สิวไม่มีหัว นูน ๆ สิวอักเสบไม่มีหัว เกิดจากอะไร? รักษาอย่างไร?

สิวอุดตันไม่มีหัว เมื่อไปสัมผัสก็จะรู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ แต่ไม่มีหัวให้บีบ! เชื่อว่าหลายคนกำลังเผชิญกับปัญหาสิวไม่มีหัว หรือที่เรียกกันว่า “สิวไต” “สิวหัวช้างไม่มีหัว” ซึ่งเป็นตุ่มนูน ๆ แดง ๆ อยู่ใต้ผิวหนัง ยิ่งสัมผัสยิ่งเจ็บ และมักจะทิ้งรอยดำหรือหลุมสิวไว้นานกว่าสิวประเภทอื่น

ผมหมอเอ็ม นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกนะครับ ผมเข้าใจถึงความกังวลนี้ดีครับ บทความนี้หมอจะมาไขทุกข้อสงสัยว่าสิวไม่มีหัวเกิดจากอะไร และที่สำคัญที่สุดคือ สิวไม่มีหัว นูน ๆ รักษายังไง ให้ยุบไว เห็นผลจริง และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นกวนใจครับ

ทำความรู้จัก สิวไม่มีหัว คืออะไรกันแน่?

สิวที่ไม่มีหัว (Papular Acne หรือ Nodular Acne) คือสิวอักเสบชนิดหนึ่งที่การอุดตันของไขมัน (Sebum) และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เกิดขึ้นในชั้นผิวที่ลึกกว่าปกติ สิวประเภทนี้ จะไม่เห็นส่วนหัวของสิวไม่เห็นได้จากภายนอก เปรียบเสมือนภูเขาไฟที่กำลังปะทุอยู่ใต้ผิวหนังของเราครับ เนื่องจากการอุดตันแห้งบริเวณด้านบนของหลุมขน ผิวหนังและไขมันส่วนบนที่อุดตันและไม่สามารถออกมาได้ ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณใกล้เคียงและทำให้เกิดอาการอักเสบและบวมขึ้นได้ ส่วนใหญ่สิวประเภทนี้จะพบบนใบหน้า แต่อาจพบได้บนพื้นผิวอื่นของร่างกายด้วย เช่น บริเวณแขน หรือหลัง

ลักษณะเด่นของสิวไม่มีหัว

• สิวไม่มีหัวจะเป็นตุ่มนูน แดง หรือมีสีเดียวกับผิว
•  ไม่มีหัวหนองหรือจุดดำตรงกลางให้เห็น
•  เมื่อสัมผัสจะรู้สึกแข็งเป็นไต และมักมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย
•  สามารถพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ หรือ “สิวหัวช้าง” ได้

ต้นตอของสิวไม่มีหัวนูน ๆ เกิดจากอะไร

สิวประเภทไม่มีหัว (closed comedones) นั้น มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการสะสมของซีบัม (sebum) ซึ่งเป็นน้ำมันใต้ผิวที่อยู่ในรูขุมขนหรือเป็นต่อมน้ำมันอุดตันในชั้นลึกของผิว บางเคสมาในรูปแบบของสิวซีตส์ มีถุงซีสต์ใต้ผิว สาเหตุของการเป็นสิวไม่มีหัวนูน ๆ นั้นซับซ้อนและเกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกันครับ

• การผลิตน้ำมัน (Sebum) มากเกินไป : ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ในช่วงวัยรุ่น หรือภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล สามารถกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานหนักเกินปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
• รูขุมขนอุดตัน : การสะสมของเซลล์ผิวเก่าที่ผลัดตัวไม่สมบูรณ์ ร่วมกับไขมันและสิ่งสกปรกบนผิวหนัง ทำให้เกิดการอุดตันลึกถึงชั้นในของรูขุมขน
• การติดเชื้อแบคทีเรีย C.acnes : เมื่อเกิดการอุดตัน เชื้อแบคทีเรีย C.acnes ที่อยู่บนผิวหนังจะเจริญเติบโตได้ดี ทำให้ร่างกายสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน เกิดเป็นการอักเสบ บวม แดง และเจ็บปวด
• พันธุกรรม : เมื่อพบว่า มีประวัติของสมาชิกภายในครอบครัวเคยเป็นสิวรุนแรงสิว ก็มีโอกาสที่บุคคลนั้นจะเป็นสิวด้วยเช่นกัน
• การใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสม : เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมก่อให้เกิดการอุดตัน (Comedogenic) หรือมีความหนาแน่นสูงเกินไป อาจทำให้ผิวหนังแห้ง ก่อให้เกิดการอุดตัน ทำให้ต่อมน้ำมันทำงานมากขึ้นและซีบัมสะสมได้ง่ายขึ้น
• การเสียดสีและระคายเคือง : การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน รวมถึงมีการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ หรือการสวมหมวกที่อับชื้นก็เสี่ยงต่อการเกิดสิวได้ง่าย
• ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) : วัยรุ่นหรือวัยเจริญพันธ์ุมักเจอปัญหาสิวได้เพราะฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นการทำงานของต่อมใต้ผิวหนัง
• การใช้ชีวิตประจำวัน : การมีความเครียดสะสม ร่างกายจะกระตุ้นฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของต่อมไขมัน รวมถึงการที่ต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศ และพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ไม่ดี

สิวไม่มีหัว มีกี่ชนิด

สิวประเภทไม่มีหัว (closed comedones) มี 1 ชนิด คือ สิวปิด

สิวปิด (Close Comedone / whiteheads) มีลักษณะเป็นจุดขาวนูนบนผิวหนัง ภายในมีซีบัมสะสมอยู่ แต่ไม่มีหัวและไม่มีช่องเปิดเชื่อมต่อกับผิวหนัง จึงดูเป็นสิวที่อักเสบเล็กน้อย และมักเป็นสิวที่ไม่สามารถขับสิ่งอุดตันออกมาจากช่องสิวได้ง่าย ๆ เมื่อมีการติดเชื้อและอักเสบมากขึ้น จะเกิดเป็นสิวอุดตันเหนือผิวหนัง ซึ่งนำไปสู่การเกิดสิวชนิดอื่น ๆ ตามมา ได้แก่

สิวอุดตันเหนือผิวหนัง

สิวอุดตันเหนือผิวหนัง ซึ่งมักจะมีการอักเสบและหนองออกมากขึ้นและอาจทำให้เกิดสิวอักเสบประเภทอื่น ๆ ตามมาได้ด้วย ได้แก่ สิวอักเสบไม่มีหัว สิวหัวช้าง

สิวอักเสบไม่มีหัว

สิวอักเสบไม่มีหัว เป็นสิวที่มีการอักเสบเกิดขึ้นภายในชั้นผิวไม่ใช่จากภายนอก จึงไม่มีหัวสิว และไม่สามารถบีบสิวได้ จะมีความรู้สึกเจ็บบวมที่สิว หากเกิดการอักเสบที่รุนแรงขึ้นอาจเริ่มมีหัวสิวดันออกมา บางเคสอักเสบหนัก ๆ อาจก่อให้เกิดสิวหัวช้างได้ครับ

สิวหัวช้างไม่มีหัว

สิวหัวช้างไม่มีหัว ลักษณะมีความแข็งเหมือน สิวเป็นไต นูนเต่ง อยู่ใต้ชั้นผิว ไม่เห็นหัว เมื่อสัมผัสโดนสิว จะให้ความรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก บางเคสอาจพบว่าสิวมีการรวมตัวอยู่ใกล้ ๆ กันเป็นจำนวนมาก ทำให้แผลหายช้า และมีโอกาสที่จะเกิดแผลเป็น รอยดำ และหลุมสิว ได้สูงมากอีกด้วย

บริเวณที่มักเกิดสิวไม่มีหัว

สิวไม่มีหัวเป็นไตสามารถเกิดขึ้นได้ทุกจุดที่มีรูขุมขน ได้แก่ หน้าผาก จมูก แก้ม คาง หรือส่วนอื่นๆที่ร่างกาย เช่น ศีรษะ หลัง แขนขา ก้น เป็นต้น ซึ่งในบทความนี้จะพูดถึงสิวไม่มีหัวที่ใบหน้า ได้แก่

สิวไม่มีที่หัวหน้าผาก

สิวที่ไม่มีหัวหน้าผาก เป็นลักษณะของสิวอุดตันไม่เห็นหัวสิว และไม่มีรูขุมขนเปิด หรือเป็นลักษณะของสิวซีสต์ สิวอุดตันมีลักษณะเป็นจุดขาวหรือเหลืองซีด ไม่ค่อยมีการอักเสบ แต่หากอักเสบสามารถรักษาสิวขึ้นหน้าผากง่ายกว่าสิวอุดตันไม่มีหัวในบริเวณอื่น

สิวไม่มีหัวที่จมูก

สิวที่ไม่มีหัวบนจมูกอาจมีลักษณะที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้วจะเป็นสิวที่เป็นตุ่มนูน และอาจมีลักษณะแดงเมื่ออักเสบ มีขนาดเล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงอีกเนื่องจากสาเหตุการเกิดสิวนั้น ๆ สาเหตุอาจเกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวหนังในรูขุมขนของจมูก การอักเสบของเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขนหรือการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับประเภทของผิวหนังของบุคคลนั้น ๆ

สิวไม่มีหัวที่แก้ม

สิวที่แก้มมีลักษณะแตกต่างกันตามสาเหตุการเกิด จึงควรตรวจสอบสาเหตุก่อนเริ่มรักษา อาจปรากฏเป็นตุ่มแดงหรือตุ่มขาวนูนที่อุดตันใต้ผิวโดยมองไม่เห็นหัว สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวหนังในช่องขนาดเล็กบนผิว ซึ่งอาจมาจากการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับประเภทผิว รวมถึงการใช้มือสกปรกสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ

สิวไม่มีหัวที่คาง

สิวอุดตันไม่มีหัวที่คาง อาจพบได้มากกว่าบริเวณอื่น มีลักษณะเป็นตุ่มแดง ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ที่ปรากฏบนผิวหนังใกล้กับช่องปาก หรือด้านล่างของคาง เกิดจากความผิดปกติของต่อมไขมัน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ส่งผลให้เกิดการอักเสบของสิวที่ไม่มีหัวนี้ขึ้นมาเป็นประจำ
สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิวขึ้นคาง คลิกได้เลยครับ

วิธีรักษาสิวไม่มีหัว

สำหรับสิวไม่รุนแรง สามารถใช้ยาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิว Retinoids ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการผลิตซีบัม และ Antibiotics ช่วยปรับสมดุลผิวให้แข็งแรง แต่ควรเริ่มใช้ความเข้มข้นต่ำ ๆ ก่อนเพื่อป้องกันการระคายเคือง อย่างไรก็ตาม กรณีสิวไม่มีหัวที่บวมแดงรุนแรง การทายาอาจไม่ให้ผลชัดเจนนัก เนื่องจากบริเวณสิวไม่มีหัวเป็นไตไม่มีรูให้ยาซึมผ่านเข้าไปถึงสิวใต้ผิว ยาส่วนใหญ่ที่แนะนำจึงเป็นกลุ่มยาทานและยาฉีด

ยาทารักษาสิวไม่มีหัว

กรณีเป็นสิวไม่รุนแรง สามารถซื้อยาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide Retinoids และ Antibiotics มารักษาก่อนได้ ซึ่ง Benzoyl Peroxide จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง Retinoids จะช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการผลิตซีบัม ส่วน Antibiotics จะช่วยปรับสมดุลผิวให้แข็งแรงขึ้น แต่ควรเริ่มใช้ในความเข้มข้นต่ำ ๆ ก่อนเพื่อป้องกันการระคายเคือง

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกิดสิวแบบไม่มีหัวบวมแดง อาการรุนแรง การทายาอาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากบริเวณสิวไม่มีหัวเป็นไตไม่มีรูผ่านเข้าไปถึงสิวใต้ผิวหนัง ยาส่วนใหญ่ที่แนะนำให้ใช้จะเป็นในกลุ่มของยาทานและยาฉีด

ยารับประทาน

ยารับประทาน เป็นวิธีรักษาสิวไม่มีหัวที่แนะนำครับ ซึ่งจะเป็นยาในกลุ่ม ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) จะช่วยลดการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดรอยแดงจากสิว และลดการอักเสบที่เกิดขึ้น เช่น Doxycycline, Clindamycin แต่การใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังมียาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (Isotretinoin) ใช้สำหรับกรณีสิวรุนแรงและดื้อต่อการรักษาอื่น ๆ ยานี้มีประสิทธิภาพสูงในการลดการทำงานของต่อมไขมัน แต่มีผลข้างเคียงที่ต้องติดตามโดยแพทย์เท่านั้น

ยาฉีด

ยาฉีดสิว (Cortisone Injections) คือการใช้ยาฉีดเข้าไปโดยตรง โดยแพทย์จะใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ฉีดเข้าไปที่ตุ่มสิวโดยตรง ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบและอาการบวมได้อย่างรวดเร็ว โดยสิวมักจะยุบลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 24-48 ชั่วโมง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดการอักเสบของสิว และอาการบวมแดงในกรณีสิวไม่มีหัวอักเสบขึ้นมา เป็นวิธีที่เห็นผลไวที่สุด! นอกจากนี้ การฉีดยาจะลดโอกาสในการเกิดรอยดำหลังการอักเสบ และลดการเกิดแผลเป็นในอนาคต

ทั้งนี้ การใช้ยาในการรักษานี้ ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ทั้งหมด

2. ไม่สัมผัสบริเวณสิวไม่มีหัว ไม่บีบ ไม่แกะ

เนื่องจากสิวไม่มีหัว เป็นตุ่มนูน ๆ และเป็นสิวที่อยู่ค่อนข้างลึก ทำให้เมื่อพยายามบีบสิว แกะสิว หรือสัมผัส จะเกิดการระคายเคืองได้มากกว่า การพยายามบีบจะยิ่งทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้การอักเสบลุกลาม กลายเป็นแผลเป็นและหลุมสิวได้ง่ายมาก และเป็นไปได้ยากมากที่จะบีบให้หัวหลุดออกมา ผลตามมาภายหลังทำให้อักเสบบวมแดง เป็นรอยดำ อีกด้วย

3. เลี่ยงการแต่งหน้า ใช้เครื่องสำอาง

ในกรณีที่สาเหตุของการอุดตันอาจเกิดจากการแต่งหน้าหนัก หากไม่จำเป็นให้เลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง การยิ่งแต่งหน้าจะทำให้การอุดตันไม่หาย ดังนั้น ควรลดการแต่งหน้า แต่งให้บางลง แต่ในกรณีที่ต้องแต่งหน้า ควรเลือกใช้เครื่องสำอางประเภท Non-Comedogenic เพื่อลดการอุดตันเพิ่มเติม

4.ทำความสะอาดหน้าอย่างถูกวิธี

ทำความสะอาดหน้าอย่างถูกวิธี ให้สะอาดหมดจด รวมถึงการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้เหมาะกับสภาพผิว จะช่วยลดการอุดตันได้

5. ประคบร้อน – เย็น

หากสิวแบบไม่มีหัวมีอาการบวมแดงขึ้นมา วิธีการบรรเทาอาการปวด บวมแดง อักเสบ คือ การประคบอุ่น จะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นด้วย แต่ต้องมีความร้อนไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส เพราะอาจทำร้ายผิวได้นั่นเอง และให้ทำวันละ 3 ครั้งจะได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก

6. เลเซอร์สิวไม่มีหัว

รักษาสิวไม่มีหัวด้วยเลเซอร์ และการบำบัดด้วยแสง ให้ผลลัพธ์ที่ดี สิวยุบไว รอยสิวจางลง ลดโอกาสเกิดรอยดำ รอยแดง จากสิว แถมยังแทบไม่มีผลข้างเคียงเลย เนื่องจากเลเซอร์สามารถช่วยฆ่าเชื้อ C.acnes ลดการอักเสบ และกระตุ้นการซ่อมแซมผิว ลดรอยแดงรอยดำไปพร้อมกันได้ เช่น Pulsed Dye Laser (Vbeam), Dual Yellow Laser, หรือ Long-pulse Nd:YAG Laser

7. ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง

การปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาสิวไม่มีหัว เพื่อวินิจฉัยและรักษาสิวไม่มีหัวได้อย่างตรงจุด และถูกวิธี เช่น การใช้ทรีทเมนต์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยบำรุงผิวหน้าและป้องกันการเกิดสิว หรือการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดการอักเสบและเม็ดสิวบนผิวหน้า เลเซอร์รักษาสิวไม่มีหัว เป็นต้น

จบปัญหาสิวไม่มีหัวกวนใจที่ M Vita Clinic ด้วยโปรแกรม Medi-Aclear

M Vita Clinic หมอเอ็มและทีมงานมีความชำนาญในการรักษาสิวทุกประเภท โดยเฉพาะสิวไม่มีหัวที่รักษายาก ทางเอ็มวีต้าคลินิกได้ออกแบบโปรแกรม Medi-Aclear มาเพื่อจัดการปัญหาสิวอย่างครบวงจรและเหมาะกับแต่ละบุคคล

• เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
• อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
• เอ็มวีต้า คลินิก (คลิก) ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
• สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
• เดินทางสะดวกได้ง่าย ๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมาก ๆ ครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
• ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

ค้นหา