สิวฮอร์โมน เกิดจากอะไร

สิวฮอร์โมน เกิดจากอะไร? รู้ทันต้นตอและวิธีรักษาอย่างตรงจุด

สิวฮอร์โมน หรือสิวหนุ่มสาวที่เกิดจากฮอร์โมนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับวัยรุ่นที่มีฮอร์โมนผิดปกติเท่านั้น แต่บางท่านมีความเครียด หรือสาว ๆ ที่อยู่ในช่วงรอบประจำเดือน ช่วงหมดประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็สามารถเป็นสิวฮอร์โมนได้เช่นกัน ซึ่งหากรักษาอย่างถูกต้องและตรงจุด สิวที่เกิดจากฮอร์โมนก็สามารถหายได้เช่นกันบทความนี้หมอจะมาไขข้อสงสัยเรื่องสิวชนิดนี้นะครับ ว่าสิวฮอร์โมนคืออะไร, สิวฮอร์โมนเกิดจากอะไร, สิวฮอร์โมน รักษายังไงให้ถูกวิธี และได้ผลลัพธ์ดี แบบครบจบในบทความนี้ครับ

รีวิว รักษาสิวและรอย คุณอาย 1

ฮอร์โมน ทำให้เกิดสิวได้อย่างไร บทความนี้ หมอจะให้คำตอบกับผู้ที่มีความกังวลเรื่องสิวชนิดนี้นะครับ ว่า สิวฮอร์โมนคืออะไร, สิวฮอร์โมนเกิดจากอะไร, รักษาสิวฮอร์โมน อย่างถูกวิธี ให้ได้ผลลัพธ์ ครบจบในบทความนี้ครับ

เอ็มวีต้าคลินิก สิวฮอร์โมน

หมอขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะครับ หมอชื่อหมอเอ็ม นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกครับ

สิวฮอร์โมน (Hormonal Acne) คืออะไร

สิวฮอร์โมน เป็นสิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจนที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป เมื่อน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขน จึงก่อให้เกิดสิว สิวหัวดำ และสิวหัวขาว สิวชนิดนี้มักพบได้บ่อยในกลุ่มวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ และมักเกิดขึ้นซ้ำๆ เนื่องจากการทำงานของฮอร์โมนที่ยังไม่สมดุล

สิวฮอร์โมน เกิดจากอะไร

สิวฮอร์โมน เกิดจากอะไร

สิวฮอร์โมนเป็นสิวชนิดหนึ่งที่เกิดจากสาเหตุหลักดังนี้

  • ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
  • ช่วงที่มีประจำเดือน
  • ช่วงหมดประจำเดือน
  • ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ
  • ความเครียด
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ช่วงตั้งครรภ์

ฮอร์โมนที่มีปริมาณผิดปกติจะกระตุ้นต่อมไขมันในรูขุมขนให้ผลิตน้ำมันซีบัมมากขึ้น ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียเพิ่มจำนวนและก่อตัวเป็นสิวฮอร์โมน ซึ่งสิวฮอร์โมนจะแตกต่างจากสิวทั่วไปตรงที่ สิวฮอร์โมนมีสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน แต่สิวทั่วไปจะเกิดจากซีบัม เชื้อแบคทีเรีย C.acne และเซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันในรูขุมขน

รักษารอยแผลสิว

ลักษณะสิวฮอร์โมน

ลักษณะของสิวฮอร์โมนจะเหมือนกับสิวอื่น ๆ ที่เป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ โดยสิวประเภทนี้มักมีลักษณะดังนี้

  • มักมีอาการผิวมัน รูขุมขนกว้างร่วมด้วย
  • ขนาดของหัวสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ ก็จะค่อนข้างเป็นเม็ดที่มีขนาดใหญ่ อาจมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม
  • มักเป็นสิวที่มีลักษณะเป็นไต ๆ แข็งนูน เมื่อขึ้นแล้วมักอยู่นาน ไม่ค่อยยุบ หายช้า และเป็นซ้ำ ๆ หรือมีอาการเป็นเรื้อรัง
  • หลังจากหายแล้ว อาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือรอยคล้ำได้

บริเวณที่มักเกิดสิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมนมักจะเกิดขึ้นบนใบหน้า บริเวณแก้ม U-Zone ช่วงล่างของใบหน้า และในบางกรณีอาจเกิดขึ้นบริเวณหลัง อก หรือแขน

สิวฮอร์โมนที่หน้าผาก

สิวที่หน้าผาก อาจเกิดจากความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอและนอนดึก จนทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันออกมาและเกิดสิวขึ้นหน้าผากได้ นอกจากนี้ยังพบได้บ่อยในน้อง ๆ คนไข้ที่เพิ่งเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เพราะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างรวดเร็ว

สิวฮอร์โมนที่แก้ม

สิวที่แก้ม เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมนภายในร่างกาย เช่น ปริมาณฮอร์โมนที่สูงขึ้น ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและสารอื่น ๆ ในผิวหนังได้มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันของต่อมน้ำมันใต้ผิวหนัง และทำให้เกิดสิวที่แก้มได้

สิวฮอร์โมนที่คาง

สิวขึ้นคาง หรือสิวฮอร์โมนที่คางมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงมีประจำเดือน หรือท่านที่มีความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น กลุ่มอาการ PCOS เป็นต้น

สิวฮอร์โมนที่หลัง

สิวที่หลัง อาจมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนได้เช่นกัน หลักการเกิดสิวที่หลังเหมือนกับบริเวณอื่นข้างต้น แต่บริเวณหลังจะเป็นจุดที่สัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย เช่น การสวมเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวที่ไม่สะอาด ทำให้ไปกระตุ้นการเป็นสิวที่หลังได้ง่าย

สิวฮอร์โมนที่อก

สิวฮอร์โมนที่อกอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ฮอร์โมนส่งผลต่อการทำงานของต่อมน้ำมันในผิวหนัง ทำให้เกิดการอุดตันของต่อมน้ำมันใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวชนิดนี้บนหน้าอกได้

สิวฮอร์โมนที่แขน

เกิดจากการที่ฮอร์โมนไม่สมดุล การเพิ่มระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนอาจทำให้ไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตไขมันมากขึ้น และมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อไขมันเหล่านี้ผสมกับปัจจัยภายนอก เช่น การสวมเสื้อผ้า การทาครีมบำรุงผิว อาจทำให้รูขุมขนอุดตันจนเกิดสิวที่แขนได้ เช่นเดียวกับบริเวณอื่น ๆ

ฮอร์โมนทำให้เกิดสิวได้อย่างไร

สิวฮอร์โมนเกิดจากแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชายในร่างกาย ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง หากเพศหญิงมีปริมาณแอนโดรเจนที่เหมาะสม จะไม่ทำให้เกิดปัญหาสิวชนิดนี้ แต่เมื่อแอนโดรเจนเพิ่มมากขึ้น ฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นต่อมไขมันในผิวหนังให้ผลิตซีบัม ซึ่งเป็นสารที่มีความมันเพื่อช่วยหล่อลื่นผิวหนังและเส้นผม อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการผลิตซีบัมมากเกินไป จึงทำให้อุดตันรูขุมขนและเกิดสิวได้

สำหรับผู้หญิง การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างรอบเดือนสามารถนำไปสู่การเพิ่มการผลิตแอนโดรเจนได้เหมือนกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวก่อนและระหว่างมีประจำเดือน รวมถึงความไม่สมดุลของฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้ผู้หญิงเกิดสิวได้เช่นกัน

ส่วนผู้ชาย การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยแรกรุ่นจะทำให้ร่างกายผลิตแอนโดรเจนมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวได้ ทั้งนี้ การผลิตแอนโดรเจนยังสามารถกระตุ้นได้ด้วยยาบางชนิดเช่นกัน เช่น อนาโบลิคสเตียรอยด์ เป็นต้นH2 สิวฮอร์โมนแตกต่างจากสิวอื่นอย่างไร

สิวฮอร์โมนแตกต่างจากสิวอื่นอย่างไร

สิวฮอร์โมนมีลักษณะดังนี้

  • เป็นสิวชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุหลักมาจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของแอนโดรเจน
  • สิวประเภทนี้มักจะขึ้นบนใบหน้าส่วนล่าง คาง และกราม
  • มีลักษณะเป็นสิวขนาดใหญ่ และลึก
  • เมื่อสิวยุบมักเหลือเป็นไตแข็ง ๆ และมักอักเสบเรื้อรังซ้ำ ๆ ที่เดิม

สิวประเภทอื่น ๆ เช่น สิวจากแบคทีเรียหรือสิวอักเสบ มีลักษณะดังนี้

  • สิวประเภทอื่น ๆ จะเกิดจากปัจจัยที่แตกต่างกันไป
  • เกิดได้แทบทุกบริเวณของร่างกายที่มีความผิดปกติของต่อมไขมัน มีแบคทีเรีย และการระคายเคือง
  • สิวจากแบคทีเรียเกิดขึ้นเมื่อแบคทีเรียเข้าไปทำลายรูขุมขนที่อุดตัน ทำให้เกิดการอักเสบและเกิดเป็นสิว สิวหัวดำ และสิวหัวขาว การตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อแบคทีเรียที่ไวเกินไปก่อให้เกิดสิว หรือสารระคายเคืองอื่น ๆ ในผิวหนัง

อาการของสิวชนิดนี้และสิวประเภทอื่น ๆ อาจคล้ายคลึงกัน สิวที่เกิดจากฮอร์โมนมักจะรุนแรงและคงอยู่นานกว่า โดยเฉพาะสิวซีสต์ ตุ่มสิวที่ลึก และจะรู้สึกเจ็บนานกว่าจะหาย เมื่อเทียบกับสิวประเภทอื่น

รักษารอยแผลสิว

วิธีรักษาสิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมน รักษายังไง ผู้หญิงและผู้ชายหมอจะแนะนำให้ใช้วิธีรักษาโดยการปรับความสมดุลของฮอร์โมนด้วยการทานยา แต่เมื่อเป็นสิวชนิดนี้แล้ว การใช้ยาทาภายนอกเพื่อรักษาสิวยังคงจำเป็นอยู่เช่นกัน รวมถึง ยังมีวิธีรักษาสิวฮอร์โมนให้หายขาดวิธีอื่นที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน ได้แก่ การฉีดสิว การเลเซอร์รักษาสิว

1. ทานยารักษาสิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมนรักษา
  • รับประทานยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) แต่การรับประทานยาอาจมีผลข้างเคียงได้ จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
  • ใช้ยาคุมกำเนิดรักษาสิวฮอร์โมน (Oral Contraceptives) เพื่อลดปริมาณแอนโดรเจน (Androgen)
  • รับประทานยาไอโซเตรทติโนอินที่นิยมใช้ในการรักษาสิว สำหรับผู้ที่เป็นสิวอักเสบปานกลาง – ขั้นรุนแรง มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมไขมันที่ผลิตซีบัม และช่วยลดการอักเสบ

2. ทายารักษาสิวฮอร์โมน

รักษาสิวฮอร์โมน
  • ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) สามารถรักษาได้ทั้งสิวอุดตัน และสิวอักเสบ แต่ตัวยายังคงมีข้อควรระวังคือ อาจทำให้ผิวแห้งลอก และไวต่อแสงได้
  • เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว สิวอุดตัน สิวอักเสบ มีข้อควรระวังคือ อาจทำให้ผิวแห้งลอก และระคายเคือง

3. ฉีดสิวฮอร์โมน

วิธีแก้สิวฮอร์โมน

การฉีดสิว เป็นการฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์โดยแพทย์ เพื่อลดการอักเสบของสิว กรณีเป็นก้อนแข็งอยู่ใต้ผิวหนัง สิวอักเสบ ปวดบวมแดง ให้ผลการรักษาที่ดี แต่ควรใช้ยาทาและวิธีการรักษาอื่นๆควบคู่ไปด้วย

4. เลเซอร์สิวและการบำบัดด้วยแสง

วิธีรักษาสิวฮอร์โมน

การรักษาสิวด้วยเลเซอร์และการบำบัดด้วยแสง จะเป็นการยิงตรงเข้าไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ช่วยลดการอักเสบ ลดโอกาสการเกิดรอยสิว ผลข้างเคียงน้อย และให้ผลลัพธ์ดีอีกด้วย

5.ใช้สารผลัดเซลล์ผิว

ผลัดเซลล์ผิว
  • กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) การใช้กรดควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ หากใช้ในปริมาณไม่เหมาะสม อาจทำให้ผิวแสบ หรือเบิร์นได้ โดยกรดอะซีลาอิก เป็นที่ได้จากสารสกัดตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติช่วยลดการอุดตันรูขุมขน ต้านการสร้างเม็ดสี และลดรอยดำหลังจากการรักษาสิวได้ดีอีกด้วย
  • ใช้เคมีผลักเซลล์ผิว (Chemical Peel) โดยการผลัดผิวหนังชั้นนอกสุดออกมา เพื่อป้องกันการอุดตันรูขุมขนและช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิว ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ หากใช้ในปริมาณไม่เหมาะสม อาจทำให้ผิวแสบ หรือเบิร์นได้ครับ

6. ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง

วิธีรักษาสิวฮอร์โมนแบบธรรมชาติ

การปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาสิวจะทำให้รักษาได้อย่างตรงจุดที่สุด และให้ผลลัพธ์ที่ดี เนื่องจากสิวชนิดนี้เกิดจากสาเหตุภายในร่างกาย จึงควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์จะดีที่สุด

ค้นหาคลินิกรักษาสิวใกล้ฉัน เพื่อปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เลยครับ

แนวทางป้องกันสิวฮอร์โมน

เนื่องจากสิวฮอร์โมนเกิดจากสาเหตุภายในร่างกาย เราจึงสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ดังนี้

  • พยายามไม่เครียด หากิจกรรมหรืองานอดิเรกทำเพื่อผ่อนคลายสมองบ้าง 
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • รักษาความสะอาด จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้
  • เลือกรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด และของหวาน
  • งดบีบ แกะ เกาโดยเด็ดขาด นอกจากจะทำให้สิวไม่หายแล้ว ยังทำให้เป็นหนักกว่าเดิมด้วย พร้อมเกิดรอยสิวตามมาอีก

สิวฮอร์โมนจะหายไปตอนไหน

โดยทั่วไป สิวฮอร์โมนของวัยรุ่นจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อร่างกายเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เนื่องจากระดับฮอร์โมนเริ่มคงที่และการทำงานของต่อมไขมันลดลง ในขณะที่ผู้หญิงจะเริ่มดีขึ้นเมื่ออายุประมาณ 20-25 ปี ส่วนผู้ชายอาจต้องรอจนถึงอายุ 25-30 ปี อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่สิวฮอร์โมนจะหายนั้นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วย เช่น พันธุกรรม ความเครียด อาหารที่รับประทาน และการดูแลผิว

แต่ถ้าหากเป็นสิวรุนแรงหรือเรื้อรังโดนไม่มีท่าทีจะดีขึ้นแม้ดูแลผิวอย่างดีแล้ว ก็แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เนื่องจากอาจต้องใช้ยาเฉพาะทางเพื่อควบคุมการทำงานของฮอร์โมนและลดการอักเสบของผิว

หากต้องการคำปรึกษา สามารถสอบถามได้ที่… Line: @mvitaclinic เลยนะครับ

รักษารอยแผลสิว

สิวฮอร์โมนสามารถกดได้หรือไม่

การกดหรือบีบสิวฮอร์โมนเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะสิวชนิดนี้มักเกิดการอักเสบในชั้นผิวที่ลึกและมีการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย การกดสิวจะทำให้การอักเสบรุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นและรอยดำบนใบหน้าด้วย นอกจากนี้ เชื้อแบคทีเรียอาจแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น ทำให้เกิดสิวลุกลามเป็นบริเวณกว้างสิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดสิวฮอร์โมนก็คือ ควรดูแลผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือสัมผัสบริเวณที่เป็นสิว ที่สำคัญคือควรรักษาความสะอาดของมือและสิ่งของที่ต้องสัมผัสกับใบหน้า เช่น หมอน ผ้าเช็ดหน้า หรือโทรศัพท์มือถือ

รีวิว รักษาสิว สิวฮอร์โมน และเลเซอร์รอยสิว

รีวิวรักษาสิวฮอร์โมนและเลเซอร์รอยสิวที่ เอ็มวีต้า คลินิก

รีวิว รักษาสิวและรอย คุณอาย 1
รีวิว รักษาสิวและรอย คุณมัช 2
รีวิว รักษาสิวและรอย คุณนัท 1

สรุปเรื่องสิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจนที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป การรักษาจำเป็นที่ต้องปรึกษาแพทย์โดยตรง ไม่แนะนำให้ซื้อยาเพื่อรักษาด้วยตัวเอง หมอเอ็ม ยินดีให้คำปรึกษาฟรี!! ครับ

คุณหมอเอ็มให้กำลังใจคนเป็นสิวทุกท่านนะครับ ว่าสิวไม่มีหัวรักษาหายได้ อย่างตรงจุด ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ กลับมาผิวสวย หน้าใส อีกครั้งครับ

ทำไมต้องรักษาสิวฮอร์โมน ที่เอ็มวีต้าคลินิก

การรักษาสิวฮอร์โมนที่เอ็มวีต้าคลินิก ทุกเคสจะได้พบแพทย์เพื่อปรึกษาก่อนคนไข้จะตัดสินใจรักษา เพื่อเลือกโปรแกรมที่เหมาะสม ซึ่งคอร์สที่หมอแนะนำสำหรับคนเป็นสิวฮอร์โมนคือ Medi-Aclear

โปรแกรม Medi – Aclear

เป็นโปรแกรมรักษาสิว เลเซอร์รักษาสิวและรอยสิว โปรแกรม Medi-Aclear ครบวงจรการรักษาสิวและตอบโจทย์ด้วยการจ่ายยาแบบ case by case โดยหมอเอ็ม นพ.มนตรี ที่ตรงตามสภาพผิวแต่ละบุคคลจริง ๆ

คอร์ส Medi-Aclear ราคา

  • รายครั้ง : 3,500 บาท 
  • คอร์ส 5 ครั้ง : 10,500 บาท 
  • คอร์ส 10 ครั้ง : 17,000 บาท

หากสนใจ สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยนะครับ

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

เอกสารอ้างอิง

วันเผยแพร่

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*:

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษา นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า