
สำหรับคนที่กำลังทนทุกข์กับสิวอักเสบที่บวมแดงและเจ็บ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากให้มันหายไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะยิ่งเมื่อมีงานสำคัญในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การฉีดสิวจึงเป็นทางเลือกที่หลายคนนึกถึง แต่วิธีนี้จะช่วยรักษาสิวได้จริงหรือ? และปลอดภัยแค่ไหน? หมอเอ็ม จาก M VITA Clinic จะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อมกันครับ
ฉีดสิว คืออะไร?

การฉีดสิว (Acne Injection) คือ การใช้สารลดการอักเสบฉีดลงไปที่ตุ่มสิวโดยตรง โดยส่วนใหญ่แพทย์จะใช้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) โดยเฉพาะไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone) ในปริมาณน้อยและความเข้มข้นต่ำ แพทย์จะใช้เข็มฉีดยาขนาดเล็กพิเศษฉีดลงไปที่ตัวสิวโดยตรง เพื่อให้ยาออกฤทธิ์กับจุดที่เป็นปัญหาได้อย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้สามารถบรรเทาอาการอักเสบและทำให้สิวยุบตัวได้เร็วกว่าการรอให้สิวหายเองตามธรรมชาติ
ฉีดสิวเหมาะกับสิวแบบไหน?


การฉีดสิวไม่ได้เหมาะกับสิวทุกประเภท โดยแพทย์จะพิจารณาฉีดเฉพาะสิวอักเสบที่บวมแดง เม็ดใหญ่ และมีอาการเจ็บเมื่อสัมผัส สิวหัวช้าง สิวหัวหนองที่มีขนาดใหญ่และอักเสบมาก สิวที่ไม่มีหัวแต่อักเสบลึก (Nodular acne) ที่มักใช้เวลานานกว่าจะหายเอง สิวที่อาจเกิดรอยแผลเป็นหรือเกิดหลุมสิวในภายหลัง รวมถึงสิวอุดตันทั่วไป สิวหัวดำ หัวขาว หรือสิวขนาดเล็กไม่เหมาะกับการฉีดยา เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ
ฉีดสิวช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้อย่างไร?
ยาสเตียรอยด์ที่ใช้ฉีดมีคุณสมบัติลดการอักเสบโดยตรง เมื่อฉีดลงไปที่สิว จะยับยั้งกระบวนการอักเสบในบริเวณนั้นทันที โดยจะไปลดการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันที่หลั่งสารก่อการอักเสบ ทำให้ความแดง บวม และอาการเจ็บลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสเกิดหลุมสิวในภายหลัง เพราะยิ่งสิวอักเสบนานเท่าไร ก็ยิ่งทำลายเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิวมากเท่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดรอยหลุมสิวถาวร
ฉีดสิวทำให้สิวยุบเร็วขึ้นจริงไหม?
คำตอบคือ ใช่ครับ การฉีดสิวช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้นจริง โดยส่วนใหญ่จะเห็นผลภายใน 24-72 ชั่วโมง (2-3 วัน) หลังฉีด เทียบกับวิธีทายาหรือปล่อยให้หายเอง ซึ่งอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีด โดยคุณอาจสังเกตเห็นว่าความแดงและอาการบวมเริ่มลดลงภายใน 12 ชั่วโมงแรก และสิวจะค่อยๆ ยุบตัวจนเกือบเป็นปกติภายใน 2-3 วัน วิธีนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีงานสำคัญเร่งด่วน เช่น จะไปงานแต่งงาน งานรับปริญญา หรือถ่ายรูป
ฉีดสิวอันตรายไหม? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

การฉีดสิวโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญในการประเมินขนาดและความลึกของการฉีดยา อย่างไรก็ตาม อาจมีผลข้างเคียงบางประการที่ควรรับทราบไว้ด้วยครับ นั่นก็คือ
- อาการเจ็บระหว่างการฉีด (แม้ว่าจะมีการทายาชาก่อนก็ตาม) เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการอักเสบอยู่แล้ว
- อาจมีเลือดออกเป็นรอยช้ำชั่วคราว หากมีเส้นเลือดใต้ผิวหนังบริเวณนั้น ซึ่งจะหายไปเองภายใน 5-7 วัน
- เกิดรอยด่างขาว (Hypopigmentation) บริเวณที่ฉีด เกิดจากการที่ยาสเตียรอยด์ไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง
- มีรอยบุ๋มเล็กๆ ชั่วคราว เกิดจากการที่ยาไปลดการสร้างคอลลาเจนชั่วคราว (แต่ส่วนใหญ่จะกลับมาเป็นปกติได้ภายใน 2-3 เดือน)
- โอกาสแพ้ยาสเตียรอยด์ (พบได้น้อยมาก) มีอาการคัน ผื่นแดง หรือบวมมากขึ้น
ฉีดสิวบ่อยๆ จะมีผลเสียอะไรหรือไม่?
การฉีดสิวบ่อยเกินไปโดยเฉพาะในบริเวณเดิมซ้ำๆ อาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น
- ผิวบางลงอย่างถาวร เนื่องจากยาสเตียรอยด์ไปลดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง
- มีโอกาสเกิดสิวสเตียรอยด์ (Steroid Acne) จากการตอบสนองของผิวต่อยา ทำให้เกิดสิวเล็กๆ จำนวนมากรอบบริเวณที่ฉีด
- เกิดรอยด่างขาวถาวร ทำให้ผิวบริเวณนั้นขาวกว่าผิวปกติโดยรอบ
- ผิวอาจไม่เรียบเนียนเหมือนเดิม เกิดเป็นรอยบุ๋มเล็กๆ
ดังนั้นควรพิจารณาฉีดสิวเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ และไม่ควรฉีดเกิน 3-4 ครั้งต่อปีในบริเวณเดียวกัน
ฉีดสิวทำให้เกิดรอยบุ๋มหรือไม่?
การฉีดสิวอาจทำให้เกิดรอยบุ๋มชั่วคราวได้ เนื่องจากยาสเตียรอยด์มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง แต่รอยบุ๋มนี้มักจะตื้นขึ้นและกลับมาเป็นปกติเมื่อเวลาผ่านไป 1-3 เดือน ซึ่งต่างจากหลุมสิวที่เกิดจากการปล่อยให้สิวอักเสบเป็นเวลานาน ซึ่งมักเป็นรอยถาวรและลึกกว่า
ในกรณีที่กังวลเรื่องหลุมสิว ควรปรึกษาคลินิกรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะก่อน เพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมในการฟื้นฟูผิว เช่น การทำเลเซอร์ ไมโครนีดลิ้ง หรือการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น
สรุปการฉีดสิวช่วยรักษาสิวได้จริงไหม?

การฉีดสิวเป็นวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดอาการอักเสบและทำให้สิวยุบเร็วขึ้น แต่เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ไม่ได้แก้ที่สาเหตุหรือป้องกันการเกิดสิวในอนาคต การรักษาที่ครบวงจร จึงควรรวมถึงการดูแลผิวที่เหมาะสม การปรับพฤติกรรม และการรักษาที่ตรงกับสาเหตุของการเกิดสิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรังหรือหลุมสิว M VITA Clinic เป็นหนึ่งในคลินิกรักษาสิวที่มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาแบบองค์รวม โดยมีทั้งการวิเคราะห์สภาพผิวและสาเหตุของการเกิดสิวอย่างละเอียด ไม่เพียงแค่การฉีดสิวเท่านั้น แต่เรายังมีโปรแกรมการรักษาสิวที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคคล ทั้งการรักษาสิวอักเสบ คำแนะนำในการป้องกันการเกิดสิวใหม่ และช่วยแก้ไขปัญหาหลุมสิวด้วยเทคโนโลยีทันสมัย การฉีดสิวจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาที่ M VITA Clinic ขอนำเสนอ เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาวครับ
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่