สิวที่หลัง (Back Acne หรือ Bacne) เป็นปัญหาที่น่ากังวลใจของทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆ และบั่นทอนความมั่นใจการมีสิวเต็มแผ่นหลังทำให้ไม่กล้าใส่เสื้อผ้าที่ต้องโชว์ผิว หลายคนรู้สึกว่ารักษายากและท้อใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเป็นสิวขึ้นหลังแล้ว หมอขอยืนยันว่าเป็นสิวบริเวณหลังรักษาให้หายได้ ยิ่งเริ่มต้นรักษาเร็ว ก็จะยิ่งลดการเป็นสิวเรื้อรัง ลดโอกาสเกิดสิวเพิ่ม เพราะสิวที่ขึ้นที่หลังอาจเกิดจากการสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งการรักษาก็จะช่วยลดแบคทีเรียจากต้นตออย่างทันท่วงที
ในบทความนี้ หมอเอ็ม นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิก (M Vita Clinic) จะเจาะลึกทุกแง่มุม ตั้งแต่สาเหตุที่แท้จริง ประเภทของสิว วิธีการรักษาที่ได้ผลจริง ไปจนถึงการป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ เพราะหมอเข้าใจดีว่าปัญหาสิวที่หลังนั้นกระทบกับชีวิตประจำวันและความมั่นใจมากเพียงใด เพื่อให้คุณกลับมามีแผ่นหลังที่เรียบเนียนและมั่นใจได้อีกครั้งครับ
สิวขึ้นหลัง คืออะไร มีกี่ประเภท?
สิวที่ขึ้นบนหลัง (Back Acne หรือเรียกรวบว่า Bacne) เป็นปัญหาผิวพรรณชนิดหนึ่งที่เกิดการอักเสบของรูขุมขนและต่อมไขมันบริเวณแผ่นหลัง ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วผิวบริเวณนี้จะมีต่อมไขมันขนาดใหญ่และมีจำนวนมาก ทำให้ผลิตน้ำมันออกมาเยอะ จึงมีโอกาสอุดตันและเกิดสิวได้ง่าย โดยเราสามารถแบ่งประเภทของสิวที่หลังได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ครับ สิวขึ้นหลังพบได้ในทั้งผู้หญิงและสิวที่หลังผู้ชาย
สำหรับใครที่อยากอ่านข้อมูลเกี่ยวกับสิวเพิ่มเติม หมอรวบรวมไว้แล้วในบทความ “สิว” เกิดจากอะไร? หน้าเป็นสิวรักษายังไง? วิธีลดสิว แบบเอ็มวีต้าคลินิก คลิกอ่านได้เลยครับ
รักษาสิวที่หลัง ที่เอ็มวีต้าคลินิก ดีอย่างไร
ให้การรักษาด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีทรีตเมนท์เครื่องเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาตรฐานระดับโลกจึงมั่นใจในผลการรักษาได้เป็นอย่างดี
เอ็มวีต้าคลินิกมีรีวิวผลการรักษารอยสิวที่เห็นผลชัดเจนเป็นจำนวนมาก ทั้งรีวิวรูปภาพและรีวิวข้อความประทับใจ จึงทำให้มั่นใจถึงผลลัพธ์ที่คนไข้ทุกท่านจะได้รับครับ
คุณหมอเอ็ม ผู้ทำการรักษาเป็นคุณหมอที่มีประสบการณ์ในด้านผิวพรรณความงาม มาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี มีความเชี่ยวชาญในการดูแลสิวและรอยสิวเป็นอย่างดี
เทคนิคในการรักษาสิวที่หลัง และเลเซอร์รอยสิวที่เอ็มวีต้าคลินิกนั้นเป็นเทคนิคพิเศษ ที่คิดค้นขึ้นมาจากประสบการณ์อันยาวนานซึ่งเห็นผลชัดเจนมาก หลังทำเพียงครั้งแรกก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างครับ
เช็ก 7 สาเหตุหลัก สิวที่หลังเกิดจากอะไร
สิวขึ้นหลังเกิดจาก การอุดตันของรูขุมขนบริเวณผิวที่หลัง ซึ่งโดยปกติแล้วผิวบริเวณหลังจะเป็นบริเวณที่มีต่อมน้ำมันค่อนข้างเยอะ จึงมักมีความมันมากกว่าผิวกายบริเวณอื่นอยู่แล้ว ดังนั้นมีแนวโน้มสูงที่น้ำมัน (Sebum) ที่ถูกขับออกมานั้นจะรวมกับเซลล์ผิวที่หลุดลอกจากด้านในของรูขุมขน ก่อให้เกิดการอุดตัน และค่อย ๆ กลายเป็น หัวสิว Comedone ขึ้นมานั่นเอง
ซึ่งถ้าพูดถึงสาเหตุการเกิดสิวขึ้นที่หลังก็มีมากมาย มาดูกันว่า สาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง
เช็ก 9 สาเหตุหลัก สิวที่หลังเกิดจากอะไร

