หน้าเป็นหลุมสิวแก้ยังไง วิธีรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด หายเกลี้ยงเพียงทำตาม

วิธีรักษาหลุมสิวหน้าเป็นหลุมสิวรักษาวิธีไหนดี

ใครที่กำลังกังวลกับปัญหาหลุมสิวบนใบหน้า อย่างหลุมสิวที่จมูก เข้าใจดีว่าความรู้สึกท้อแท้เมื่อส่องกระจกแล้วเห็นร่องรอยที่หลงเหลืออยู่เป็นอย่างไร แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไป เพราะในปัจจุบันมีวิธีการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพมากมาย ตั้งแต่การดูแลด้วยตัวเองที่บ้านไปจนถึงการรักษาโดยแพทย์ บทความนี้ หมอเอ็ม นพ.มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำเอ็มวีต้า คลินิก จึงจะมาแนะนำวิธีการรักษาหลุมสิว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งให้คนไข้ได้ตัดสินใจก่อนเข้ารับรักษาหลุมสิว

หลุมสิว คืออะไร เกิดจากอะไร

หลุมสิว คือ รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบ มีลักษณะเป็นรอยบุ๋มลงไป เมื่อเทียบกับผิวหนังในบริเวณใกล้เคียง หลุมสิวจะเกิดขึ้นหลังจากการอักเสบของสิวหายแล้ว ซึ่งสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าว่าดูไม่เรียบเนียนเสมอกัน และอาจเกิดได้จาก 2 สาเหตุ ดังนี้

  • สิวหัวช้างเม็ดใหญ่ ๆ เมื่อเกิดการอักเสบจะทำให้เกิดโพรงหนองใต้ชั้นผิว การสมานแผลทำได้ไม่สมบูรณ์ เกิดการยุบตัวของผิว จากการที่พังผืดดึงรั้งผิวบริเวณที่เป็นสิว ทำให้เนื้อบริเวณนั้นหายไป กลายเป็นรอยบุ๋ม หรือหลุมสิว
  • การบีบสิวหรือกดสิวที่ผิดวิธี จะทำให้ผิวเกิดการอักเสบและบาดเจ็บ ทำให้การซ่อมแซมผิวหนังจากคอลลาเจนและเนื้อเยื่อนั้นสร้างขึ้นไม่เพียงพอ เมื่อแผลหายแล้ว แต่บริเวณดังกล่าวก็ไม่สามารถกลับมาเรียบเนียนได้

ลักษณะของหน้าเป็นหลุมสิว

ลักษณะของหน้าเป็นหลุมสิว
  • หลุมสิวแบบ Ice Pick Scars: มีลักษณะเป็นรูลึกแคบๆ คล้ายรอยเข็มแทง มักพบบริเวณหน้าผากและแก้ม เป็นรอยที่เกิดจากการอักเสบรุนแรงที่ทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่างลึก
  • หลุมสิวแบบ Rolling Scars: มีลักษณะเป็นรอยหลุมกว้างและตื้น ทำให้ผิวหน้าดูเป็นคลื่นไม่เรียบ เกิดจากการที่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังถูกทำลายและเกิดพังผืดยึดติดกัน
  • หลุมสิวแบบ Boxcar Scars: มีลักษณะเป็นรอยหลุมที่มีขอบชัดเจน คล้ายรอยฝีดาษ พบได้ทั้งแบบตื้นและลึก มักมีรูปร่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมหรือวงกลม
  • หลุมสิวแบบผสม Mixed Atrophic Scars: เป็นลักษณะที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะมีหลุมสิวหลายรูปแบบปรากฏบนใบหน้าในเวลาเดียวกัน ทำให้การรักษาต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน

หลุมสิวรักษาด้วยตัวเองได้หรือไม่ 

หลุมสิวหายเองได้ไหม? จริง ๆ แล้วการรักษาหลุมสิวสามารถทำด้วยตัวเองได้ แต่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหลุมสิว

  • หลุมสิวแบบหลุมตื้น สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาทา เช่น ยาทาเรตินอยด์ ยาทากรดวิตามินเอ ยาทากรดกลูโคลิค ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้
  • หลุมสิวแบบหลุมลึก การรักษาด้วยตัวเองอาจไม่เพียงพอ อาจต้องใช้วิธีการรักษาด้วยเลเซอร์หรือการผ่าตัด โดยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วิธีรักษาหลุมสิว

วิธีรักษาหลุมสิว

การรักษามีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงและประเภทของหลุมสิว ตั้งแต่การดูแลด้วยตนเองที่บ้านไปจนถึงการรักษาทางการแพทย์ที่ซับซ้อน

1. รักษาหลุมสิวด้วยกลุ่มยาทา

ผลลัพธ์☆(ได้ผลน้อย)
ราคา
ความเจ็บไม่เจ็บ
ช่วงพักฟื้นไม่มี

การรักษาหลุมสิวด้วยยาทาได้ผลน้อย ยาที่พอจะช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นได้บ้างคือ กรดวิตามินเอ (Retinoic acid) หรืออนุพันธ์อื่นของวิตามินเอ เช่น อะดาพาลีน (Adapalene ชื่อการค้า Differin) อาจได้ผลในหลุมสิวแบบคลื่น (Rolling scar) ที่เป็นไม่นาน และไม่ลึกมาก ซึ่งอาจต้องทาต่อเนื่อง 3-5 เดือนขึ้นไป จึงจะเห็นว่าหลุมสิวตื้นขึ้น และการใช้ต้องระวังเพราะยากลุ่มนี้มักระคายเคืองผิว ทำให้ผิวแห้งลอกเป็นผื่นได้

2. รักษาหลุมสิวด้วยยาทาน

ผลลัพธ์ไม่ได้ผล
ราคา☆☆
ความเจ็บไม่เจ็บ
ช่วงพักฟื้นไม่มี

หลายคนคงเคยได้ยินโฆษณาอาหารเสริมมากมายที่อ้างว่าสามารถรักษาหลุมสิวได้ แต่ในทางการแพทย์ยังไม่พบหลักฐานที่ยืนยันว่ามียารับประทานหรือวิตามินไหนที่สามารถรักษาหลุมสิวได้จริง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนหรือวิตามินต่างๆ จึงไม่สามารถช่วยปรับสภาพผิวที่เป็นหลุมสิวให้ดีขึ้นได้

การรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองที่บ้านอาจต้องใช้เวลานานและให้ผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจน ไม่เทียบเท่ากับการรักษาโดยแพทย์ผิวหนัง ในกรณีที่คุณมีหลุมสิวรุนแรงหรือต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง เพื่อรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น เลเซอร์ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิวโดยตรง

วิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองแบบธรรมชาติ 

วิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองแบบธรรมชาติ 

การรักษาหลุมสิวด้วยวิธีธรรมชาตินั้นเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย แม้จะใช้เวลานานกว่าการรักษาทางการแพทย์ แต่ก็มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวและลดความลึกของหลุมสิวได้ หากทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ วิธีธรรมชาติยังช่วยบำรุงผิวในภาพรวมและเสริมสร้างสุขภาพผิวในระยะยาว

1. มาสก์หน้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติ

วิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติแบบแรกคือ การมาสก์หน้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูผิวและลดรอยหลุมสิวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป สมุนไพรหลายชนิดมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น ขมิ้นชันที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ น้ำผึ้งที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และว่านหางจระเข้ที่ช่วยสมานแผล การใช้มาสก์สมุนไพร 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยให้ผิวค่อยๆ ฟื้นตัวและมีสุขภาพดีขึ้น

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอเป็นวิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติ และเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีผิวสุขภาพดี น้ำช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายในสู่ภายนอก การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง และฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการลดเลือนรอยหลุมสิว

3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

อาหารที่มีประโยชน์เป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูผิวจากภายใน การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี โอเมก้า-3 และโปรตีนคุณภาพดี จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงและมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูงและไขมันอิ่มตัวจะช่วยลดการอักเสบของผิวและป้องกันการเกิดสิวใหม่

4. ใช้ครีมกันแดด

การปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาหลุมสิว เพราะแสง UV สามารถทำให้รอยแผลเป็นเข้มขึ้นและทำลายคอลลาเจนในผิว การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ทุกวัน แม้อยู่ในร่ม จะช่วยป้องกันการทำลายของแสงแดดและให้เวลาผิวในการซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิคทางการแพทย์

วิธีรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิคทางการแพทย์เป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในระยะเวลาอันสั้น วิธีการทางการแพทย์มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของหลุมสิวของแต่ละบุคคล

1. รักษาหลุมสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว

TCA CROSS หลุมสิว
TCA CROSS หลุมสิว
ผลลัพธ์☆☆(ได้ผลบ้าง)
ราคา☆☆
ความเจ็บ
ช่วงพักฟื้น☆☆ (1-2 สัปดาห์)

การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดทางการแพทย์ สามารถช่วยรักษาหลุมสิวได้ดีในระกับนคง แต่ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากมีการใช้กรดที่มีความเข้มข้นเป็นพิเศษ อาจมีผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้ ดังนั้นจึงไม่ควรทำเองที่บ้าน วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวนี้ใช้ได้ผลดีกับ Ice Pick Scars

2. วิธีรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

ปัจจุบันเลเซอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้รักษาหลุมสิว เป็นเลเซอร์ชนิดที่ช่วยสภาพผิวเป็นส่วนๆ คือ (Fractional  Laser) แล้ว Fractional Laser คืออะไร? ก็คือการยิงเลเซอร์เป็นจุดๆ เรียงกันเป็นตารางดังรูป

รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์
รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

2.1 เลเซอร์ Fractional แบบไม่มีแผล (Non-Ablative)

ผลลัพธ์☆☆☆(ได้ผลดี)
ราคา☆☆☆☆☆
ความเจ็บ☆☆☆
ช่วงพักฟื้น☆ (ประมาณ 1 สัปดาห์)

เลเซอร์ในกลุ่มนี้ไม่ค่อยทิ้งสะเก็ดหรือรอยแผลเป็น จึงใช้เวลาพักฟื้นน้อย ส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์หลังจากทำหัตถการ สรุปว่าการรักษาหลุมสิวค่อนข้างดี แต่ต้องทำหลายครั้งติดต่อกัน

ตัวอย่างของเลเซอร์กลุ่มนี้ ได้แก่ แก้ว Fractional Erbium (Fraxel) และเลเซอร์ Pico second

2.2 เลเซอร์ Fractional แบบมีแผล (Ablative)

ผลลัพธ์☆☆☆☆(ได้ผลดีมาก)
ราคา☆☆☆☆
ความเจ็บ☆☆☆☆
ช่วงพักฟื้น☆☆☆ (2-3 สัปดาห์)

เมื่อยิงเลเซอร์ Fractional แบบมีแผล (Ablative) จะมีสะเก็ดคล้ายตาราง อาจจะเจ็บกว่าและใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเลเซอร์ Fractional แบบไม่มีแผล (Non-Ablative) แต่ผลลัพธ์จะดีกว่า

ตัวอย่างเลเซอร์ในกลุ่มนี้ได้แก่ Fractional CO2, Fractional Erbium YAG เป็นต้นครับ

3. วิธีรักษาหลุมสิวด้วย RF (คลื่นความถี่วิทยุ)

รักษาหลุมสิวด้วย RF คลื่นความถี่วิทยุ
รักษาหลุมสิวด้วย RF คลื่นความถี่วิทยุ
ผลลัพธ์☆☆☆☆☆(ได้ผลดีเลิศ)
ราคา☆☆☆
ความเจ็บ☆☆☆☆
ช่วงพักฟื้น☆☆ (1-2 สัปดาห์)

RF หรือ Radio Frequency เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง มีข้อดีคือสามารถทำได้กับทุกสีผิว แม้แต่คนที่มีผิวคล้ำก็สามารถทำเช่นนี้ได้โดยไม่เสี่ยงต่อการทำให้ผิวไหม้ ต่างจากกลุ่มเลเซอร์ที่ต้องลดพลังงานสำหรับคนไข้ผิวคล้ำ

รักษาหลุมสิวด้วย RF ถือว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิวได้ดีมาก หลังจากการทำใช้เวลาพักฟื้นช่วงสั้นๆ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์

ตัวอย่างเครื่องในกลุ่มนี้ได้แก่ Fractora, Ematrix, Infini เป็นต้น

4. การตัดพังผืด (Subcision)

การตัดพังผืด Subcision
การตัดพังผืด Subcision
ผลลัพธ์☆☆☆☆(ได้ผลดีมาก)
ราคา☆☆
ความเจ็บ☆☆☆
ช่วงพักฟื้น☆ (1 สัปดาห์)

การตัดพังผืด (Subcision) เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษาหลุมสิว โดยเฉพาะหลุมสิวประเภท Rolling Scar และ Boxcar Scar ซึ่งเป็นหลุมสิวที่มีพังผืดยึดเกาะใต้ผิวหนัง วิธีการรักษานี้ใช้เข็มพิเศษเฉพาะทางในการตัดพังผืดที่ดึงรั้งผิวหนังให้เป็นหลุม ส่งผลให้หลุมสิวตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หลังการรักษา ผู้ป่วยอาจพบอาการบวมช้ำบริเวณที่ได้รับการรักษาเป็นเวลาประมาณ 5-7 วัน อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคนิคและอุปกรณ์พิเศษที่ทันสมัย สามารถลดระยะเวลาการฟื้นตัวให้สั้นลงกว่าการทำ Subcision แบบทั่วไป โดยผู้ป่วยสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีได้ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก

5. Air Dissector

ผลลัพธ์☆☆☆(ได้ผลดี)
ราคา☆☆
ความเจ็บ
ช่วงพักฟื้นไม่เกิน 1-2 วัน

ก๊าซสามารถขจัดพังผืดใต้หลุมสิวและยกผิวได้โดยตรง และอ่อนAir Dissector เป็นนวัตกรรมการรักษาหลุมสิวที่ใช้ก๊าซแทรกซึมใต้ผิวหนัง เพื่อแยกพังผืดที่ดึงรั้งใต้หลุมสิวและยกผิวหนังขึ้น วิธีนี้มีความอ่อนโยนต่อผิวและมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาหลุมสิว และจะได้ผลดีที่สุดหากทำร่วมกับการกระตุ้นด้วยยาใต้ผิว ซึ่งจะช่วยเพิ่มคอลลาเจน ช่วยเติมเต็มบริเวณหลุมสิว และให้ผลลัพธ์ที่คงทนถาวร เป็นอีกวิธีที่ดีในการรักษาหลุมสิว ที่มีประสิทธิภาพ จะได้ผลดีที่สุด หากทำร่วมกับการกระตุ้นด้วยยาใต้ผิว จะช่วยเพิ่มคอลลาเจน และเติมเต็มผิวขึ้นมา ผลลัพธ์ถาวรครับ

6. Punch Excision

ตัดเย็บหลุมสิว Punch excision
ตัดเย็บหลุมสิว Punch excision
ผลลัพธ์☆☆☆(ได้ผลดี)
ราคา☆☆
ความเจ็บ
ช่วงพักฟื้นไม่เกิน 1-2 วัน

Punch Excision เป็นวิธีรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะหลุมสิวชนิด Ice Pick Scar หรือหลุมสิวแบบรูแหลมลึก วิธีการรักษาทำโดยใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า Punch Biopsy Tool ตัดเนื้อเยื่อบริเวณหลุมสิวออกทั้งหมด จากนั้นจึงเย็บปิดแผลให้เรียบ ส่งผลให้รอยหลุมสิวถูกแทนที่ด้วยรอยแผลเป็นที่เรียบกว่าเดิม

7. การฉีดสารเติมเต็มหรือฉีดฟิลเลอร์ (Fillers injection)

ผลลัพธ์☆☆☆(ได้ผลดี)
ราคา☆☆
ความเจ็บ
ช่วงพักฟื้นไม่เกิน 1-2 วัน

ปัจจุบันฟิลเลอร์มีชนิดเดียวที่ผ่านอย. กรดไฮยาลูโรนิก (กรดไฮยาลูโรนิกหรือ HA) การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มหลุมสิว ผลลัพธ์ผิวที่เป็นหลุมจะเห็นผลตื้นขึ้นทันทีหลังฉีด อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์ไม่ได้อยู่ถาวร ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณหนึ่งหรือสองปี ดังนั้นคุณอาจต้องทำซ้ำหลังฟิลเลอร์สลาย

ฟิลเลอร์เหมาะกับหลุมที่มีพังผืดไม่มากนัก เช่น หลุมแบบคลื่น (Rolling scar) หากหลุมสิวมีพังผืดจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องตัดพังผืด (subcision) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

สำหรับฟิลเลอร์หลุมสิวควรเลือกเป็นชนิดที่มีโมเลกุลของ HA ที่ไม่มากจนเกินไป เนื้อเบาๆจะเหมาะกว่า เพื่อให้เนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน

8.ฉีด PDRN/PN รักษาหลุมสิว

ฉีดหลุมสิว ด้วย PDRN
ฉีดหลุมสิว ด้วย PDRN
ผลลัพธ์☆☆☆(ได้ผลดี)
ราคา☆☆
ความเจ็บ
ช่วงพักฟื้นไม่เกิน 1-2 วัน

PDRN (PolyDeoxyNucleoTide) และ PN ( PolyNucleotide) เป็นสารที่ประกอบด้วยสาย DNA ที่สกัดจากปลาแซลมอน พบว่า PDRN ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ด้วยงานวิจัยที่เชื้อถือได้ ช่วยในเรื่องการต้านการอักเสบ ช่วยสร้างคอลลาเจน ต้านการสร้างเม็ดสี ช่วยปรับโครงสร้างผิวอย่างสม่ำเสมอให้ดีขึ้น ช่วยรักษาซ่อมแซมเซลล์ผิวโดยตรง และ PDRN มีหลายยี่ห้อ เช่น Dermacare, Fishel, Tensonez และ Belladict SSDN

สำหรับ PN นี้ ถือว่าเป็นตัวที่พัฒนาต่อมาจาก PDRN อีกที โดย PN จะมีความเข้มข้นและบริสุทธิ์มากกว่า ประสิทธิภาพจึงสูงกว่า PDRN โดยจะทำหน้าที่เป็นโครงร่างที่ช่วย Support ผิว และยังอยู่ในผิวได้นานกว่า PDRN ปกติ ผลิตภัณฑ์ที่มี PN ได้แก่ Rejuran รุ่นต่างๆ นั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Rejuran S ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับหลุมสิวโดยตรง

สำหรับ PN นี้เป็นการพัฒนาจาก PDRN โดย PN มีความเข้มข้นและบริสุทธิ์มากกว่า จึงมีประสิทธิภาพมากกว่า PDRN ทำหน้าที่เป็นกรอบในการช่วยพยุงผิวและคงอยู่ในผิวได้นานกว่า PDRN ทั่วไป ผลิตภัณฑ์กลุ่ม PN ได้แก่ Rejuran รุ่นต่างๆ โดยเฉพาะ Rejuran S เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับรอยแผลเป็นจากสิว หรือหลุมสิวโดยตรง

ผลกระทบจากหน้าเป็นหลุมสิว

  • ผลกระทบทางด้านจิตใจและอารมณ์: คนที่มีหลุมสิวมักรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง กังวลเมื่อต้องเข้าสังคม และอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวลในระยะยาว
  • ผลกระทบต่อการเข้าสังคม: หลายคนอาจหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนหรือกิจกรรมทางสังคม เพราะกลัวการถูกมองหรือวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสภาพผิวหน้า ส่งผลให้โอกาสในการสร้างความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกับผู้อื่นลดลง
  • ผลกระทบต่อการทำงานและโอกาสในอาชีพ: ในบางอาชีพที่ต้องพบปะผู้คน เช่น งานบริการ หรืองานที่ต้องออกสื่อ ปัญหาหลุมสิวอาจส่งผลต่อโอกาสในการได้งานหรือความก้าวหน้าในอาชีพ
  • ผลกระทบต่อการดูแลผิวประจำวัน: ผู้ที่มีหลุมสิวต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอาง รวมถึงต้องใช้เวลาในการดูแลผิวมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้หลุมสิวลึกหรือเพิ่มจำนวนมากขึ้น

รักษาหลุมสิวที่ไหนดี?

คลินิกรักษาหลุมสิว ที่ไหนดี? คำตอบคือ ควรเลือกคลินิกที่คุณหมอมีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการรักษาหลุมสิวเยอะ รีวิวดี ผลลัพธ์เทียบก่อน-หลังเห็นชัดเจน ใช้เครื่องมือเครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. 

ซึ่งเอ็มวีต้าคลินิก ถือเป็นอีกคลินิกที่มีความชำนาญในด้านการรักษาสิว รอยสิว หลุมสิว เปิดมานานกว่า 16 ปี มีรีวิวการันตีผลการรักษามากมาย และมีเครื่องมือเครื่องเลเซอร์มาตรฐานระดับสากล รวมถึงตัวยาที่ผ่านการรับรองจาก อย. หลากหลายชนิดซึ่งหมอนำมาประยุกต์เป็นเทคนิคการรักษาเฉพาะตัว เอ็มวีต้าคลินิกจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับต้นๆ ในการรักษาหลุมสิว

เอ็มวีต้าคลินิก รักษาหลุมสิวอย่างไร

หลุมสิวรักษาวิธีไหนดี? การรักษาหลุมสิวที่เอ็มวีต้าคลินิกจะเป็นโปรแกรมที่ชื่อว่า ANGEL TOUCH เป็นสุดยอดโปรแกรมยอดนิยมที่มีคนไข้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง และได้รับการแนะนำบอกต่อมาโดยตลอด ด้วยประสบการณ์การรักษาหลุมสิวกว่า 16 ปี รักษามาแล้วกว่า 10,000 เคสของหมอเอ็ม จึงมั่นใจว่าคนไข้จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอนครับ

โปรแกรมนี้หมอคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยผสมผสานการใช้เครื่องมือ เครื่องเลเซอร์ ตัวยา และเทคนิคการรักษาหลุมสิว ที่มีงานวิจัยรับรองประสิทธิภาพ และทุกตัวผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อนำมารักษาหลุมสิวทุกประเภทให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยในการทำ หมอจะวิเคราะห์ประเมินหลุมสิวทั่วหน้าอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาทุกครั้ง โดยเทคนิคที่หมอนำมาใช้ในโปรแกรมมีดังนี้ครับ

  1. Fractional RF (Fractora) คลื่นวิทยุรักษาหลุมสิว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน สลายพังผืดใต้หลุมสิว และช่วยปรับสภาพผิว
  2. Fractional Ablative Laser (Fotona) เลเซอร์ปรับสภาพผิวชั้นตื้น เน้นสร้างชั้นผิวใหม่ ให้หลุมสิวตื้นเสมอกับระดับผิวโดยรอบมากขึ้น
  3. Fractional Non-Ablative Laser (LaseMD) เลเซอร์เกลี่ยชั้นผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น กระตุ้นการฟื้นฟูผิว
  4. Miracle Subcision การตัดพังผืดด้วยเทคนิคเฉพาะของเอ็มวีต้าคลินิก ตัดพังผืดได้มากถึง 3 ระดับ แต่อ่อนโยน ช้ำน้อย หลุมฟูเต็มขึ้นเร็ว
  5. Gentle Subcision ยกหลุมสิวให้ฟูขึ้นทันที ด้วยเข็มขนาดเล็กพิเศษ ได้ผลดีมากในหลุมแบบ rolling และ boxcar ตื้นๆ
  6. Air Subcision การเซาะพังผืดอย่างอ่อนโยนด้วยก๊าซ ด้วยเทคนิคเฉพาะที่พัฒนาโดยหมอเอ็ม จะช่วยยกหลุมสิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  7. PDRN สารสกัด DNA จากปลาแซลม่อน ที่ช่วยซ่อมแซมผิว ฟื้นหลุมสิวให้ฟูเต็มขึ้น
  8. Low molecular Hyaluronic acid เติมเต็มหลุมสิวให้เต็มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลุมแบบ rolling หรือ boxcar ที่ลึกมาก
  9. Growth Factor เสริมการรักษาหลุมสิว ให้การฟื้นฟูเนื้อเยื่อเห็นผลยิ่งขึ้น
  10. TCA CROSS ใช้เก็บหลุมลึกๆ หลุม Ice pick 

โดยในคอร์สคนไข้จะได้ทำ Fractora 5 ครั้ง สลับกับ Fotona 5 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันทุก 2 สัปดาห์ รวมทั้งหมดเป็น 10 ครั้ง ในทุกครั้งจะมีการทำ Subcision 3 เทคนิค โดยหมอจะเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับหลุมของคนไข้ และจะพิจารณาเลือกเทคนิคเสริมตามปัญหาหลุมสิวที่คนไข้มีในแต่ละครั้งครับ

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิว

  • ระวังตัวไม่ให้เป็นสิว
  • ดูแลผิวให้สะอาด เช็ดเครื่องสำอาง ล้างหน้าเป็นประจำเช้า-เย็น
  • ถ้าเป็นสิวแล้วต้องรีบรักษา
  • อาจพิจารณาใช้ตัวยาทากลุ่มกรดวิตามินเอ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่าสามารถช่วยกระตุ้นให้หลุมสิวที่เป็นไม่มากนักดีขึ้น แต่ต้องระวังการระคายเคืองเช่นกัน
  • ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาหลุมสิวที่ถูกวิธี 
เป็นหลุมสิว
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นหลุมสิว

รักษาหลุมสิว ราคาเท่าไหร่

สำหรับโปรแกรมรักษาหลุมสิว ANGEL TOUCH เป็นการรักษาคอร์สจำนวน 10 ครั้ง ประกอบด้วยการทำเลเซอร์สองเครื่อง คือ Fractora 5 ครั้ง กับ Fotona 5 ครั้ง โดยทำสลับกันทุก 2 สัปดาห์ 

หลุมสิว ราคา

โดยทุกครั้งที่ทำ หมอจะมีการทำหัตถการเสริม เช่นการทำ Subcision 3 เทคนิค การทำ TCA CROSS และร่วมกับการฉีดตัวยาต่างๆ โดยหมอจะพิจารณาเลือกการรักษาที่เหมาะกับหลุมสิวที่คนไข้มีเป็นรายบุคคลครับ

โปรแกรมนี้คุ้มมากครับ จากราคาปกติเลเซอร์ร่วมกับหัตถการเสริมรายครั้งอยู่ที่ครั้งละ 4500 บาท หากทำเป็นคอร์ส จะได้รับส่วนลดสูงสุดอยู่ที่ 10 ครั้ง เพียง 20,000 บาทครับ เท่ากับตกราคาต่อครั้งเพียง 2,000 บาทเท่านั้นครับ 

ซึ่งคุ้มมากเมื่อเทียบกับการรักษาและผลลัพธ์ที่คนไข้จะได้รับครับ สนใจรับบริการ รักษาหลุมสิวให้เต็มขึ้นอย่าง ปลอดภัย คลิ๊กตอนนี้เลยครับ!!

รักษาหลุมสิวที่เอ็มวีต้าคลินิก

การรักษาหลุมสิวที่ M Vita Clinic อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะวิเคราะห์สภาพผิวและออกแบบแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลผิวที่ถูกต้อง เพื่อทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน สวยใสอย่างเป็นธรรมชาติอีกครั้ง

รีวิว รักษาหลุมสิว คุณฮิม
รีวิว รักษาหลุมสิว คุณตี๋
รีวิว เลเซอร์หลุมสิว คุณเมย์
รีวิว หลุมสิว คุณเมย์
รีวิว รักษาหลุมสิว คุณไพลิน
รีวิว เลเซอร์รักษาหลุมสิว คุณไพลิน
รีวิว รักษาหลุมสิว คุณพรีม
รีวิว หลุมสิว คุณพรีม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวรักษาหลุมสิว

Q: รักษาหลุมสิวที่เอ็มวีต้าคลินิก ต้องต่อเนื่องไหม

แนะนำ ให้ทำต่อเนื่องทุกๆ 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยหลาย ๆอย่างเช่น

  • การหลุดของสะเก็ด : ถ้าสะเก็ดหลุดช้าอาจต้องเลื่อนเวลาในการทำครั้งถัดไปออกไป
  • สีผิว : ในท่านที่มีผิวค่อนข้างคล้ำ แนะนำให้ทำห่างๆเพื่อป้องกันการเกิดรอยดำ
  • พลังงานที่ใช้ในแต่ละครั้ง : หากรอบไหนหมอใช้พลังงานสูง จะแนะนำให้เว้นช่วงให้นานขึ้นก่อนการทำเลเซอร์ครั้งถัดไป

Q: รักษาหลุมสิวที่เอ็มวีต้าคลินิก (M Vita Clinic) มีความปลอดภัยสูง

รักษาหลุมสิวที่ M Vita Clinic มีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียง เครื่องเลเซอร์ทั้ง 2 ได้ผ่านการรับรองจาก อย. แล้ว ว่าสามารถใช้ในการรักษาหลุมสิวได้อย่างเห็นผลดี หลังทำเลเซอร์ผิวจะมีสะเก็ดเกิดขึ้น ซึ่งสะเก็ดจะคงอยู่ประมาณ 3-7 วันและจะหลุดออกไปได้เอง หลังจากนั้นจึงค่อยๆ เริ่มเห็นความเรียบเนียนของผิวที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น มีน้อยท่านที่อาจจะพบรอยดำจางๆ บริเวณที่ทำเลเซอร์ ต่อไปอีกเป็นระยะเวลาไม่นานนักเช่น 1 ถึง 2 สัปดาห์ และจะจางลงไปเอง

Q: รักษาหลุมสิวด้วยเทคนิคพิเศษ ที่เอ็มวีต้าคลินิก เจ็บไหม

รักษาหลุมสิวด้วยเทคนิคพิเศษที่เอ็มวีต้าคลินิก แทบไม่เจ็บเลย เพราะก่อนการทำเลเซอร์ทุกครั้ง จะมีการลงยาชาไว้ที่ผิวของคนไข้ ในตอนทำจะมีการพ่นลมเย็นช่วยตลอดเวลา ดังนั้น ความเจ็บในขณะที่ทำเลเซอร์ถือได้ว่าน้อยมากๆ และอยู่ในระดับที่ทนได้ ส่วนใหญ่ความรู้สึกในขณะที่ทำ fractora จะไม่ค่อยเจ็บ อาจจะเป็นความรู้สึก กระตุกของกล้ามเนื้อบนใบหน้าเสียมากกว่า เนื่องจากพลังงาน RF ค่อนข้างลงลึก ซึ่งอาจไปกระตุ้นกล้ามเนื้อให้มีการหดตัวได้ในขณะที่ยิง ส่วนความรู้สึกในขณะที่ทำ fotona จะเจ็บน้อยมาก แทบจะไม่ค่อยรู้สึกเลย เพราะเลเซอร์ตัวนี้เน้นกรอผิวชั้นตื้น

สรุป วิธีรักษาหลุมสิว

การรักษาหลุมสิวควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับความรุนแรงของหลุมสิว และสภาพผิวของแต่ละบุคคล หมอขอให้กำลังใจ คนเป็นสิว หลุมสิวอย่าเครียดครับ เข้ารับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่มีประสบการณ์การรักษาหลุมสิว มีวิธีรักษาหลุมสิวหลายวิธีสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดี และหายได้ครับหากท่านใดอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกสนใจ อยากเข้ารับบริการรักษาหลุมสิว เลเซอร์หลุมสิว หรือหากอยากต้องการประเมินผิวหน้า สามารถติดต่อนัดคิวพบหมอ หรือสอบถามโปรโมชั่น ได้ที่…

วันเผยแพร่

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*:

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษา นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า