมากกว่าผู้อื่น

สิวหิน สามารถพบได้ในทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ แต่ให้บุคคลที่มีโอกาสพบสูง คือ

  • ในเพศหญิง
  • ผู้ป่วย มาร์แฟนซินโดม (marfan syndrome) ผู้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน
  • วัยรุ่น ที่มีระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง นอกจากพบโรคสิว สิวอักเสบ สิวอุดตันแล้ว ยังสามารถพบสิวหินได้อีกด้วย
  • ผู้ใหญ่ในวัย 40-60 ปี เช่นเดียวกับช่วงวัยรุ่น เนื่องจากฮอร์โมนมีการเปลี่ยนที่ลดลง

วิธีรักษาสิวหิน

สิวหิน โดยปกติคือเนื้องอกชนิดหนึ่ง อย่างที่กล่าวข้างต้น ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด และโดยส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเนื้อร้าย ส่วนการจะมีสิวหินมากหรือน้อย ก็แตกต่างกันแล้วแต่บุคคล ขึ้นกับอายุ เชื้อชาติ และกรรมพันธุ์

เนื่องจากหลายท่านเกิดความกังวลในแง่ความสวยงาม ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาสิวหิน มักต้องการรักษาให้ก้อนยุบลง เป้าหมายในการรักษาคือการเอาสิวหินออก โดยให้ไม่ให้เกิดแผลเป็น และกลับมาเป็นใหม่น้อยที่สุด แต่ไม่สามารถเอาออกได้หมดและหายขาดได้ภายในครั้งเดียว เนื่องจากต้นตอของสิวหินอยู่ในชั้นลึก 

1. จี้สิวหินด้วยกรดทางการแพทย์

โดยปกติจะใช้เป็นกรดไตรไตรคลออะซีติก (trichloracetic acid) เริ่มต้นด้วยการใช้กรดไตรคลออะซีติก 50% ซึ่งสามารถจี้ให้ตุ่มเริ่มแบนราบได้ แต่แพทย์อาจต้องนัดมาทาบ่อยครั้ง อาจจะทุก 2-3 สัปดาห์

2. เลเซอร์สิวหิน

การจี้ด้วยเลเซอร์ โดยปกติแพทย์จะใช้เป็นตัวคาร์บอนไดออกไซด์ เลเซอร์ (CO2 Laser) เปิดหัวสิวเพื่อทำลายและตัดสิวหินออก ควรทำโดยแพทย์ที่ชำนาญ เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง โอกาสเกิดแผลเป็นน้อยกว่าวิธีอื่น แต่ก็มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้

3. รักษาสิวหินด้วยยา

เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดเลย จะใช้เป็นยากิน และยาทากลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอในการรักษา ผลการรักษาสู้วิธีการผ่าตัดไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการใช้ยากลุ่มอื่นๆ เช่น ยาทากลุ่มอะโทรพีน (topical atropine),  และยากินชื่อ tranilast มักใช้เวลานาน และการให้ยาที่ต่อเนื่อง

4. รักษาสิวหินด้วยการผ่าตัดเล็ก

เป็นการใช้มีดผ่าตัด ตัดเอาก้อนสิวหินออก จากนั้นค่อนทำการเย็บแผล ใช้กับก้อนสิวหินที่มีขนาดใหญ่และมีจำนวนไม่มาก เป็นการรักษาที่ให้ผลดี แต่มีโอกาสเกิดแผลเป็นจากรอยเย็บแผลได้มาก บางคนพบปัญหาคีย์รอยด์

5. รักษาสิวหินด้วยความเย็น

เป็นการใช้ความเย็น จากไนโตรเจนเหลว จี้เพื่อทำลายตัวเนื้องอกสิวหิน ให้หลุดออกจากผิวหนัง ลดโอกาสการเกิดแผลเป็น

6. รักษาสิวหินด้วยการใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า

เป็นการใช้จี้ไฟฟ้า เพื่อทำลายและตัดสิวหินออก ผลข้างเคียงน้อย ควรทำโดยแพทย์ที่ชำนาญ เป็นอีกวิธีที่ให้ผลการรักษาที่ดี โดยผลการรักษาค่อนข้างใกล้เคียงกับเลเซอร์

วิธีรักษาสิวหินใต้ตา

วิธีทั้งหมดเหล่านี้ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากมีการใช้ในเรื่องของเครื่องมือเลเซอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วยเทคนิคที่แตกต่างกัน ควรได้รับคำปรึกษา แนะนำ ก่อนตัดสินใจรักษา ดีที่สุดครับ

สิวหิน รักษาที่ไหนดี

รักษาสิวหินที่ไหนดี สามารถพิจารณาได้ด้วย วิธีดังนี้…

1. ค้นหาข้อมูลคลินิก : ค้นหาคลินิกรักษาสิวจากช่องทางออนไลน์ หลังจากนั้น อ่านความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ของคลินิกเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ คุณสมบัติของพนักงาน และรางวัลหรือการรับรองใดๆ ที่ได้รับ

กำจัดสิวหิน

2. การนัดปรึกษา : นัดเวลาการให้คำปรึกษากับคลินิก สิ่งนี้จะทำให้คุณมีโอกาสพบแพทย์และหารือเกี่ยวกับข้อกังวลของคุณ ในระหว่างการให้คำปรึกษา ให้ถามเกี่ยวกับการรักษา ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเหล่านั้น และผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนตัดสินใจ

สิวหินรักษา

3. ตรวจสอบข้อมูลคลินิก : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกได้รับอนุญาตและรับรองโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าคลินิกได้มาตรฐานการดูแลและความปลอดภัย

รักษาสิวหิน

เอ็มวีต้า คลินิก ยืน 1 เรื่องรักษาสิวครบวงจร ดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ หมอเอ็ม นพ.มนตรี การันตีผลลัพธ์ด้วยเคสการรักษาประทับใจคนไข้เข้าสู่เคสที่ 10,000+ และติด Top No.1 เรื่องรักษาสิว จาก เว็บจัดอันดับคลินิกชื่อดัง

แนวทางป้องกันสิวหิน

วิธีกำจัดสิวหิน

การป้องกันการเกิดสิวหินอาจจะทำได้ยาก เนื่องจากสาเหตุการเกิดไม่ชัดเจน ในเบื้องต้นการป้องกันจึงเป็นการทำให้กระบวนการการผลัดเซลล์เป็นไปอย่างปกติ ทำให้อัตราการแบ่งเซลล์เป็นปกติ ลดความเสี่ยงการเกิดเนื้องอก การลดการทำงานของต่อมเหงื่อ เพื่อไม่ให้ต่อมเหงื่อทำงานมากเกินไปจนผิดปกติ ร่วมกับการลดปัจจัยกระตุ้นอื่นๆจากสิ่งแวดล้อม อย่างเช่นสารเคมี หรือรังสี UV จากแสงแดด ก็นิยมทำด้วยเช่นกัน

ซึ่งวิธีการป้องกันการเกิดสิวหิน มีดังนี้

  • ทาครีมกันแดดอยู่เสมอ
  • ทำความสะอาดผิว ให้สะอาดหมดจด
  • ผลัดเซลล์ผิว ใช้ครีมบำรุงผิวที่เป็นกรดอ่อนร่วมด้วย เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิว
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน A และ E
  • ลดการใช้เครื่องสำอาง
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากสิวหินอาจเป็นอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
  • หลีกเลี่ยงการทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดการแพ้
  • อาจจะใช้โบท็อก botox ร่วมด้วยได้ หากต่อมเหงื่อทำงานมากกว่าปกติ  เพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวหิน

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับสิวหิน ( Q & A )

Q : สิวหินเป็นกรรมพันธุ์หรือไม่

สิวหินสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ในบางกรณี หากพบว่าลูกเกิดสิวหิน มีโอกาสพบว่าคนในครอบครัวเคยเป็นสิวหินได้ บางครั้งสิวหินยังมีโอกาสเกิดมากในเชื้อชาติหนึ่งๆ ได้ด้วย ซึ่งก็เกี่ยวกับพันธุกรรมเช่นกัน

Q : สิวหิน หายเองได้ไหม

สิวหินคือสิวที่มีลักษณะเม็ดสิวแข็งคล้ายหินใต้ผิว ไม่มีรูหรือหัวขึ้นเหมือนกับสิวปกติ ดังนั้น การทิ้งไว้ให้หายเองไม่ได้ผลเท่าที่ควร และอาจใช้เวลานาน

Q : สิวหิน หายแล้วกลับมาเป็นซ้ำได้ไหม

สิวหินอาจกลับมาขึ้นใหม่ได้ ถ้าไม่ดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเป็นไปได้ของการเกิดสิวหินซ้ำในอนาคต

Q : เป็นสิวหิน แต่งหน้าได้ไหม

เป็นสิวหิน สามารถแต่งหน้าได้ ไม่ได้มีข้อกำหนดชัดเจนว่าเป็นสิวหินห้ามแต่งหน้า แต่การแต่งหน้าเพื่อปกปิดทำให้ให้หน้าดูดียิ่งขึ้น แต่การแต่งหน้าสามารถพรางเม็ดสิวได้ระดับหนึ่ง

คลินิกดูแลผิว เลเซอร์ผิว ครบวงจร ด้วยเครื่องมือระดับโรค ให้ผิวกลับมาเรียบเนียน ใส การันตีเปิดยาวนาน 13 ปี + สามารถติดต่อนัดคิวพบหมอ หรือสอบถามโปรโมชั่น ได้ที่…

วิธีเอาสิวหินออก

สรุปเรื่องสิวหิน

สิวหิน ที่หลายคนพบ ไม่มีอันตราย แต่เกี่ยวคล้องกับความสวยความงามเป็นหลัก การรักษาด้วยการเลเซอร์หรือวิธีทางการแพทย์ จะได้ผลลัพธ์ที่ไว และดีที่สุดครับ ที่ เอ็มวีต้า คลินิก ทุกเคสในการรักษาสิวหิน ทำหัตถการโดย หมอเอ็ม นพ.มนตรี ให้ผลลัพธ์ที่ดี ประทับใจคนไข้ หมอเอ็ม ยินดีให้คำปรึกษาครับ

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

เอกสารอ้างอิง 

วันเผยแพร่

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*: