รอยแผลเป็นจากสิว

รอยแผลเป็นจากสิว รักษาอย่างไร คืออะไร มีกี่แบบ หมอมีคำแนะนำ

รอยแผลเป็นจากสิว

รอยแผลเป็นจากสิว เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย เกิดจากสิวอักเสบที่หายแล้ว ทำให้เกิดรอยแดง รอยดำ หรือรอยหลุม รอยแผลเป็นจากสิวอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพ 

บทความนี้หมอจะอธิบายเกี่ยวกับรอยแผลเป็นจากสิว วิธีการรักษา และประเภทของรอยแผลเป็นจากสิวอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและสามารถรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างถูกต้อง

รอยแผลเป็นจากสิว คืออะไร

รอยแผลเป็นจากสิว คือ ร่องรอยที่เกิดจากสิวอักเสบสิวที่หายแล้ว รอยแผลเป็นจากสิวสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น รอยแดง รอยดำ รอยหลุม เป็นต้น โดยในระหว่างที่สิวอักเสบนั้น แบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วจะเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อผิวชั้นบน ทำให้ผิวชั้นล่างเสียหาย เมื่อสิวหายแล้ว ผิวชั้นล่างจึงไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์ จึงเกิดรอยแผลเป็นขึ้น

สาเหตุของรอยแผลเป็นจากสิว

สาเหตุของการเกิดรอยแผลเป็นจากสิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ปัจจัยหลักๆ คือ

  • ปัจจัยภายใน ได้แก่ พันธุกรรม เชื้อชาติ และเพศ โดยพบว่าคนที่มีผิวสีเข้มมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยแผลเป็นคีลอยด์มากกว่าคนที่มีผิวสีอ่อน นอกจากนี้ ผู้หญิงก็มีแนวโน้มที่จะเกิดรอยแผลเป็นจากสิวมากกว่าผู้ชาย
  • ปัจจัยภายนอก ได้แก่ ตำแหน่งของสิว ความรุนแรงของสิว การบีบสิว และการสัมผัสแสงแดด โดยพบว่ารอยแผลเป็นจากสิวมักเกิดบริเวณที่ผิวมีความตึงเครียด เช่น หน้าอก ไหล่ หลัง และใบหู นอกจากนี้ การบีบสิวอาจทำให้รอยแผลเป็นจากสิวรุนแรงขึ้น และการสัมผัสแสงแดดอาจทำให้รอยแผลเป็นจากสิวเข้มขึ้น
สิว รอยแผลเป็นสิว

หากต้องการลดความเสี่ยงในการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น บีบสิว และการสัมผัสแสงแดด นอกจากนี้ ควรรักษาสิวอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้สิวหายเร็วและไม่รุนแรง

ประเภทของรอยแผลเป็นจากสิว

รอยแผลเป็นจากสิวสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

  • รอยแผลเป็นแบบนูน เป็นรอยแผลเป็นที่มีลักษณะนูนขึ้นมาจากผิวปกติ เกิดจากการผลิตคอลลาเจนมากเกินไปในระหว่างที่สิวอักเสบ
  • รอยแผลเป็นแบบหลุม เป็นรอยแผลเป็นที่มีลักษณะหลุมลงไปจากผิวปกติ เกิดจากเนื้อเยื่อผิวชั้นล่างถูกทำลายอย่างรุนแรง

รอยแผลเป็นแบบนูน

รอยแผลเป็นแบบนูนสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดย่อยๆ คือ

  • รอยแผลเป็นนูนเกิน (hypertrophic scar) เป็นรอยแผลเป็นที่มีลักษณะนูนขึ้นมาจากผิวปกติเล็กน้อย ขอบชัด มักเกิดที่บริเวณใบหน้า ไหล่ หน้าอก และหลัง
  • รอยแผลเป็นคีลอยด์ (keloid) เป็นรอยแผลเป็นที่มีลักษณะนูนขึ้นมาจากผิวปกติมาก ขอบไม่ชัด มักเกิดที่บริเวณที่ผิวมีความตึงเครียด เช่น หน้าอก ไหล่ หลัง และใบหู

รอยแผลเป็นแบบหลุม

รอยแผลเป็นแบบหลุมสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิดย่อยๆ คือ

  • รอยแผลเป็นแบบ Ice-pick เป็นรอยแผลเป็นหลุมลึก คล้ายตัว V มีขอบชัดเจน
  • รอยแผลเป็นแบบ Rolling เป็นรอยแผลเป็นหลุมกว้าง กลมคล้วยตัว U ขอบไม่ชัดเจน
  • รอยแผลเป็นแบบ Boxcar เป็นรอยแผลเป็นหลุมกว้าง กลมคล้วยตัว U ขอบชัด มีทั้งแบบตื้นและลึก

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หลุมสิว คลิ๊ก ได้เลยครับ

วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิว

วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

การรักษารอยสิวแบบไม่ผ่าตัด

เป็นการช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิวและลดการอักเสบของผิว โดยอาจใช้ยาทา ครีมบำรุงผิว หรือการทำทรีตเมนต์ต่างๆ เช่น

  • ยาทา เช่น กรดเรติโนอิก (Retinoic acid) กรดไกลโคลิค (Glycolic acid) และกรดโคจิก (Kojic acid)
  • ครีมบำรุงผิว เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี (Vitamin C) อาร์บูติน (Arbutin) และไฮโดรควินโนน (Hydroquinone)
  • การทำทรีตเมนต์ เช่น การผลัดเซลล์ผิวแบบเคมี (Chemical peel) การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Dermabrasion) และการใช้เลเซอร์ (Laser)
การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี

การรักษารอยสิวแบบผ่าตัด

เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น โดยอาจใช้วิธีหัตถการทางการแพทย์ต่างๆ เช่น

  • การยกกระชับผิว (Tightening procedure) เป็นการยกกระชับผิวเพื่อทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • การผ่าตัดตัดหลุมสิว (Punch excision) เป็นการกรีดผิวแล้วตัดหลุมสิวออก
  • การเซาะผังผืด (Subcision) ในกรณีแผลเป็นหลุมสิว
  • การฉีดฟิลเลอร์ (Filler injection) เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มหลุมสิว

การรักษารอยแผลเป็นจากสิวอาจใช้เวลานานและต้องใช้ความอดทน โดยวิธีการรักษาที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของรอยแผลเป็น หากรอยแผลเป็นเป็นรอยแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ อาจต้องรักษาด้วยวิธีการแบบผ่าตัด ในขณะที่รอยแผลเป็นหลุมอาจรักษาได้ด้วยวิธีการแบบไม่ผ่าตัดหรือวิธีการแบบผ่าตัดร่วมกัน

รอยแผลเป็นสิว

วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวด้วยธรรมชาติ

การรักษารอยแผลเป็นจากสิวด้วยธรรมชาติอาจใช้เวลานานกว่าการใช้ยาหรือการทำหัตถการทางการแพทย์ แต่หากทำอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้รอยแผลเป็นจางลงได้ แต่หากใครต้องการรักษารอยแผลเป็นจากสิวด้วยธรรมชาติ สามารถทำได้ด้วย การทาว่านหางจระเข้ มาสก์หน้าด้วยสมุนไพร ดื่มน้ำผลไม้และผัก หลีกเลี่ยงแสงแดด

การดูแลผิวเพื่อลดการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว

รอยแผลเป็นจากสิวเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย และสามารถสร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคน การดูแลผิวเพื่อลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิวอย่างถูกวิธีจะช่วยให้รอยแผลเป็นจางลงได้ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้

คำแนะนำในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง หากมีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยในการลดเลือนรอยแผลเป็น เช่น กรดวิตามินเอ กรดโคจิก กรดกลูโคลิค กรดแลคติก เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่อาจทำให้รอยแผลเป็นเข้มขึ้น เช่น เรตินอล กรดซาลิไซลิก กรดไฮโดรควิโนนิค

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว

  • หลีกเลี่ยงการแกะ แคะ หรือบีบสิว เพราะจะยิ่งทำให้รอยแผลเป็นแย่ลง
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะแสงแดดเป็นตัวการที่ทำให้รอยแผลเป็นเข้มขึ้น ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ
รอยแกะสิว

การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และลดเลือนรอยแผลเป็นได้ สามารถทำได้ดังนี้

  • ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะสม
  • ใช้โทนเนอร์เพื่อปรับสมดุลของผิว
  • ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยในการลดเลือนรอยแผลเป็น
  • มาส์กหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

นอกจากการดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแล้ว การดูแลสุขภาพโดยรวมก็มีส่วนช่วยในการลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิวได้เช่นกัน เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หากรอยแผลเป็นจากสิวมีความรุนแรง หรือมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

รักษารอยแผลสิว

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการลดรอยแผลเป็นจากสิว

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการลดรอยแผลเป็นจากสิว ได้แก่

  • Picosecond laser เป็นเลเซอร์รุ่นใหม่ที่มีความยาวคลื่นสั้นและมีประสิทธิภาพสูง สามารถทำลายเม็ดสีผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ดีกว่าเลเซอร์รุ่นเก่า ส่งผลให้รอยแผลเป็นจากสิวดูจางลงและเรียบเนียนขึ้น
  • Fractional laser เป็นเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานออกมาเป็นจุดๆ ทำให้สามารถรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้โดยไม่ทำให้ผิวเรียบเนียนเกินไป
  • Radiofrequency microneedling เป็นการใช้พลังงานคลื่นวิทยุผ่านเข็มขนาดเล็กๆ ลงสู่ใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวเกิดการฟื้นฟูและผลิตคอลลาเจนใหม่ได้มากขึ้น
  • Subcision เป็นการผ่าตัดเล็กเพื่อดันเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังที่ยุบตัวลงให้กลับมาเรียบเนียนขึ้น
  • Dermal filler เป็นการใช้สารเติมเต็มเพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น
ฉีดเติมเต็มหลุมสิว

เทคโนโลยีเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูงในการลดรอยแผลเป็นจากสิว ระยะเวลาในการเห็นผลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

นอกจากเทคโนโลยีเหล่านี้แล้ว ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่กำลังพัฒนาอยู่ เช่น

  • Stem cell therapy เป็นการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวที่เสียหาย
  • 3D printing เป็นการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติเพื่อสร้างผิวหนังใหม่

เทคโนโลยีเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยมากกว่าเทคโนโลยีในปัจจุบัน แต่ยังคงอยู่ในช่วงการวิจัยและพัฒนา

รอยแผลเป็นจากสิว รักษาอย่างไรให้หายขาด

รอยแผลเป็นจากสิวไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถรักษาให้จางลงได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแผลเป็น วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิว มีดังนี้

  • รอยดำ สามารถใช้ยาทาลดรอยดำ เช่น กรดวิตามินเอ กรดโคจิก กรดกลูโคลิค กรดแลคติก เป็นต้น หรือทำเลเซอร์เพื่อทำลายเม็ดสีเมลานิน
  • รอยหลุมสิว สามารถใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง หรือทำหัตถการทางการแพทย์ เช่น การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (dermabrasion) การกรอผิวด้วยเลเซอร์ (laser resurfacing) หรือการฉีดฟิลเลอร์ เป็นต้น
  • รอยแผลเป็นนูน สามารถลดรอยนูนด้วยเลเซอร์ หรือการฉีดช่วยยับยั้งการสร้างคอลลาเจนมากเกินไป และช่วยให้แผลเป็นคีลอยด์ยุบตัวลงได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแผลเป็น รอยแผลเป็นนูนขนาดใหญ่หรือรุนแรงอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับรอยแผลเป็นของแต่ละบุคคล

รักษารอยแผลสิว
Line @ : @mvitaclinic

ใครไม่เหมาะกับการรักษารอยแผลเป็นจากสิว

  • การรักษารอยแผลเป็นจากสิวไม่เหมาะกับคนที่มีสิวอักเสบอยู่ เพราะอาจทำให้รอยแผลเป็นแย่ลงได้ นอกจากนี้
  • การรักษารอยแผลเป็นจากสิวบางวิธี เช่น การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี การกรอผิวด้วยเลเซอร์ หรือการฉีดฟิลเลอร์ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง บวม แสบ ระคายเคือง หรือผิวไหม้ได้
  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง หรือโรคผิวหนังบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจรักษารอยแผลเป็นจากสิว
  • ผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจรักษารอยแผลเป็นจากสิว เนื่องจากบางวิธีอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์หรือทารกที่กินนมแม่ได้

รักษารอยแผลเป็นจากสิว กี่ครั้งหาย ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?

ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษารอยแผลเป็นจากสิว ที่ เอ็มวีต้าคลินิก ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของรอยแผลเป็น รวมถึงวิธีการรักษาที่ใช้ครับ

  • รอยดำจากสิวอาจต้องรักษาต่อเนื่อง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 – 2 เดือนขึ้นไป จึงจะเห็นผลชัดเจน
  • รอยหลุมสิวอาจต้องรักษาต่อเนื่อง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 2-4 เดือนขึ้นไป จึงจะเห็นผลชัดเจน
  • รอยแผลนูน ใช้เวลารักษาต่อเนื่อง 1-3 สัปดาห์ ต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับขนาดรอยนูนครับ

โดยทั่วไปแล้ว การรักษารอยแผลเป็นจากสิวควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับรอยแผลเป็นของแต่ละบุคคล

ก่อนรักษารอยแผลเป็นจากสิว เตรียมตัวอย่างไร

ก่อนรักษารอยแผลเป็นจากสิว ควรเตรียมตัวดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพผิวและความรุนแรงของรอยแผลเป็นจากสิว เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA/BHA อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำการรักษา เนื่องจากกรดเหล่านี้อาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำการรักษา เนื่องจากแอลกอฮอล์และบุหรี่อาจทำให้ผิวอ่อนแอลง
  • งดรับประทานยาแอสไพรินหรืออาหารเสริมบางชนิด ก่อนทำการรักษาประมาณ 2 สัปดาห์ หากต้องใช้ยารักษาโรค ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษา

อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังรักษารอยแผลเป็นจากสิว

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรักษารอยแผลเป็นจากสิว ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของรอยแผลเป็น รวมถึงวิธีการรักษาที่ใช้

  • รอยดำจากแผลสิว ผิวจะแดงเล็กน้อยจากการเลเซอร์ จะค่อยจางไปใน 2 – 3 ชั่วโมงครับ
  • รอยแผลเป็นนูน มีเพียงอาการแดงจากการฉีดลดนูน จะค่อยๆดีขึ้นใน 24 ชม. ครับ
  • รอยหลุมสิวจากการเลเซอร์และการ subcision จะเป็นแผลสะเก็ดบางๆ จะลอกหลุดไปไม่เกิน 1 สัปดาห์ ครับ
สาเหตุ หลุมสิว

ข้อควรปฏิบัติหลังรักษารอยแผลเป็นจากสิว

ข้อควรปฏิบัติหลังรักษารอยแผลเป็นจากสิว ที่ เอ็มวีต้าคลินิก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดหลังทำการรักษา อาจะมีผลต่อผลลัพธืการรักษา เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ต้องขอความร่วมมือจากคนไข้ครับ

  • ทายาตามที่แพทย์สั่ง ยาทาเหล่านี้จะช่วยเร่งกระบวนการรักษารอยแผลเป็น
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดด อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังทำการรักษา
  • ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด
  • บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรงและเรียบเนียนขึ้น

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่… Line: @mvitaclinic

รักษารอยแผลสิว
Line @ : @mvitaclinic

เลือกคลินิกรักษารอยแผลเป็นจากสิว ที่ไหนดี?

การเลือกคลินิกรักษารอยแผลเป็นจากสิว มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น ชื่อเสียงของคลินิก ประสบการณ์ของแพทย์ เทคโนโลยีที่ใช้รักษา ความปลอดภัย และราคา

ที่เอ็มวีต้าคลินิก เป็นคลินิกดูแลรักษาด้านผิวพรรณในกรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2553 เอ็มวีต้าคลินิก มีผู้ใช้บริการกว่า 10,000+ เคส และแนะนำบอกต่อด้วย คะแนนรีวิว 4.9 จาก 5 ดาว จากรีวิวกว่า 1,000 รีวิว ลูกค้าส่วนใหญ่ให้รีวิวในเชิงบวก โดยชื่นชมในคุณภาพของการรักษา ฝีมือของแพทย์ และบริการของพนักงาน 

  • มีชื่อเสียงและประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี
  • มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรที่มีประสบการณ์
  • มีความปลอดภัยสูง
  • มีราคาที่สมเหตุสมผล
  • เทคโนโลยีที่ใช้รักษาทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
เลเซอร์ ที่ เอ็มวีต้า คลินิก

รักษารอยแผลเป็นสิว ที่ เอ็มวีต้า คลินิก

รักษารอยแผลเป็นจากสิวของเอ็มวีต้าคลินิก โดยที่คลินิกหมอจะมีเลเซอร์เฉพาะทางในการรักษารอยแดงสิวและรอยดำสิว เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา และจะใช้ยาทา ยากิน รวมทั้งการผลัดผิวเป็นตัวเสริมให้ผลการรักษาเร็วและชัดเจนขึ้น โดยจะพิจารณาเป็นรายบุคคลตามความเหมาะสมครับ

  1. วิเคราะห์สภาพผิวและความรุนแรงของรอยแผลเป็นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  2. เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของรอยแผลเป็น
  3. รักษาด้วยเลเซอร์ตามขั้นตอน โดยเลเซอร์ที่ใช้จะแตกต่างกันไปตามชนิดและความรุนแรงของรอยแผลเป็น
  4. ดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  5. ให้ผลลัพธ์ที่ดี ยิ่งถ้าใช้เครื่องดีๆยิ่งเห็นผลเร็วและชัดเจน
  6. ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลที่รุนแรง สามารถแต่งหน้า และใช้ชีวิตได้ปกติ
  7. เจ็บแบบทนได้ หากมีขั้นตอนไหนที่อาจะมีการเจ็บ จะใช้ยาชาช่วย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
เอ็มวีต้าคลินิก เข้าสู่เคสที่ 10,000

ค่าใช้จ่ายในการรักษารอยแผลเป็นจากสิว

รักษารอยแผลเป็นจากสิว ที่ เอ็มวีต้า คลินิก จะแบ่งเป็น 3 แบบ การรักษาครับ เพื่อครอบคลุมทุกประเภทของแผลเป็นจากสิว ได้แก่ รอยดำจากสิว รอยแผลหลุมสิว รอยแผลเป็นนูน

รักษารอยดำสิว รอยแดงสิว ร่วมการรักษาสิว ราคา

รักษารอยดำสิว ร่วมการรักษาสิว ในกรณีที่ยังมีสิวอยู่ แนะนำการรักษาร่วมกัน เพื่อลดโอการเกิดรอยแผลสิว และ สิวใหม่ ในอนาคต โปรแกรมนี้ไม่เพียงแต่ลดรอยดำครับ ควบคุมถึงรอยแดงสิว รักษาด้วยเลเซอร์ครบสูตร ด้วยโปรแกรม Medi-Aclear

คอร์สรักษาสิว
Medi-Aclear

รักษารอยแผลหลุมสิว

สำหรับรักษาแผลหลุมสิว แนะนำโปรแกรม ANGEL TOUCH ผสมผสานการใช้เครื่องมือ เครื่องเลเซอร์ ตัวยา และเทคนิคการรักษาหลุมสิว ที่มีงานวิจัยรับรองประสิทธิภาพ และทุกตัวผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อนำมารักษาหลุมสิวทุกประเภทให้ดีขึ้นอย่างชัดเจนครับ

รักษาหลุมสิว ราคา
Fractora รักษาหลุมสิว

รักษารอยแผลเป็นนูนจากสิว ราคา

รักษารอยแผลเป็นนูนจากสิว โดยการรักษาที่ เอ็มวีต้า คลินิก เป็นการรักษาจนแผลนูนยุบเรียบกับผิว ด้วยเทคนิคการรักษาดังนี้

  • การฉีดลดนูน เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่สุดวิธีหนึ่ง ช่วยยับยั้งการสร้างคอลลาเจนและลดการอักเสบ ลดรอยแผลเป็นที่นูนออกมา ทำให้รอยแผลเป็นนูนยุบลง
  • เลเซอร์รักษาแผลเป็นนูน บางชนิดสามารถช่วยสลายคอลลาเจนส่วนเกินและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ ช่วยลดรอยแผลเป็นที่นูนออกมา
  • การกรอผิวของคุณด้วยเกล็ดอัญมณี การใช้เกล็ดอัญมณีแบบ microdermabrasion จะกรอเนื้อเยื่อแผลเป็นนูนออกและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ลดรอยแผลเป็นที่นูนออกมา ทำให้รอยแผลเป็นนูนยุบลง

แนะนำเข้ามาปรึกษา เพื่อประเมินการรักษาครับ

รักษารอยแผลสิว
Line @ : @mvitaclinic

รีวิว รักษารอยแผลเป็นจากสิว

รีวิว รักษาสิวและรอย คุณอาย 1
รีวิว รักษาสิวและรอย คุณมัช 2
รีวิว รักษาสิวและรอย คุณนัท 1

รีวิว รักษารอยแผลหลุมสิว

คลิป รีวิว การรักษาหลุมสิว กับ คุณหมอเอ็ม ที่ เอ็มวีต้าคลินิก

รีวิว รักษาหลุมสิว คุณฮิม
รีวิว รักษาหลุมสิว คุณตี๋
รีวิว เลเซอร์หลุมสิว คุณเมย์
รีวิว หลุมสิว คุณเมย์
รีวิว รักษาหลุมสิว คุณไพลิน
รีวิว เลเซอร์รักษาหลุมสิว คุณไพลิน
รีวิว รักษาหลุมสิว คุณพรีม
รีวิว หลุมสิว คุณพรีม

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับรอยแผลเป็นจากสิว ( Q & A )

Q : รักษารอยแผลเป็นจากสิว อันตรายไหม ?

รักษารอยแผลเป็นจากสิวโดยทั่วไปแล้วไม่อันตราย แต่อาจเกิดผลข้างเคียงได้บ้าง ขึ้นอยู่กับการเลือกวิธีรักษาที่ใช้ครับ

Q : รักษารอยแผลเป็นจากสิว เจ็บหรือไม่ ?

รักษารอยแผลเป็นจากสิวไม่เจ็บเสมอไป การรักษารอยแผลเป็นจากสิวอาจเจ็บหรือไม่เจ็บ ขึ้นอยู่กับวิธีรักษาและความรุนแรงของรอยแผลเป็น ยาชาช่วยได้ครับ

Q : รักษารอยแผลเป็นจากสิว กี่วันหาย

ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของรอยแผลเป็น โดยทั่วไปแล้วรอยแผลเป็นจากสิวจะหายเองภายใน 4-6 เดือน แต่หากรอยแผลเป็นรุนแรงอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีจึงจะเห็นผลชัดเจน การรักษารอยแผลเป็นจากสิวด้วยวิธีทางการแพทย์ เช่น การใช้เลเซอร์ การใช้ยาทา หรือการทำศัลยกรรม อาจเห็นผลเร็วกว่าการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ แต่อาจต้องใช้เวลาหลายครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจน

Q : อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงหากมีรอยแผลเป็นจากสิว

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงหากมีรอยแผลเป็นจากสิว ได้แก่ อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารที่มีคาเฟอีนสูง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

รักษาหลุมสิว

สรุปเรื่องรอยแผลเป็นจากสิว

รอยแผลเป็นจากสิวเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคน เพราะอาจทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน ขาดความมั่นใจ เอ็มวีต้าคลินิก ผู้นำด้านการดูแลผิวพรรณและเลเซอร์ เข้าใจถึงความกังวลใจนี้เป็นอย่างดี จึงได้คิดค้นโปรแกรมรักษารอยแผลเป็นจากสิวด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง และปลอดภัย ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ไร้รอยแผลเป็น

เอ็มวีต้าคลินิกยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวพรรณโดยเฉพาะ คอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ก่อนการรักษา ในระหว่างการรักษา และหลังการรักษา เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สามารถติดต่อนัดคิวพบหมอ หรือสอบถามโปรโมชั่น ได้ที่…

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

เอกสารอ้างอิง

วันเผยแพร่

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*: