วิธีรักษาหลุมสิว ให้หายขาด หน้ากลับมาเนียน ขาว รวมจาก

บทความนี้มีผู้อ่านแล้ว 9,316

วิธีรักษาหลุมสิวให้หายขาด น่าจะเป็นความต้องการของหนุ่มๆสาวๆ และ คนที่กำลังประสบปัญหาเรื่องหลุมสิวอยู่ จากการรวบรวมปัญหาและทางแก้ไข จากหลากหลายเว็บไซต์ รวมทั้ง Pantip จึงสรุปมาเป็นแนวทางให้ครับ

สิว คือ ปัญหาผิวที่ทำให้ใบหน้าของเราไม่สวยใส หมดความมั่นใจ เกิดเป็นรอยนูนที่มาพร้อมรอยดำ รอยแดง หรือ อาจมีอาการอักเสบร่วมด้วย หนึ่งในปัญหาสิวที่รบกวนจิตใจมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ปัญหาหลุมสิว เพราะรอยดำรอยสิวสามารถจางหายตามกาลเวลาได้ ขณะที่ รอยหลุมสิว ต้องได้รับการรักษาตรงจุดเท่านั้นครับ จึงจะกลับมามีผิวเรียบเนียนดังเดิมได้ สำหรับการรักษาหลุมสิวนั้นทำได้หลายวิธี ดังนี้

1. บำรุงผิวหน้าด้วยการทาครีมอยู่เป็นประจำ

ใบหน้าของคนเราเป็นส่วนที่ต้องการสมดุลผิวอยู่ตลอดเวลา เราจึงควรหมั่นเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยครีมบำรุงต่างๆ อยู่เสมอเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ยิ่งถ้ามีปัญหารอยสิว ริ้วรอย หรือ รอยหลุมสิวบนใบหน้าแล้ว มีหลายกระทู้ใน Panitp ที่แชร์การเลือกใช้ครีมบำรุงดีๆ ที่จะช่วยกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจน ช่วยทำให้หลุมสิวของเรากลับตื้นขึ้นมาอีกด้วยครับ แต่ต้องแลกกันระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน และขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลครับผม

วิธีการเลือกครีมรักษาหลุมสิว ควรดูที่ส่วนผสมเป็นสำคัญ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ Retin A กรดวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยบำรุงให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้เป็นอย่างดี เพียงแต่อนุพันธ์นี้ค่อนข้างจะไวต่อแสงแดดมากจึงไม่ควรใช้ในเวลากลางวัน และควรทาบางๆ บนผิวเฉพาะในเวลาตอนกลางคืน

2. ผลัดเซลล์ผิวเพื่อให้หลุมสิวตื้นขึ้น

การผลัดเซลล์ผิว เป็น วิธีรักษาหลุมสิวโดยการแต้มกรด TCA (Trichloroacetic Acid) ลงบนจุดที่เป็นหลุมสิว การแต้มกรดจะช่วยให้ผิวบริเวณที่มีรอยสิวอยู่ได้รับการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และช่วยเร่งให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าแล้วสร้างผิวหนังใหม่ ช่วยให้หลุมสิวค่อยๆ ตื้นขึ้น ตามลำดับ

3. รักษาด้วยการใช้เข็มกระตุ้นผิวหน้า

การรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้จะใช้เข็มจิ้มลงไปใต้ผิว ด้วยเครื่องมือที่มีชื่อว่า Derma Roller ซึ่งเป็นลูกกลิ้งเล็กๆ ที่ติดด้วยเข็ม เมื่อกลิ้งลูกกลิ้งนี้บนผิวหน้า เข็มเล็กๆ ที่ติดอยู่โดยรอบจะเจาะลงไปในชั้นผิวหนังแท้ กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่มาเติมเต็มรอยหลุมสิวนั่นเองครับ

4. ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มรอยหลุมสิว

การฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิวเป็นวิธีที่ค่อนข้างได้ผลมาก เนื่องจากจะใช้สารเติมเต็มผิวที่เรียกว่า ไฮยาลูรอนิก แอซิด หลังจากฉีดแล้วจะสารนี้จะสามารถเข้าไปเติมเต็มรอยหลุมสิวได้เต็มทันทีเลยครับ วิธีนี้ถูกพูดถึงกันมากใน Pantip แต่ก็มีข้อเสียอยู่ครับ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ แต่ละครั้งจะอยู่ได้เพียงประมาณ 6 – 12 เดือน หลังจากนั้นจะค่อยๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ จะไม่อยู่ถาวรนั่นเองครับ

5. การรักษาด้วยพลังงานแสง IPL

พลังงานแสง IPL หรือ Intense Pulsed Light คือวิธีการดูแลผิวหน้าที่ใช้แสงยิงเข้าไปที่บริเวณที่ต้องการรักษา สามารถช่วยรักษาหลุมสิวได้ แต่ควรใช้การรักษาแบบติดต่อกันหลายครั้ง หรือต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นผลดีที่สุด การรักษาวิธีนี้ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาผิวหน้าไหม้จากการปรับระดับพลังงานแสงไม่เหมาะสม

6. รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

การรักษาด้วยเลเซอร์ Fractional CO2

เลเซอร์ CO2 เป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพสูง ใน Pantip ก็ลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่าเป็นที่สุดของการรักษาหลุมสิว ให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีมาก เพราะสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผิวเรียบเนียนใส หลังการรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดนี้ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด เพราะผิวจะมีความไวต่อแสง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดรอยดำคล้ำบนใบหน้าได้ครับ

Laser Fraxel

การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ชนิดนี้จะเป็นการใช้คลื่นแสงที่มีอนุภาคขนาดเล็ก ยิงตรงไปที่บริเวณที่ต้องการทำการรักษา เพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวบนใบหน้าให้เกิดการซ่อมแซมเนื้อผิว ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าแล้วสร้างผิวใหม่ขึ้นมา

ข้อควรระวังในการรักษา

วิธีการรักษาหลุมสิว ส่วนใหญ่จะทำให้ผิวหน้าบอบบางกว่าปกติเล็กน้อย จะมีความไวต่อแสงแดด หลังจากการรักษาในช่วงแรกควรหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
หลังทำการรักษาแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือสัมผัสใบหน้าแรงๆ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
ระหว่างอยู่ในช่วง การรักษารอยหลุมสิว ควรหลีกเลี่ยงครีมทาผิวที่ทำให้ผิวบอบบาง รวมถึงเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Whitening Cream ด้วย
รอยหลุมสิว เป็นปัญหาผิวหน้า ที่ต้องใช้เวลาในการรักษา หากผิวหน้าของคุณยังคงมีปัญหาสิวอยู่ แนะนำควรรักษาสิวให้หายเสียก่อน เนื่องจากการรักษาหลุมสิวอาจทำให้ผิวเกิดอาการอักเสบขึ้นได้
เพื่อผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ควรรับการรักษาจากสถานบริการที่สะอาด มีมาตรฐาน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง และเพื่อให้ปัญหาหลุมสิวได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