สาเหตุการเกิดสิวขึ้นหลัง นั้นมีหลายอย่าง และสาเหตุหลักของสิวที่หลังในคนไข้แต่ละท่านนั้นก็ไม่เหมือนกัน การรู้ถึงต้นตอของปัญหาเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการรักษา มาดูกันว่าสิวขึ้นหลังมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง
1. สิวฮอร์โมนที่หลัง
สิวที่หลังมีสาเหตุหลักจากฮอร์โมนเพศ โดยเฉพาะฮอร์โมนในกลุ่มแอนโดรเจน (Androgen) เช่น เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ที่กระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น พร้อมกับเร่งการแบ่งตัวของเซลล์ผิวจนรูขุมขนแคบลงและเกิดการอุดตัน เมื่อการอุดตันนี้กลายเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรีย C. acnes จะทำให้เกิดการติดเชื้อตามมา ร่างกายจึงตอบสนองด้วยการอักเสบ ทำให้เกิดอาการบวม แดง มีหนอง และกลายเป็นสิวอักเสบ ซึ่งอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้
2. การใส่เสื้อผ้าที่อับชื้น
เสื้อผ้าที่อับชื้น ระบายเหงื่อได้ไม่ดี หรือผ้าที่มีความหนามาก ๆ รัดแน่นเกินไป อาจจะทำให้เหงื่อ และความมันสะสมที่ผิวของเรามากขึ้น ทำให้เกิดความอับชื้น เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกที่ทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่าย จึงเพิ่มโอกาสเกิดสิวอุดตัน หรือเกิดโรครูขุมขนอักเสบใต้ร่มผ้า โดยเฉพาะที่บริเวณหลัง
3. กรรมพันธุ์
กรรมพันธุ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิวที่หลัง หากคนในครอบครัวเคยมีมีประวัติเป็นสิวที่หลัง โดยเฉพาะครอบครัวสายตรง เช่น พ่อแม่หรือพี่น้อง คุณก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญปัญหานี้เช่นกัน เนื่องจากลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกส่งต่อมา ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวมัน ขนาดและการทำงานของต่อมไขมัน แนวโน้มการอุดตันของรูขุมขน หรือการตอบสนองของผิวต่อฮอร์โมน ล้วนเป็นสิ่งที่กำหนดมาแต่กำเนิด ทำให้มีโอกาสเกิดสิวบริเวณแผ่นหลังได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ
4. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายที่ทำให้มีเหงื่อออกค่อนข้างมากเป็นประจำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บางท่านที่หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วยังไม่อาบน้ำในทันที แต่ปล่อยให้เหงื่อค่อย ๆ แห้งไปเอง อาจจะยิ่งทำให้สิวขึ้นหลัง หรือรูขุมขนอักเสบที่หลัง หรือใต้ร่มผ้าเพิ่มขึ้นได้
5. สภาพแวดล้อม
ฝุ่นละออง สิ่งสกปรกรอบตัว หรือการอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างร้อน หรือบางท่านชอบเข้าสตีม ซาวน่าก็มีส่วนทำให้เกิดรูขุมขนอักเสบ สิวที่หลัง ได้เช่นกัน
6. ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
ยาบางชนิด โดยเฉพาะกลุ่มสเตียรอยด์ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ ซึ่งพบได้ทั้งในยารักษาโรคประจำตัว เช่น Prednisolone ยาที่นักเพาะกายใช้เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งก็คือฮอร์โมนเพศชาย และยังอาจถูกลักลอบผสมในยาสมุนไพรหรือยาลูกกลอนที่ไม่ได้มาตรฐาน การใช้ยาเหล่านี้เป็นเวลานานจะกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานผิดปกติและก่อให้เกิดสิวอักเสบเห่อขึ้นตามร่างกายได้ ดังนั้นก่อนใช้ยาใด ๆ ที่ไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัยเสมอ
7. แพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และเครื่องสำอางสำหรับผิวกาย ไม่ว่าจะเป็นสบู่ ครีมอาบน้ำ โลชั่น หรือแม้แต่น้ำยาปรับผ้านุ่มบางชนิด อาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออุดตันรูขุมขน (Comedogenic) ทำให้เกิดสิวขึ้นหลังได้
8. อาหารและไลฟ์สไตล์
การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รวมถึงผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่มีความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมนและกระตุ้นการอักเสบในร่างกายได้
9. การทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง
บริเวณหลังเป็นบริเวณที่ทำความสะอาดได้ยาก ทำให้การทำความสะอาดแผ่นหลังไม่สะอาดได้ ซึ่งทำให้เซลล์ผิวเก่าและสิ่งสกปรกอาจตกค้างและสะสมจนเกิดการอุดตัน

สิวที่หลังมีกี่ประเภท
ประเภทของสิวขึ้นหลัง แบ่งให้เข้าใจง่าย จะมี 2 ประเภทใหญ่ แต่แม้จะเป็นสิวประเภทไหน แนะนำควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาอย่างถูกวิธี
1. สิวที่หลัง แบบไม่อักเสบ

สิวที่หลัง แบบไม่อุดตัน เป็นสิวประเภทสิวอุดตันที่มีลักษณะไม่มีการบวมแดง ไม่มีอาการเจ็บปวดของผิว สิวหลังประเภทนี้ หากรักษาหรือกำจัด ด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะไม่มีปัญหาในเรื่องของรอยตามมามากนัก และจะหายไว มักไม่เป็นแผลเป็น
สิวอุดตัน สิวหัวขาว หรือ สิวหัวปิด
สิวที่หลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มขนาดเล็ก มองด้วยตาเปล่าเป็นหัวสีขาวใต้ผิว ไม่เห็นรูขุมขน หากปล่อยไว้นาน จะมีเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Cuticobacterium acnes หรือ C. acnes ทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบขึ้นมาในอนาคตได้ และตามมาด้วยรอยแผลเป็นจากสิวซึ่งรักษายาก
สิวอุดตัน สิวหัวดำ หรือ สิวหัวเปิด
สิวขึ้นหลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มคล้ายสิวหัวขาว แต่จะสังเกตเห็นรูขุมขนชัด จะมีจุดสีน้ำตาลหรือสีดำ เนื่องจากหัวสิวที่โผล่ขึ้นมา ทำปฏิกิริยากับอากาศ จำเป็นต้องกดออกด้วยวิธีที่ถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบ และติดเชื้อในอนาคต ลดความเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็น
2. สิวที่หลัง แบบอักเสบ

สิวขึ้นหลังกรณี สิวอักเสบ มีดังนี้
- สิวอักเสบบวมแดง
สิวบนหลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มอักเสบ ปวด บวมแดง ไม่มีหัวหนอง เมื่อสิวยุบมักมีรอย และโอกาสเกิดแผลเป็นหลังสิวหายหากแกะเกา
- สิวอักเสบแบบนูนบวมแดง
สิวบริเวณหลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มขนาดเล็กอักเสบ เกิดจากสิวอุดตันมาก่อน หากทิ้งไว้นานหรืออักเสบนานก่อให้เกิดเป็นสิวหนอง
- สิวอักเสบเป็นหนอง
สิวที่หลังลักษณะนี้จะเป็นตุ่มมีหัวหนองสีขาวหรือเหลือง ปวด บวมแดง หากทิ้งไว้นาน หรือรักษาผิววิธี มีโอกาสเกิดรอยดำ รอยแดง จากสิว รอยหายยาก และหากอักเสบนานก่อให้เกิดสิวอักเสบขนาดใหญ่ในอนาคตได้
- สิวอักเสบขนาดใหญ่ สิวหัวช้าง
สิวที่ขึ้นบนหลังลักษณะนี้จะเป็นเป็นตุ่มอักเสบ ปวด บวมแดง มีหัวหนองสีขาวหรือเหลือง รักษายากกว่าสิวทุกประเภท หากรักษาผิววิธีเมื่อสิวหายจะมีรอยดำลึก รอยหายยาก และโอกาสเกิดแผลเป็นหรือ หลุมสิว แนะนำให้พบแพทย์เพื่อวางแผนรักษาทันที
หากเริ่มเป็นสิว แน่นอนโอกาสจะเป็นเรื้อรังค่อนข้างสูง จากที่เป็น 1 – 2 จุด พอเกิดความกังวล ไปจับ สัมผัส แกะ เกา สามารถทำให้ลุกลาม และยิ่งเป็นประเภทสิวอักเสบ จะเกิดรอยลึกแน่นอน ควรปรึกษาแพทย์ รักษาร่วมกับการทานยาฆ่าเชื้อที่จ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
สิวที่หลังเยอะมาก สิวเต็มหลัง พบแพทย์ดีไหม ?
สำหรับท่านที่มีสิวขึ้นหลังค่อนข้างเยอะมีอักเสบเป็นเม็ดใหญ่จำนวนมาก หรือมีรอยสิวค่อนข้างเยอะเต็มทั่วหลังหมอแนะนำว่าควรรับการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการรักษาสิวบนหลังโดยตรงจะเป็นการดีที่สุด
เพราะว่าปัญหาสิวบริเวณหลังในกรณีที่เป็นเยอะหากเรารีบรักษาอย่างถูกวิธีให้เร็วที่สุด จะมีโอกาสที่สิวจะหายได้สนิทมากกว่าและใช้เวลาในการรักษาสั้นกว่าที่จะปล่อยให้เป็นหนักยิ่งขึ้นจนรุนแรงลุกลามแล้วมาเริ่มรักษาทีหลัง

วิธีรักษาสิวขึ้นหลัง
เมื่อทราบถึงสาเหตุการเกิดสิวที่หลังแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการรักษา ซึ่งแบ่งออกเป็นการดูแลด้วยตัวเองและการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

1. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นการกระตุ้นของการเป็นสิวที่หลัง
- งดการบีบแกะเกาสิวบนหลัง เนื่องจากจะทำให้เกิดเป็นรอยได้ง่าย และอาจจะทำให้สิวที่หลังอักเสบเพิ่มขึ้นสิวเต็มหลังได้
- รักษาความสะอาดของผิวบริเวณแผ่นหลัง ควรอาบน้ำถูสบู่เป็นประจำเช้า เย็นแต่ไม่ควรถี่กว่านั้นเนื่องจากจะทำให้ ผิวอาจเกิดการระคายเคืองขึ้นมาได้
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะมีเหงื่อค่อนข้างเยอะ
- หลังอาบน้ำให้แต้มเจลแต้มหัวสิว สำหรับสิวอุดตัน อาจใช้ยาในกลุ่ม Adapalene ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ ทาก่อนนอนเพื่อช่วยละลายการอุดตัน แต่ควรเริ่มใช้ในปริมาณน้อย ๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
- พยายามสวมใส่เสื้อผ้า ที่มีเนื้อไม่หนาจนเกินไประบายอากาศได้ดีไม่อับชื้น โดยเลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดแน่นจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง งดเข้าสตีม ซาวน่า
- อาบน้ำทันทีหลังมีเหงื่อ โดยเฉพาะหลังออกกำลังกาย เพื่อชำระล้างคราบเหงื่อและแบคทีเรีย
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ใช้สบู่หรือเจลอาบน้ำสูตรอ่อนโยน อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide (BP) หรือ Salicylic Acid (BHA) ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อสิวและผลัดเซลล์ผิว
2. รักษาสิวขึ้นหลังด้วยวิธีทางการแพทย์
หากลองปรับพฤติกรรมแล้ว ยังไม่ดีขึ้น ใช้เวลานาน หรือหนักกว่าเดิม การรักษาโดยใช้วิธีการการแพทย์ซึ่งได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกรักษาสิวก็จะให้ผลที่ชัดเจน รวดเร็ว ปลอดภัย ได้ผลดีขึ้นอย่างแน่นอนมากกว่า
ซึ่งโดยปกติแล้ววิธีการที่คุณหมอจะใช้ในการรักษาก็จะมีหลายวิธีด้วยกันได้แก่
- การกดสิวหลัง จะช่วยเอาหัวสิวอุดตันที่อยู่ตามรูขุมขนออกหากทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้วยวิธีที่ถูกต้องแล้วจะสามารถทำให้สิวหายได้เร็วขึ้นมากนัก
- การฉีดสิว ด้วยตัวยาลดการอักเสบซึ่งจะถูกฉีดเข้าสู่สิวที่อักเสบโดยตรงจะทำให้การอักเสบของสิวลดลงอย่างรวดเร็วเห็นผลภายใน 1-2 วันหลังฉีดช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดรอยดำหรือรอยแผลเป็นได้
- ทรีตเม้นท์ผิว ซึ่งมีได้หลายรูปแบบ บางคลินิกอาจจะใช้วิธีการมาส์ก บางคลินิกอาจจะใช้เครื่องมืออุปกรณ์ อย่างเช่น คลื่นเลเซอร์ความถี่สูง หรือการฉายแสงลดเชื้อสิว เพื่อช่วยให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้น
- เลเซอร์สิว และเลเซอร์รอยสิวหลัง ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิกมีเลเซอร์หลากหลายชนิดที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาสิวและรอยสิวได้
- ยา ในส่วนของตัวยาที่ใช้ในการรักษาสิวขึ้นหลังจะถูกจ่ายโดยแพทย์ที่ทำการรักษา ซึ่งรายละเอียดตรงนี้หมอจะพูดในหัวข้อถัดไปนะครับ
3. รักษาสิวขึ้นหลังด้วยยา
สำหรับตัวยาที่ใช้ในการรักษาสิวขึ้นหลังมีหลายชนิด
ตัวอย่างเช่น
- เบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ Benzoyl peroxide มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C. acnes ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวอักเสบนอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยละลายสิวอุดตันทำให้สิวอุดตันหลวมและหลุดออกได้ง่ายขึ้นด้วย
สำหรับผลิตภัณฑ์ BP ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะมาในรูปของเจลครีมที่จะทาทิ้งไว้แล้วล้างออกแต่ในต่างประเทศจะมีในรูปแบบของโฟมเจลที่เอาไว้ฟอกตัวแทนสบู่แล้วล้างออกด้วย
- อะดาพาลีน Adapalene ตัวยาอนุพันธ์กรดวิตามินเอที่มีคุณสมบัติช่วยละลายสิวอุดตันและป้องกันการเกิดสิวอุดตันใหม่ ตัวนี้มาในรูปของเจลครีมซึ่งเหมาะสำหรับทาเฉพาะก่อนนอนบริเวณที่เป็นสิว
ข้อควรระวังยาตัวนี้อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายสำหรับท่านที่ผิวค่อนข้างบอบบาง ควรใช้อย่างระมัดระวัง อาจเริ่มทาในปริมาณน้อยๆ ก่อนหรืออาจจะทาคืนเว้นคืนแล้วค่อยๆ ปรับเพิ่มทีหลังเมื่อผิวเริ่มคุ้นกับตัวยา
การรักษาสิวอุดตันโดยแพทย์ผู้ชำนาญที่ M Vita Clinic
สำหรับคนที่มีสิวขึ้นหลังเยอะมาก เป็นสิวอักเสบรุนแรง หรือลองดูแลตัวเองแล้วไม่ดีขึ้น การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคือคำตอบที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น ลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็น และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ M Vita Clinic เรามีโปรแกรม Medi-Aclear for Back ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาสิวและรอยสิวที่หลังโดยเฉพาะ ผสานหลากหลายเทคโนโลยีและเทคนิคการรักษาที่เห็นผลชัดเจน
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวที่หลัง
- เวลาอาบน้ำให้พยายามชำระล้างทำความสะอาดแผ่นหลังให้ทั่วถึงและหมดจดที่สุด
- สำหรับท่านที่ผิวมีขี้ไคลได้ง่าย อาจทำการสครับผิวบ้างประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง โดยควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่หยาบหรือบาดผิวจนเกินไป และไม่ควรขัดด้วยความรุนแรง
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายที่เหมาะกับผิว เช่น เลือกใช้ครีมอาบน้ำ หรือสบู่ที่เหมาะกับสภาพผิว หากผิวค่อนข้างมันอาจพิจารณาใช้สบู่ก้อนแทนการใช้ครีมอาบน้ำ เป็นต้น
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Non-Comedogenic” คือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- เปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อย ๆ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นละออง หรือเชื้อโรค ไรฝุ่นและอื่น ๆ โดยหมอแนะนำให้พยายามทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าปูที่นอน รวมถึงผ้าห่มทุกสัปดาห์จะดีที่สุด
- พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ยาสมุนไพร ยาต้ม ยาหม้อ ยาลูกกลอน ท่านที่ต้องการจะใช้ยากลุ่มฮอร์โมนเพศชายควรศึกษาผลก่อน
- คุมอาหาร ลดการทานอาหารหวานจัด มันจัด และแป้งขัดขาว เน้นทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีกากใยสูง
กินอะไรช่วยลดสิวที่หลังได้บ้าง
โภชนาการมีผลต่อการอักเสบและความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งขัดขาวสูง จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวที่หลังได้ง่าย การปรับอาหารจึงเป็นวิธีดูแลจากภายในที่สำคัญ สำหรับอาหารที่ช่วยต้านการอักเสบ เช่น ปลาที่มีไขมันโอเมก้า 3 ผักใบเขียวและผลไม้หลากสีที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง รวมถึงธัญพืชไม่ขัดสี และอาหารที่มีสังกะสี อย่างถั่วและเมล็ดฟักทอง ซึ่งจะช่วยควบคุมความมันและส่งเสริมให้ผิวแข็งแรงขึ้น ช่วยลดการเกิดสิวได้
รักษาสิวที่หลัง ที่ไหนดี
รักษาสิวที่หลัง ที่ไหนดี เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิต เพื่อเลือกคลินิกรักษาสิวที่ดี เพราะปัจจุบัน สิวขึ้นหลังมีโอกาสเกิดค่อนข้างสูง ทั้งจากฝุ่น มลภาวะ และสิ่งสำคัญที่ทำให้หายได้ คือการรักษา รักษาสิวหลัง ที่ไหนดี ที่ราคาไม่สูงมาก แต่มีความปลอดภัย เห็นผลเร็ว และแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด มาดูกันว่าควรเลือกจากอะไร
- รักษาสิวบริเวณหลัง ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง
- ต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง
- อุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ ที่ สะอาด ทันสมัย พร้อมใช้งาน
- มีขั้นตอนการรักษาสิวบริเวณหลังที่ครอบคลุม พร้อมราคาที่สมเหตุสมผล
- รีวิวจากผู้ได้รับการรักษาจริง ไม่ว่าจะเป็นรีวิวจากทาง Facebook , Google Map , Wongnai , Website รวบรวมคลินิก และรีวิวจากคลินิกเอง เป็นรีวิวจากลูกค้าที่เข้ามารับบริการจริง
- คลินิกมีการใส่ใจในการบริการ และติดตามผลอย่างใกล้ชิด
- สามารถเลือกได้จาก คลินิกรักษาสิวใกล้ฉัน เพื่อการเดินทางที่สะดวก

รักษารอยสิว ที่หลัง ภายใน 7 วัน ทำได้ไหม
คนส่วนใหญ่ต้องการความรวดเร็ว ต้องการ รักษาสิว รอยสิวบริเวณหลัง ภายใน 7 วัน สามารถทำได้ครับ แต่ต้องเป็นกรณีของลักษณะสิวที่มีปริมาณน้อย ผดเล็กๆ สิวตื้น รอยสิวสีไม่เข้ม แค่ยังไม่เรื้อรังครับ แต่ใน 7 วันนี้ ต้องเข้มงวดกับตัวเองมาก ฟังและทำตามคำแนะนำการรักษาของแพทย์อย่างเคร่งครัด และถูกต้องครับ
รักษาสิวที่หลัง ราคา
รักษาสิวที่หลัง ราคา ที่เอ็มวีต้า คลินิก แพทย์แนะนำ รักษาด้วยโปรแกรม Medi-Aclear รักษาสิวหลังและเลเซอร์รอยสิวที่หลัง ครบสูตร

ราคา รักษาสิวที่หลัง คอร์ส Medi-Aclear
- รายครั้ง : 3,500 บาท
- คอร์ส 5 ครั้ง : 10,500 บาท
- คอร์ส 10 ครั้ง : 17,000 บาท

คำถามที่พบบ่อย
รักษาสิวขึ้นหลัง กี่วันเห็นผล?
ที่ M Vita Clinic คนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึกได้ว่าสิวและการอักเสบดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำโปรแกรม Medi-Aclear ครับ อย่างไรก็ตาม หากมีสิวจำนวนมากหรือรอยสิวที่เข้ม การรักษาอย่างต่อเนื่องจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจนผิวกลับมาเรียบเนียนครับ
สิวขึ้นหลังลุกลามเป็น สิวที่หน้าอก สิวขึ้นหลังคอ ได้ไหม?
โดยส่วนใหญ่แล้ว ท่านที่เป็นสิวขึ้นหลังมักจะมีปัญหาสิวอยู่ที่เฉพาะโซนผิวบริเวณหลังครับ
อย่างไรก็ตามมีคนไข้บางท่าน ที่เป็นสิวบริเวณหลัง และในขณะเดียวกันก็มีลุกลามมาที่หน้าอก บริเวณคอ และมาถึงบริเวณใบหน้าได้เช่นกัน คนไข้ในกลุ่มนี้ก็จัดว่าเป็นสิวค่อนข้างรุนแรงมากครับ
ซึ่งคนไข้ในกลุ่มนี้หมอขอแนะนำว่าควรได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการรักษาสิวโดยตรงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะครับ
ข้อสรุป
สิวที่หลัง เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ โดยประเภทของสิวขึ้นหลังนั้นมีหลายรูปแบบ บางประเภทที่ค่อนข้างรุนแรงหากไม่รักษาด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะทิ้งรอยแดงรวมถึงจุดด่างดำเมื่อหายไป การรักษาสิวแบบนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในการรักษาร่วมด้วย แนะนำให้รีบรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่คลินิกรักษาสิวใกล้ฉันที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรอง จะดีที่สุดครับ
ที่ M Vita Clinic เราเข้าใจปัญหานี้อย่างลึกซึ้ง จึงได้ออกแบบโปรแกรม ‘Medi-Aclear for Back’ ที่ดูแลครบวงจรในหนึ่งเดียว โดยผสานการเคลียร์สิวอักเสบโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อผลัดเซลล์ผิว กดสิว และฉีดสิวโดยแพทย์ เข้ากับการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ขั้นสูงจากเยอรมนีอย่าง Pro Yellow Laser และ Helios III เพื่อจัดการทั้งรอยแดงและจุดด่างดำฝังลึกอย่างมีประสิทธิภาพ
เอ็มวีต้าคลินิกมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวพรรณโดยเฉพาะ คอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ก่อนการรักษา ในระหว่างการรักษา และหลังการรักษา เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สามารถติดต่อนัดคิวพบหมอ หรือสอบถามโปรโมชั่น ได้ที่…
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่าย ๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมาก ๆ ครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
เอกสารอ้างอิง
- Bikowski J. “A review of the safety and efficacy of benzoyl peroxide (5.3%) emollient foam in the management of truncal acne vulgaris.” J Clin Aesthet Dermatol. 2010;3(11):26-9.
- Brand B, Gilbert R, et al. “Cumulative irritancy comparison of adapalene gel 0.1% versus other retinoid products when applied in combination with topical antimicrobial agents.” J Am Acad Dermatol. 2003;49(3 Suppl):S227-32.
- Del Rosso JQ. “Management of truncal acne vulgaris: current perspectives on treatment.” Cutis. 2006 May;77(5):285-9.
- Eichenfield LF, Andrew C. Krakowski AC, et al. “Evidence-Based Recommendations for the Diagnosis and Treatment of Pediatric Acne.” Pediatrics. 2013;131 Suppl 3:S163-86.
- Leyden JJ, Del Rosso JQ. “The effect of benzoyl peroxide 9.8% emollient foam on reduction of Propionibacterium acnes on the back using a short contact therapy approach.” J Drugs Dermatol. 2012;11(7):830-3.
วันเผยแพร่



