ไขข้อสงสัย สิวหัวหนองอักเสบ

สิวหนองเกิดจากอะไร มารู้จักสาเหตุและวิธีรักษาที่ถูกต้องกัน

สิวหัวหนองปัญหาสิวที่เกิดซ้ำ ๆ จะบีบก็ไม่กล้า ก็ใช้เครื่องสำอางปิดก็ไม่มิด เพราะสิวหนองชนิดนี้มีลักษณะเด่นคือเป็นสิวหัวเหลือง คอยสร้างความรำคาญใจให้แก่ใครหลาย ๆ คน หากใช้วิธีรักษาแบบไม่ถูกวิธีก็อาจกลายเป็นสิวอักเสบลุกลามไปอีก

ในบทความนี้หมอเลยอยากจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับ “สิวหัวหนอง” ตั้งแต่ทำความรู้จักกับสิวอักเสบมีหนองว่าคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร รวมไปถึงวิธีรักษา และตอบคำถามยอดนิยมเกี่ยวกับสิวเป็นหนองครับ

สิวหัวหนอง คืออะไร มีกี่ประเภท

สิวหัวหนอง (Pustules) เป็นสิวอักเสบที่มีลักษณะเฉพาะ คือเป็นตุ่มแดงที่มีหัวสิวสีขาวหรือเหลืองอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการอุดตันในรูขุมขนจากแบคทีเรีย น้ำมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิวอุดตันชนิดนี้สามารถพบได้ในทุกบริเวณของผิวหนัง โดยอาจเกิดขึ้นเพียง 1-2 เม็ด กระจุกเป็นกลุ่ม หรือกระจายทั่วผิวหนัง แม้จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่อาจมีอาการเจ็บเมื่อสัมผัสโดน พร้อมอาการอักเสบ คัน และบวมแดงสิวอักเสบมีหนองมีหลายประเภท ดังนี้

สิวอักเสบ มีกี่ประเภท

สิวหัวหนอง เกิดจากอะไรได้บ้าง

สิวหัวหนองเกิดจากอะไร

สิวหนองเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ตั้งแต่การอุดตันในรูขุมขน ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป การดูแลตนเอง การใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิดที่ระคายเคืองผิว รวมถึงสิวบางประเภท เช่น สิวอุดตัน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวมีหนอง มีดังนี้

การอุดตันของรูขุมขน

ต้นเหตุของสิวอักเสบมีหนองส่วนมากมักมาจากการอุดตันในรูขุมขน ไม่ว่าจะเป็นจากแบคทีเรีย น้ำมัน เหงื่อ และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้สิ่งเหล่านี้เข้าไปสะสมอยู่ในรูขุมขนจนทำให้เกิดการอุดตัน และเมื่อสิวอุดตันเกิดการอักเสบขึ้น ก็จะกลายเป็นสิวหัวหนอง

ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป

สิวหนองที่เกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป มาจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนภายในร่างกาย เช่น ภาวะฮอร์โมนเพศชายหรือแอนโดรเจน (Androgen) สูงมากเกินไป หรือในกรณีผู้หญิงที่มีภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลก็จะทำให้เกิดสิวอุดตันง่ายขึ้น และมากขึ้น จนกลายเป็นสิวหัวหนองได้

สภาพอากาศ

ในชีวิตประจำวันของเราเจอมลภาวะต่าง ๆ ทั้งแสงแดดและฝุ่นควัน ซึ่งสามารถส่งผลกระทบทำให้เกิดสิวหัวหนองได้ รวมถึงมลพิษก็ยิ่งกระตุ้นอาการอักเสบให้รุนแรงขึ้น ดังนั้นจึงควรดูแลทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกายอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดสิวอักเสบหัวหนอง และสิวประเภทอื่น ๆ ตามมา

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน

การรับประทานอาหารและการพักผ่อน ล้วนแต่เป็นปัจจัยทำให้เกิดสิวได้ ซึ่งผู้ที่รับประทานอาหารจำพวกของหวาน แป้ง อาจทำให้เกิดสิวหนองได้ง่าย รวมถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อาจก่อให้เกิดสิวเป็นหนองได้เช่นกัน

การใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิด

ส่วนผสมในเครื่องสำอางหรือยาบางชนิดอาจทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนจนทำให้เกิดสิวหัวหนองได้ เช่น ซิลิโคน น้ำหอม แอลกอฮอล์ ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ เป็นต้น

การบีบสิวไม่ถูกวิธี

การบีบสิวอาจดูเหมือนวิธีการเร่งให้สิวหายเร็วขึ้น แต่จริง ๆ แล้วมันสามารถทำให้หนองในสิวระเบิดและกระจายเชื้อแบคทีเรียไปยังผิวรอบข้าง ส่งผลให้เกิดการอักเสบและเพิ่มโอกาสเป็นสิวหัวหนองได้ นอกจากนี้การบีบสิวยังอาจทำให้เกิดแผลเป็นที่ยากจะหายและทำให้สิวกลับมาใหม่ได้ง่าย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการบีบสิวและใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสมจะดีกว่า

สิวอักเสบหัวหนอง ต้องบีบไหม หายเองได้ไหม

จากคำถามที่ว่า “สิวหัวหนองควรบีบไหม?” หรือ “สิวหัวหนอง หายเองได้ไหม?” ก็ต้องขอตอบว่า จริง ๆ แล้วการบีบ แกะ แคะ เกา สิวประเภทต่าง ๆ อาจกลายเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวหัวหนองได้ เพราะสิ่งสกปรกหรือเชื้อแบคทีเรียจากมือจะเข้าไปในชั้นผิวหนังได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อจนกลายเป็นสิวอักเสบมีหนอง

สิวหัวหนองมักพบบริเวณไหนบ้าง

สิวหนอง พบบริเวณใด

บริเวณที่มักพบสิวอักเสบหัวหนองจะเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่มากจนทำให้เกิดการอุดตัน ผสมกับการสะสมของสิ่งสกปรก เชื้อแบคทีเรีย โดยสิวหนองมักพบในบริเวณดังต่อไปนี้

  • สิวหัวหนองบริเวณใบหน้า โดยส่วนมากมักพบบริเวณหน้าผาก จมูก แก้ม และที่คาง เพราะเป็นจุดที่มีต่อมไขมันอยู่มาก และเป็นที่ที่สัมผัสกับสิ่งสกปรกได้ง่าย
  • สิวหัวหนองบริเวณหู สามารถเกิดได้ทั้งด้านในและด้านนอกหู โดยมีสาเหตุหลักมาจากการละเลยการทำความสะอาด การใช้หูฟังหรือใช้อุปกรณ์ที่สัมผัสหูเป็นประจำจนมีสิ่งสกปรกสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งก่อให้เกิดการอุดตัน
  • สิวหัวหนองบริเวณอก มักเกิดจากความอับชื้น หรือการหมักหมมจากการสวมเสื้อผ้าผสมกับเหงื่อไคล จนทำให้เกิดเป็นสิวหัวหนอง
  • สิวหัวหนองบริเวณแขน เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนจากเหงื่อไคล สิ่งสกปรก น้ำมันในผิว และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิว แม้แต่การสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไปก็สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ เนื่องจากทำให้ผิวไม่ได้หายใจและเกิดการอับชื้น
  • สิวหัวหนองบริเวณหลัง สิวที่หลังมักมาจากการอุดตันจากไขมัน เหงื่อ เซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่บนเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน นอกจากนี้ยังเกิดจากผลิตภัณฑ์อาบน้ำสระผมทำให้เกิดสิวที่หลังได้อีกด้วย
  • สิวหัวหนองบริเวณก้น มักเกิดจากความอับชื้นสูง โดยเฉพาะเมื่อต้องนั่งเป็นเวลานานทำให้เหงื่อเสียดสีกับเสื้อผ้าจนเกิดการระคายเคือง การสวมใส่กางเกงที่คับหรือรัดแน่นเกินไปร่วมกับการขาดการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงหลังเหงื่อออก ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวหัวหนองในบริเวณนี้ได้

6 วิธีรักษาสิวหนองให้หายขาด อย่างปลอดภัย

แม้สิวหัวหนองจะดูน่ากลัวเพราะการอักเสบทำให้เห็นหัวหนองที่ชัดเจน แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถรักษาสิวเป็นหนองให้หายได้ด้วยวิธีที่ปลอดภัยต่อไปนี้

1. รักษาสิวหัวหนอง ด้วยยาทา

ยาทาเฉพาะที่สำหรับรักษาสิวหัวหนอง มักมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยส่วนผสมหลักที่นิยมใช้กัน ได้แก่

  • เรตินอยด์ (Retinoid) มีส่วนช่วยยับยั้งการอักเสบและลดการอุดตันในรูขุมขน ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดรอยดำ รอยแดง จากสิว และลดความมันบนใบหน้า
  • กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยลดการอักเสบและกำจัดไขมันอุดตันได้
  • Benzoyl Peroxide ช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียและช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่ควรระวังการใช้ในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้

2. รักษาสิวหัวหนอง ด้วยยารับประทาน

สำหรับสิวหัวหนองรุนแรง แพทย์อาจให้ยารับประทานในกลุ่มยาปฏิชีวนะ เช่น Amoxicillin เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

3. รักษาสิวหัวหนอง ด้วยแผ่นดูดสิว

แผ่นดูดสิวเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกและใช้งานง่ายในการรักษาสิวหัวหนอง นอกจากจะช่วยดูดซับหนองทำให้สิวแห้งเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบ พร้อมทั้งป้องกันการสัมผัสสิวโดยตรง

4. รักษาสิวหัวหนอง ด้วยการเลเซอร์

การรักษาสิวด้วยเลเซอร์เป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากให้ผลการรักษาที่ชัดเจน ใช้เวลาน้อย และมีผลข้างเคียงต่ำเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยา นอกจากรักษาสิวหัวหนองแล้ว ยังช่วยเลเซอร์รอยสิวเพื่อลดรอยดำรอยแดงและรอยแผลเป็นจากสิวได้อีกด้วย ซึ่งเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาก็มีหลายประเภท เช่น Dual Yellow Laser, Long-pulse Nd:YAG laser, Vbeam Laser, Pico Laser และ CO2 Laser

5. รักษาสิวหัวหนอง ด้วยโฟโตไดนามิก

การรักษาสิวหัวหนองด้วยโฟโตไดนามิก (Photodynamic Therapy หรือ PDT) เป็นการผสมผสานระหว่างแสงเลเซอร์และสารเคมีไวแสง ที่สามารถทำลายเซลล์ผิดปกติและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวระดับปานกลางถึงรุนแรง หรือรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล

6. รักษาสิวหัวหนอง โดยการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วิธีที่จะช่วยให้การรักษาสิวหัวหนองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด คือการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกรักษาสิวใกล้ฉันเพื่อปรึกษาปัญหาสิว เพราะแพทย์จะช่วยวิเคราะห์หาสาเหตุถึงต้นตอการเกิดสิวหัวหนอง และช่วยวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับตัวบุคคลได้ซึ่งที่ M Vita Clinic เรามีแพทย์ประจำคลินิก นำโดย นพ. มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม และการรักษาผิวพรรณ มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 14 ปี โดดเด่นในเรื่องรักษาสิวและรอยสิว เลเซอร์ผิวกระจ่างใส รวมถึงศัลยกรรม หัตถการปรับรูปหน้าต่าง ๆ พร้อมทั้งทีมงานที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี ผู้ที่สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาผ่านทาง Line: @mvitaclinic หรือโทร. 026408097 ได้เลยนะครับ

รักษาหลุมสิว ที่ เอ็มวีต้า คลินิก ติดต่อ
รักษาหลุมสิว ที่ เอ็มวีต้า คลินิก ติดต่อ

แนวทางป้องกันสิวหัวหนอง

หากใครที่ไม่อยากกลับมาเป็นสิวหัวหนองซ้ำอีกหลาย ๆ รอบ หมอแนะนำให้ปฏิบัติตัวและดูแลพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเองให้ดี เพื่อลดการเกิดสิวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยหมอมีแนวทางป้องกันสิวหนอง ดังนี้

  • ทำความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ รักษาความสะอาดของร่างกายให้ดี โดยเฉพาะช่วงหลังเหงื่อออก เพื่อชะล้างแบคทีเรีย
  • ห้ามแกะหรือบีบสิว การบีบสิวด้วยตัวเองอาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นและเกิดแผลเป็นได้ จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาอย่างถูกวิธี
  • ใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน เลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและอุดตัน
  • รักษาความสะอาดสิ่งของ เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าเช็ดตัวทุก 1-2 สัปดาห์
  • ระวังเรื่องอาหาร หลีกเลี่ยงของหวาน ของมัน ของทอด และแป้ง เพราะอาจกระตุ้นให้ร่างกายผลิตไขมันมากขึ้นจนเกิดสิวได้

รีวิว รักษาสิวหนองอักเสบ และเลเซอร์รอยสิว

รีวิว รักษาสิวและรอย คุณอาย 1
รีวิว รักษาสิวและรอย คุณมัช 2
รีวิว รักษาสิวและรอย คุณนัท 1

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับสิวหัวหนอง ( Q & A )

Q : บีบสิวอักเสบหัวหนองเลยได้หรือไม่ ?

บีบสิวหัวหนองได้ไหม? คำถามยอดฮิตที่ใครหลายคนถามหมอเข้ามากันนะครับ จริง ๆ แล้วสิวชนิดนี้ไม่ควรบีบด้วยตัวเองครับ เพราะการบีบสิวด้วยตนเองสามารถไปกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบเพิ่มมากขึ้นได้ครับ หมอแนะนำให้รักษาตามวิธีที่แนะนำไปข้างต้น เพื่อรักษาสิวหัวหนองให้หายโดยไม่เกิดการอักเสบ หรือทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ครับ

Q : สิวอักเสบมีหนองกี่วันหาย ? 

โดยทั่วไปแล้วสิวหัวหนองจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ จึงจะค่อย ๆ ยุบตัวลงไป แต่อาจทิ้งรอยสิว หรือรอยแผลเป็นทิ้งไว้ หากต้องการรักษาสิวประเภทนี้อย่างรวดเร็วหมอแนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์ก่อนครับ เพื่อหาวิธีรักษาที่ถูกต้อง และเหมาะสมต่อไป

Q : สิวเป็นหนอง หายเองได้ไหม ?

สิวหัวหนองไม่สามารถปล่อยให้หายได้เองตามธรรมชาติครับ ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อาจมีเชื้อเหลืออยู่และอาจมีโอกาสเกิดสิวซ้ำครับ ดังนั้นหากพบว่าตนเองเป็นสิวชนิดนีให้ลองรักษาด้วยวิธีที่หมอแนะนำเบื้องต้น หรือเข้าปรึกษาแพทย์โดยตรงเพื่อรักษาอย่างถูกวิธี

สรุปเรื่อง สิวหัวหนอง

สิวหัวหนองเป็นหนึ่งในประเภทของสิวอักเสบที่มักเกิดจากการอุดตันในรูขุมขน ผสมกับแบคทีเรีย เชื้อโรค น้ำมัน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อเป็นสิวหนองไม่ควรบีบหรือแกะสิวด้วยตนเองเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลให้สิวเกิดการอักเสบมากกว่าเดิมได้ 

วิธีรักษาสิวอักเสบหัวหนองที่ดีที่สุดคือควรดูแลรักษาความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้สิวชนิดนี้กลับมาเป็นซ้ำอีกครับ

สำหรับผู้ที่ต้องการปรึกษาปัญหาสิวมีหนอง หรือปัญหาสิวประเภทอื่น ๆ สามารถทักมาสอบถามกับ M Vita Clinic ได้เลยครับ เรายินดีให้คำแนะนำ

คลินิกรักษาสิวใกล้ฉัน M Vita Clinic นำโดย นพ. มนตรี อุดมประเสริฐกุล ผู้มีประสบการณ์ด้านความงามมากกว่า 12 ปี และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่ต้องการรับคำปรึกษาจากหมอ หรือนัดเข้ารักษาสามารถติดต่อตามช่องทางต่อไปนี้ได้เลยครับ

ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

เอกสารอ้างอิง

Fletcher J. (May 31, 2019). What to know about pustules. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/325342

Kahn A. (February 3, 2023). What Causes Pustules?. Healthline. https://www.healthline.com/health/pustules

Smith M. (August 12, 2022). Pustules. WebMD. https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/guide/pustules-facts

วันเผยแพร่

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*:

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษา นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า