ฉีดฟิลเลอร์คาง ฉีดคางเรียว เสริมคางแบบไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย เห็นผลทันที แก้ปัญหาคางสั้น แบบสวยเลยไม่ต้องรอ!!

ฟิลเลอร์คาง เป็นตัวเลือกที่ดีมากในการปรับรูปหน้า ปรับทรงคางให้รับกับโครงหน้าโดยรวมและทำให้ดูสวยขึ้น หล่อขึ้นทันทีครับ ซึ่งบทความนี้หมอเขียนขึ้นเพื่อไขข้อข้องใจให้ท่านที่กำลังสนใจได้ทราบรายละเอียดต่างๆอย่างครอบคลุม เช่น ฉีดคาง ดีไหม? เทียบการฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมคาง แตกต่างกันอย่างไร? ฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นก้อนไหม? ฟิลเลอร์คาง นอนตะแคงได้ไหม? ฉีดคางบวมกี่วัน? ฉีดคางเจ็บไหม? ฉีดคางเรียว ใช้ฟิลเลอร์กี่ cc? พร้อมแนะนำ ที่ไหนดี และรีวิวครับ

ก่อนอื่นหมอขอแนะนำตัวก่อนนะครับ หมอชื่อ หมอเอ็ม หรือ นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกนะครับ

คาง เป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้ใบหน้าสวยหล่อสมดุล

นิยามของความงามของใบหน้าเรา แม้อาจแตกต่างกันบ้างในแต่ละเชื้อชาติ แต่ก็มีผู้ที่พยายามจะอธิบายหรือหารูปหน้าที่จัดว่าสวย หล่อในสายตาของทุกๆคน 

แล้วแบบไหนที่เรียกว่า สวย หล่อ? 

มีการเปรียบเทียบโดยเอารูปหน้าดารา(เพราะดาราคือต้นแบบของความสวยหล่ออยู่แล้วใช่ไหมครับ) มาหาจุดร่วมว่า คนที่หล่อสวยเค้ามีความคล้ายคลึงตรงไหน อะไรที่เป็นจุดที่เค้ามีเหมือนกัน ก็พบว่าอันดับแรกเลย สิ่งที่มีคล้ายคลึงกันคือ สัดส่วนของใบหน้าทั้งหน้าและหน้าข้างครับ ซึ่งสัดส่วนที่ได้รูปจะมีผลทำให้โครงหน้าและใบหน้าดูหล่อเหลาสวยงามนั่นเอง

และส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของใบหน้าเราก็คือ คาง นั่นเองครับ คางที่สวยสมส่วนรับกับใบหน้าก็จะทำให้ใบหน้าเราดูสวยดูหล่อขึ้นได้เลย ได้ยินแบบนี้แล้ว หลายๆท่านคงเริ่มอยากทราบแล้วใช่ไหมครับว่า คางของท่านได้สัดส่วนสมดุลกับใบหน้าหรือไม่? หมอจะกล่าวถึงรายละเอียดให้ในส่วนถัดไปของบทความนะครับ


สัดส่วนคางที่เพอเฟค

จากการศึกษาเปรียบเทียบโครงหน้าคนที่หน้าตาดีหลายๆคนมาสรุปรวมกันก็พบว่า สัดส่วนใบหน้าที่ดูดีได้รูปมีลักษณะดังนี้ครับ สัดส่วนใบหน้าที่เหมาะสม เป็นดังรูปครับ

หน้าตรง

หน้าตรงแนวนอน แนวนอนเราแบ่งไปหน้าเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คือระยะจากไรผมถึงหัวคิ้ว ส่วนที่ 2 คือระยะจากหัวคิ้วถึงปลายจมูก และส่วนที่ 3 คือระยะจากปลายจมูกถึงปลายคาง โดย 3 ส่วนนี้ควรมีความยาวเท่ากันครับ

หน้าตรงแนวตั้ง  แนวตั้งเราแบ่งใบหน้าเป็นห้าส่วน  ส่วนที่ 1 คือระยะระหว่างหัวตาซ้ายกับหัวตาขวา ส่วนที่ 2 และส่วนที่ 3 คือระยะ ระหว่างหัวตากับหางตาข้างซ้ายและข้างขวาตามลำดับ ส่วนที่ 4 และส่วนที่ 5 คือระยะระหว่างหางตากับหูข้างซ้ายและข้างขวาตามลำดับครับ โดย 5 ส่วนนี้ควรมีความยาวเท่ากันครับ

