ผิวสวยเนียนใสนับเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเรา หากเรามีผิวพรรณเรียบเนียน กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ต่อให้ไม่แต่งหน้าก็ยังดูดีได้ตลอดเวลาแน่นอน ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาพร้อมผิวพรรณดีๆ หลายคนพบว่าผิวมีปัญหาบ่อยๆ ทั้งสิวบ้าง รอยสิวบ้าง ไหนจะริ้วรอยที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ใบหน้าหมองไม่สดใส โชคดีที่นวัตกรรมสมัยใหม่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้เราได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ฉายแสง LED ลงบนผิวเท่านั้นเอง
การฉายแสง LED Light สีต่างๆ
การฉายแสงลงบนผิวหน้า หรือ การฉายแสง LED คือนวัตกรรมที่ช่วยจัดการปัญหาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผิว บำรุงผิวพรรณให้สวย กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ ซึ่งการฉายแสงแต่ละสีนั้นจะให้ผลรักษาที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจึงควรเลือกให้เหมาะกับผิวของเราเอง
-
แสงสีน้ำเงิน (Blue Light)
การฉายแสงสีน้ำเงินมีประโยชน์สำคัญในการรักษาสิว ลดปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน ฉายแสงรักษาสิว สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ตามรูขุมขนได้ดีมาก ช่วยจัดการฆ่าเชื้อสิว ป้องกันการติดเชื้อ และลดความมันบนใบหน้า จึงช่วยลดโอกาสเกิดสิว ยับยั้งสิวเกิดใหม่ แสงสีน้ำเงินที่ใช้ในการรักษามีความยาวคลื่น 415 นาโนเมตร และความยาวคลื่น 470 นาโนเมตร
-
แสงสีเหลือง (Yellow Light)
การฉายแสงสีเหลืองจะช่วยลดเลือนความเข้มของเม็ดสีผิวให้จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยลดปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้า ลดเลือนรอยแดงสิวได้เป็นอย่างดี คืนความกระจ่างใสให้กับผิว แก้ปัญหาเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง กระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลือง และช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น แสงสีเหลืองที่ใช้ในการรักษามีความยาวคลื่น 590 นาโนเมตร
-
แสงสีแดง (Red Light)
การฉายแสงสีแดงจะช่วยให้ผิวของเราสวย เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอยให้จางลง กระตุ้นผิวให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ผิวของเราจึงกลับมาสภาพดีขึ้น แสงสีแดงที่ใช้ในการรักษามีความยาวคลื่น 633 นาโนเมตร และความยาวคลื่น 640 นาโนเมตร
-
แสงสีเขียว (Green Light)
การฉายแสงสีเขียวจะช่วยลดการสร้างเม็ดสี ทำให้รอยดำบนผิวจางลง เหมาะกับการรักษาปัญหารอยดำ สามารถคืนความกระจ่างใสให้ผิว ลดปัญหาอาการแพ้ ผิวแพ้ง่าย แสงสีเขียวที่ใช้ในการรักษามีความยาวคลื่น 525 นาโนเมตร
การรักษาด้วยแสง LED แต่ละครั้งใช้เวลาแค่ไหน
นวัตกรรมดูแลและฟื้นฟูผิวด้วยการฉายแสง LED สามารถช่วยฟื้นบำรุงของเราได้ในเวลาไม่นาน การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 20 – 30 นาที ส่วนใหญ่จะเห็นผลการรักษาที่ชัดเจนขึ้นเมื่อทำติดต่อกันเป็นประจำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ความถี่และจำนวนครั้งในการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิว สำหรับการรักษาสิว สามารถเลเซอร์รอยสิวควบคู่กับการฉายแสเงไปได้
หากต้องการเห็นผลลัพธ์การรักษาโดยเร็วควรหมั่นเข้ารับการฉายแสง LED อย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง และรับการรักษาตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป โดยเข้ารับการฉายแสง LED ทุกสัปดาห์เป็นระยะเวลาประมาณ 4 – 8 สัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยให้เห็นผลการรักษาได้อย่างรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ผลลัพธ์การรักษาของแต่ละคนก็ขึ้นกับสภาพผิวด้วย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อน เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและตรงตามความต้องการ