หน้าข้าง

เมื่อมองมุมข้าง เราจะมีเส้นสำคัญคือเส้นสีทองในรูป ที่ลากจากปลายจมูกมายังปลายคาง  เส้นนี้มีชื่อเรียกว่า Ricketts E line หรือเส้น E line ซึ่งรูปหน้าที่สมส่วน ริมฝีปากบนควรห่างจากเส้นนี้ประมาณ 4 ซม. ริมฝีปากล่างควรห่างจากเส้นนี้ประมาณ 2 ซม. ครับ นอกจากนี้คางของผู้หญิงกับผู้ชายก็จะมีรายละเอียดที่ต่างกันเล็กน้อยดังนี้ครับ

ผู้หญิง

ทรงคางที่สวยเหมาะกับรูปหน้าของผู้หญิงจะเป็นทรงเรียววีเชพ ซึ่งจะทำให้รูปหน้าดูเรียวขึ้นด้วยครับและทั้งนี้ความกว้างของคางต้องรับกันดีกับขอบกรามด้วย เพื่อให้คางออกมาสวยสมูธครับ

ผู้ชาย

ส่วนเคสคุณผู้ชาย เทรนหนุ่มไทยเราจะเน้นความเป็นวีเชพ สไตล์โอปป้าเกาหลีเช่นกัน แต่ในความวีเชพหนุ่มๆจะไม่เรียวมากนักเหมือนของสาวๆครับ ของผู้ชายจะต้องมีความมนมากกว่าผู้หญิง และความกว้างของคางก็ต้องรับกับใบหน้าโดยรวมจึงจะดูหล่อละมุนครับ


การเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ ต่างจากศัลยกรรมอย่างไร และมีข้อดีอย่างไร?

การเสริมคางด้วยฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่าการศัลยกรรม และเหมาะกับท่านที่ไม่ชอบ การผ่าตัด ต้องการเห็นผลทันที หรือไม่มีเวลาพักฟื้น เพราะหลังทำคุณจะไม่มีแผลเลยครับ นอกจากนี้คุณจะสามาาถเห็นทรงได้เลยว่าชอบหรือไม่ หรืออยากจะปรับเพิ่มหรือลดความยาวความกว้างอย่างไรก็สามารถทำได้เลยครับ ถ้าอยากเพิ่มก็สามารถฉีดเพิ่มได้ อยากลดก็ฉีดตัวยาเข้าไปสลายก็ได้ด้วยครับ (แต่ถ้าเป็นศัลยกรรม ถ้าทำออกมาแล้วไม่ชอบทรงก็คือต้องแก้ใหม่เลย) นอกจากนี้ผลข้างเคียงก็น้อยกว่า เนื่องจากการผ่าตัดเสริมคางจะต้องระวังเรื่องของซิลิโคนเลื่อนตำแหน่งซึ่งเกิดได้บ่อยครับ แต่ฟิลเลอร์จะไม่มีปัญหานี้เลยครับ และสุดท้ายคือสำหรับท่านที่ไลฟ์สไตล์ค่อนข้างลุยๆ เช่น เล่นกีฬาหรือศิลปะการต่อสู้ มีเตะต่อยหรือกระทบกระแทก ฟิลเลอร์น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่าครับ เพราะถ้าเป็นซิลิโคนการกระทบกระแทกอาจจะทำให้เกิดการอักเสบหรือบาดเจ็บได้รุนแรงกว่าครับ

แต่การทำศัลยกรรมก็ยังมีข้อดีในเรื่องของความคงทนถาวร เนื่องจากทำครั้งเดียวก็อยู่ได้ตลอดชีวิต ไม่ต้องคอยเติมเรื่อยๆครับ ซึ่งตรงนี้ก็คงขึ้นกับการตัดสินใจของแต่ละท่านที่จะเลือกวิธีที่ตอบโจทย์กับตัวท่านเองมากที่สุดครับ


ฟิลเลอร์คาง ตัวไหนดี?

สำหรับฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับการเติมคาง ควรเป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเฟิร์ม ยกผิวได้ดี และมีความยืดหยุ่น Viscoelasticity สูง เพื่อที่ทรงคางจะได้ดูคมดูพุ่งสวย ตัวที่หมอแนะนำคือ Restylane Lyft Lidocaine (12 เดือน) จะมีคุณสมบัติตรงตามที่กล่าวมามากที่สุดครับ

หากสนใจข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ชนิดอื่นเพิ่มเติม สามารถคลิกอ่านได้ที่บทความต่อไปนี้เลยครับ >> ฟิลเลอร์ปาก , ฟิลเลอร์ใต้ตา , ฟิลเลอร์ร่องแก้ม <<


ฟิลเลอร์คาง ต้องใช้กี่ ซีซี?

โดยทั่วไปในการเติมคางเรามักใช้ฟิลเลอร์ปริมาณ 1 cc ก็เพียงพอสำหรับเติมคางให้ได้รูปสวยงามแล้วครับ ยกเว้นในท่านที่ต้องการความยาวค่อนข้างเยอะ หรือท่านที่คางสั้นจริงๆ อาจใช้ 2-3 cc ได้ ซึ่งหมอจะช่วยประเมินและแนะนำปริมาณที่เหมาะสมในตอนที่ตรวจให้นะครับ


ฟิลเลอร์คาง เจ็บหรือไม่?

เจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ เพราะสำหรับที่เอ็มวีต้าคลินิก หมอได้ออกแบบ ระบบการควบคุมความเจ็บในขณะฉีด มาเป็นอย่างดี โดยก่อนฉีดจะมีการลงยาชา ที่ผิวหนัง  เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที  นอกจากนี้ฟิลเลอร์ที่หมอเลือกใช้ จะมียาชาผสมอยู่ด้วย ดังนั้นตอนฉีดฟิลเลอร์จริงคนไข้จะแทบไม่รู้สึกเจ็บใดๆเลยครับ และหลังจากหมดฤทธิ์ของยาชาแล้ว ก็ไม่เจ็บด้วยครับ


ฟิลเลอร์คาง เป็นก้อนไหม?

สำหรับที่เอ็มวีต้าคลินิก หมอใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเฟิร์มเพื่อสร้างทรงคางที่สวยและคงทนได้รูป และด้วยเทคนิคการฉีดลึกใต้กล้ามเนื้อคาง ดังนั้นหลังฉีดจะไม่เป็นก้อนครับ แต่จะเป็นทรงที่ได้รูปทันที และจะยิ่งสมูธมากขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ


ขั้นตอนการฉีด ฟิลเลอร์คาง

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์คางที่เอ็มวีต้าคลินิก เริ่มจากคนไข้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมิน แล้วหมอจะแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ปริมาณที่ต้องใช้ จากนั้นจะมีการคลีนทำความสะอาดผิวบริเวณคาง และทายาชาที่ผิวไว้ เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงครับ เมื่อครบเวลาของยาชาแล้ว เจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดผิวและนำคนไข้เข้าสู่ห้องหัตถการ  เพราะหมอมีการเตรียมผิวของคนไข้ให้ชาอย่างเต็มที่เรียบร้อยตามขั้นตอนเหล่านี้แล้วดังนั้นตอนที่ฉีดฟิลเลอร์คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ และหลังทำ ก็จะเห็นผลว่าทรงคางได้รูปดูดีได้ทันที หลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จเรียบร้อย คนไข้จะได้รับ การชี้แจงรายละเอียด ข้อมูลการปฏิบัติตัวหลังเข้ารับฉีดฟิลเลอร์ อย่างละเอียด และเจ้าหน้าที่จะทำการนัดคนไข้เพื่อกลับมาให้คุณหมอตรวจประเมินผลลัพธ์ อีกครั้ง  ที่ 2 สัปดาห์ หลังจากการฉีดครั้งแรกครับ


เทคนิคพิเศษ ในการฉีดฟิลเลอร์คาง ของเอ็มวีต้าคลินิก

ที่เอ็มวีต้าคลินิก หมอจะเน้นมากเป็นพิเศษถึงความเป๊ะสัดส่วนพอดีที่สุด ในคนไข้ทุกราย เพื่อผลลัพธ์ที่สวยที่สุด ดังนั้นก่อนฉีดหมอจะใช้เวลาวัดสัดส่วนอย่างละเอียดและจะมีการมาร์คตำแหน่งเป็นอย่างดี เพื่อที่เวลาฉีดจะได้ตรงจุด และเป๊ะที่สุดครับ

ความสมมาตร

ความสมมาตร เท่ากันของคางทั้งสองข้างนั้นสำคัญมากๆ และหมอจะเน้นมากๆ เพื่อให้ฉีดออกมาสวยตรงกึ่งกลางที่สุด ในบางท่านที่คางเดิมเบี้ยวเอียงอยู่แล้ว เราก็ยังสามารถใช้ฟิลเลอร์ช่วยปรับให้ตรงได้ด้วยครับ


หลังฉีดฟิลเลอร์คาง จะเริ่มเห็นผลเมื่อไหร่?

สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์เลยครับ ว่าคางจะได้รูปทรงสวย รับกับใบหน้าขึ้นทันทีครับ


ฟิลเลอร์คาง อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิค ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว และร่างกายเรามีเอนไซม์ที่สามารถสลายมันได้เองครับ ระยะเวลาในการที่ร่างกายจะสลายฟิลเลอร์นั้น จะแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด แต่โดยทั่วไปอาจกล่าวได้ว่าฟิลเลอร์ อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน ยกเว้นบางตัวอาจจะอยู่ได้นานกว่านั้น เช่นปีครึ่งถึงสองปีได้ ซึ่งขึ้นกับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ดังที่หมอได้กล่าวไว้แล้วในส่วนบนของบทความนี้ครับ


ข้อควรปฏิบัติ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์คาง

  1. หากเป็นไปได้ ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDS ได้แก่ ibuprofen naproxen วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
  2. หากเป็นไปได้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการรักษา
  3. ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณริมฝีปากควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา เพราะ คุณหมออาจจะพิจารณา ให้ยาป้องกันการกำเริบของ โรคเริม หลังฉีดได้ในบางท่านครับ

ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์คาง

[CR: Allegan]

ทันทีหลังจากการฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการผิวหนังบวมแดง อาการคันหรือคลำได้เป็นก้อนใต้ผิวหนังบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติของการฉีดฟิลเลอร์ และอาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 48 ชั่วโมง แต่ในบางรายอาจมีอาการบวมนานถึง 7-10 วัน และบางรายอาจเกิดขึ้นได้หลายสัปดาห์ การประคบเย็นหลังจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยลดอาการบวมและแดงได้

โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

24 ชั่วโมงหลังจากการฉีดฟิลเลอร์

  • หลีกเลี่ยงการจับ ลูบคลำหรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยา
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวภายใน 12 ชั่วโมงแรก

1 สัปดาห์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์

  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลานานอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและช้ำได้ตามที่ต้องการ

2 สัปดาห์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนความร้อน เช่น ซาวน่า และการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน
  • หลีกเลี่ยงการนวดใบหน้า
  • หลีกเลี่ยงการจับ กด หรือบีบบริเวณที่ฉีด

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  • ในช่วงวันแรก หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรนอนราบ นอนตะแคง หรือเคลื่อนไหวในท่าก้มหัว ควรนั่งตัวตรง หรือยืนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยา
  • นอนท่าศรีษะสูงเพื่อลดอาการบวม
  • ควรนัดพบแพทย์เพื่อประเมินผลการรักษา 2 สัปดาห์หลังการฉีดฟิลเลอร์ และอาจมีการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มในกรณีที่จำเป็น
  • โปรดปรึกษาแพทย์ หากเกิดข้อสงสัย หรือมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น

ฟิลเลอร์คาง นอนตะแคงได้ไหม?

หลังทำฟิลเลอร์คาง ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงและการนอนคว่ำหน้า 1 วันก่อนนะครับ เพื่อให้ฟิลเลอร์ได้มีเวลาเซ็ตสักหน่อย ในวันรุ่งขึ้นเป็นต้นไปก็สามารถนอนตะแคงเป็นปกติครับ เพราะฟิลเลอร์มีความคงรูปดีอยู่แล้ว แม้จะเผลอนอนทับ มีแรงกดบริเวณคางบ้างก็ไม่มีผลทำให้คางเปลี่ยนรูปครับ


ฟิลเลอร์คาง บวมกี่วัน?

อาจมีอาการริมฝีปากบวม อาการคันบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติของการฉีดฟิลเลอร์ และอาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 48 ชั่วโมง แต่ในบางรายอาจมีอาการบวมนานถึง 7-10 วัน และบางรายอาจเกิดขึ้นได้หลายสัปดาห์ การประคบเย็นหลังจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยลดอาการบวมและคันได้ครับ

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*: