สิวหัวขาวเกิดจากอะไร หาสาเหตุและวิธีดูแลสิวชนิดนี้

สิว เป็นปัญหาผิวที่คอยสร้างความกังวลใจให้กับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่ให้ความสำคัญกับผิวพรรณ เพราะสิวมักทำให้เกิดร่องรอยบนใบหน้า ยิ่งหากเป็นสิวอักเสบแล้วนอกจากจะมีรอยบนหน้ายังสร้างความเจ็บปวดอีกด้วย

สิวมีอยู่หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือสิวหัวช้าง ซึ่งสิวแต่ละแบบก็จะมีความรุนแรงและมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสิวหัวขาว ซึ่งเป็นชนิดของสิวที่สามารถพบได้ง่ายที่สุดกันว่าคืออะไร มีปัจจัยอะไรบ้างที่ก่อให้เกิดสิวชนิดนี้ แล้วจะมีวิธีรักษาอย่างไร ไปดูกันเลยครับ

สิวหัวขาว สิวอุดตันหัวขาว คืออะไร

สิวหัวขาว สิวอุดตันหัวขาว หรือบางคนอาจเรียกว่าสิวหัวปิด คือสิวชนิดหนึ่งที่ไม่มีการอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหรือสีเดียวกับผิวหนัง ซึ่งในบางครั้งอาจสังเกตเห็นด้วยตาได้ยากแต่สามารถรับรู้ถึงสิวชนิดนี้ได้จากการสัมผัสเนื่องจากสิวหัวปิดจะมีความนูนและแข็งระดับหนึ่งนั่นเอง 

โดยสิวหัวขาวเป็นชนิดสิวที่สามารถพบได้บ่อยมาก ๆ ไม่สร้างความเจ็บปวดแก่ผิว แต่อย่างไรก็ตามสิวหัวปิดยังเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวชนิดอื่นหรืออาจนำมาสู่ปัญหาหลุมสิวหากปล่อยปละละเลยหรือรักษาอย่างไม่ถูกวิธี

สิวอุดตันหัวขาวเกิดจาก

สิวอุดตันหัวขาวเกิดจากการอุดตันภายในรูขุมขน เพราะบนผิวหนังของเรามีรูขุมขนอยู่เป็นจำนวนมาก ทำหน้าที่เป็นท่อระบายสำหรับต่อมเหงื่อและต่อมไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง ในสภาวะปกติ ต่อมเหล่านี้จะผลิตเหงื่อและน้ำมันเพื่อหล่อลื่นและปกป้องผิวหนัง โดยระบายออกผ่านรูขุมขนอย่างเป็นระบบ เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาขัดขวางกระบวนการนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง มลภาวะจากสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่เซลล์ผิวที่ตายแล้วของเราเอง สิ่งเหล่านี้จะเข้าไปอุดตันรูขุมขน ส่งผลให้น้ำมันและเหงื่อที่ผลิตออกมาไม่สามารถระบายออกสู่ภายนอกได้ตามปกติ น้ำมันและสิ่งสกปรกจึงรวมตัวกันกลายเป็นก้อนที่เรียกว่า “คอมิโดน” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “สิวอุดตัน”

สิวอุดตันหัวขาวมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากสิวหัวดำ นั่นคือเป็นสิวหัวปิด หมายความว่าสิวหัวขาวหัวสิวจะอยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง ไม่ได้โผล่ออกมาสัมผัสกับอากาศภายนอก จึงไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ทำให้เปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนกับสิวหัวดำ สิวหัวขาวมักปรากฏเป็นตุ่มนูนเล็กๆ สีขาวหรือสีเนื้อบนผิวหนัง และเนื่องจากลักษณะหัวปิดนี้เอง ทำให้การกำจัดสิวหัวขาวทำได้ยากกว่าสิวหัวดำที่มีหัวโผล่พ้นผิวหนัง

ที่น่ากังวลไปกว่านั้น บนผิวหนังของเรามีแบคทีเรียประจำถิ่นอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เมื่อความสมดุลของผิวถูกรบกวนจากการมีสิวอุดตัน แบคทีเรียเหล่านี้อาจเจริญเติบโตมากเกินปกติ และสามารถเข้าไปในบริเวณที่มีการอุดตัน นำไปสู่การอักเสบและพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบชนิดต่างๆ ซึ่งมีความรุนแรงมากขึ้นและรักษาให้หายได้ยากกว่าสิวอุดตันธรรมด

อ่านข้อมูลเกี่ยวกับสิวอักเสบเพิ่มเติมได้ที่ : สิวอักเสบ บวมแดง เกิดจากอะไร? รักษาอย่างไรได้บ้าง?

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิวหัวขาวกับสิวผด

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าตุ่มเล็กๆ สีขาวที่ขึ้นบนใบหน้าเป็นสิวหัวขาวทั้งหมด แต่แท้จริงแล้ว สิวหัวขาวและสิวผดนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนี้

สิวหัวขาวเป็นสิวอุดตันชนิดหัวปิด เกิดจากการที่น้ำมันและเซลล์ผิวเก่าสะสมอยู่ในรูขุมขน แต่ไม่สัมผัสกับอากาศภายนอก จึงมีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีขาวหรือสีเนื้อ สามารถกดหรือบีบออกได้ (แม้จะยากกว่าสิวหัวดำ) และมักเกิดในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น จมูก หน้าผาก คาง เป็นต้น

ในขณะที่สิวผด ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสิวหัวขาว แท้จริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับการอุดตันของคอมิโดนเลย แต่เป็นอาการผื่นที่เกิดจากปัจจัยภายนอกหลายประการ เช่น การสัมผัสแสงแดด (โดยเฉพาะรังสี UVA) ความร้อนและความชื้นที่ทำให้ต่อมเหงื่อระบายไม่ทัน ผิวที่อ่อนแอจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง หรืออาการแพ้เครื่องสำอาง

ข้อสังเกตสำคัญที่ช่วยให้แยกสิวหัวขาวออกจากสิวผดได้คือ

• สิวหัวขาวมักมีลักษณะเป็นตุ่มเดี่ยวๆ ขึ้นกระจายในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก
• สิวหัวขาวเมื่อกดหรือบีบอย่างถูกวิธี จะมีหัวสิวสีขาวถูกดันออกมา
• สิวหัวขาวมักไม่ขึ้นและหายไปตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
• สิวหัวขาวมีความเสี่ยงที่จะพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้ หากมีแบคทีเรียเข้าไปในบริเวณที่อุดตัน

การเข้าใจความแตกต่างนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพราะสิวหัวขาว รักษาได้โดยมุ่งเน้นไปที่การลดความมัน ช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดการอุดตัน ในขณะที่การรักษาสิวผดจะเน้นการลดการระคายเคืองและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวหัวขาว

พอจะทราบกันไปแล้วบ้างว่าสิวหัวขาวเกิดจากการอุดตันภายในรูขุมขน แต่การอุดตันภายในรูขุมขนนั้นสามารถเกิดจากปัจจัยอะไรได้บ้าง เราไปดูกันเลย

ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดสิวหัวขาว

ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดสิวอุดตันหัวขาวนั้นเป็นปัจจัยที่อาจแก้ปัญหาได้ค่อนข้างยาก เพราะเกิดจากสภาพร่างกายของแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น

•  ฮอร์โมน : เพราะฮอร์โมนมีผลต่อร่างกายมากรวมถึงการผลิตน้ำมันของต่อมไขมัน เมื่อระดับฮอร์โมนผิดปกติและไปกระตุ้นการสร้างน้ำมันมากเกินไป ทำให้บนใบหน้ามีไขมันส่วนเกินและไปเพิ่มโอกาสการอุดตันของรูขุมขนได้

อ่านข้อมูลเกี่ยวกับสิวฮอร์โมนเพิ่มเติมได้ที่ : สิวฮอร์โมน

•  กรรมพันธุ์ : บางคนอาจเกิดมาพร้อมกับลักษณะผิวที่เอื้อต่อการเกิดสิวหัวขาว สิวอุดตันง่าย เช่น เป็นคนรูขุมขนกว้าง เป็นคนหน้ามัน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้มีโอกาสเป็นสิวอุดตันหัวขาวง่ายกว่าผู้ที่มีผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ 

•  อายุ : สิวอุดตันหัวขาว รวมถึงสิวทุกชนิดมักจะพบมากในวัยรุ่นเพราะเป็นช่วงวัยที่ระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงมาก ซึ่งมีผลต่อการผลิตน้ำมันของต่อมไขมันบนผิวนั่นเอง

จะเห็นได้ว่าปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดสิวหัวขาวนั้นเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ติดตัวเรามาโดยกำเนิด แต่สามารถรักษาได้ด้วยการลดปัจจัยอื่นที่เป็นตัวเร่งให้เกิดสิวชนิดนี้ เช่นดูแลความสะอาดผิวหน้า บำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น

ปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดสิวหัวขาว

ปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดสิวหัวขาวมีอยู่หลายสาเหตุ แต่วิธีรักษาสิวที่เกิดจากปัจจัยภายนอกสามารถทำได้ง่ายกว่าสิวที่เกิดจากปัจจัยภายในที่ทำได้แค่การลดโอกาสการเกิดเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น

•  มีสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้า : เพราะสิวอุดตันหัวขาวเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน หากใบหน้าเรามีสิ่งสกปรกมาก เช่น การล้างหน้าไม่สะอาด มีเครื่องสำอางอุดตันและตกค้างบนผิว ฝุ่นละอองและมลภาวะ หรือแม้แต่เหงื่อไคลสะสมในแต่ละวัน อาจทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนจนเกิดเป็นสิวอุดตันหัวขาวได้ไม่ยาก

•  การรับประทานอาหาร : การรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของนม และน้ำตาล เช่น ช็อกโกแลต ชานม เบเกอรี่ต่าง ๆ นั้นเป็นตัวการที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ และยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดสิวอุดตันหัวขาวได้

•  การใช้ยาบางชนิด : ยาบางตัวอาจไปมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน และกลายเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอุดตันหัวขาวต่อไป
•  แพ้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง : หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่ออาการระคายเคืองหรือเพิ่มการอุดตัน เช่น แอลกอฮอล์ พาราเบน น้ำหอม ซิลิโคน อาจทำให้เกิดการอุดตันกลายเป็นสิวหัวขาวได้ อีกทั้งหากอาการแพ้รุนแรงอาจนำมาสู่อาการสิวอักเสบ หรือผิวอักเสบได้อีกด้วย

สิวหัวขาวมักพบบริเวณใด

สิวหัวขาวสามารถเกิดได้ทุกที่ที่มีรูขุมขน แต่บริเวณที่สามารถพบได้บ่อย ๆ มักเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก ๆ ได้แก่

•  สิวที่หน้าผาก : บริเวณหน้าผากเป็นบริเวณที่สามารถเกิดการสะสมของสิ่งสกปรกได้ค่อนข้างง่าย เช่น ซากเซลล์ผิวที่ตายแล้วมาผสมกับเหงื่อไคลที่ถูกขับออกมาในแต่ละวัน หรือเกิดจากการเสียดสีขณะใส่หมวก ผ้าโพกหัว เป็นต้น

•  สิวที่แก้ม : ผิวแก้มจะเป็นบริเวณที่สัมผัสกับสิ่งสกปรกได้ค่อนข้างง่ายไม่ว่าจะเป็นมือถือ หมอน ผ้าห่ม อากาศมลภาวะ หรือแม้กระทั่งมือของเรา ๆ อีกทั้งยังเป็นส่วนที่เกิดการเสียดสีกับแมสก์อีกด้วย จึงทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและถูกรบกวนเป็นสิวอุดตันหัวขาว

•  สิวที่จมูก : ที่จมูกของเราเป็นส่วนที่มีรูขุมขนค่อนข้างกว้าง และเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันค่อนข้างมาก ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดสิวหัวขาวที่จมูกได้ง่าย

•  สิวขึ้นคาง : บริเวณคางก็เป็นจุดที่มีต่อมไขมันค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมักจะเกิดการเสียดสีกับแมสก์บ่อย ๆ และเกิดการสะสมของสิ่งสกปรก เหงื่อไคล ซากเซลล์ผิวที่ตายแล้วอีกด้วย สิวอุดตันหัวขาวที่คางจึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่เกิดการอุดตันได้บ่อย

•  สิวขึ้นรอบปาก : เพราะปากเป็นส่วนที่มักจะสัมผัสกับอาหารบ่อย ๆ หากรับประทานอาหารและดูแลความสะอาดไม่ดี รับประทานของมัน ๆ ก็อาจทำให้เกิดการอุดตันเป็นสิวหัวขาวได้เช่นกัน

• สิวที่หลัง : แผ่นหลังของมนุษย์เรามีต่อมไขมันค่อนข้างมาก และยังเป็นจุดที่มักเกิดการสะสมของเหงื่อไคล สิ่งสกปรกได้มาก แถมยังเป็นบริเวณที่มักเกิดการเสียดสีของเสื้อผ้า จึงทำให้ผิวบริเวณแผ่นหลังเกิดการอุดตันเป็นสิวหัวขาวหรือเกิดการอักเสบได้ง่าย ๆ

• สิวที่หน้าอก : บริเวณหน้าอกมีต่อมไขมันจำนวนมากและมักเป็นพื้นที่ที่อับชื้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีเหงื่อออกมาก การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือผ้าที่ระบายอากาศไม่ดี ทำให้เกิดการเสียดสีและกักเก็บความชื้น ส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวหัวขาวได้ง่าย

• สิวที่หู : ใบหูและบริเวณด้านหลังหูเป็นจุดที่มักถูกละเลยในการทำความสะอาด ทำให้มีการสะสมของน้ำมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกต่างๆ นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่สัมผัสกับหูบ่อยๆ เช่น หูฟัง เครื่องประดับ หรือแม้แต่ผมที่สัมผัสบริเวณนี้ ก็เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวหัวขาวได้

• สิวที่แขน : ผิวบริเวณต้นแขนและแขนด้านนอกมักมีรูขุมขนที่เป็นจุดกำเนิดของเส้นขน เมื่อเกิดการอุดตันจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันส่วนเกิน ประกอบกับการเสียดสีจากเสื้อผ้าหรือการนอนทับ ก็ทำให้เกิดเป็นสิวหัวขาวได้ บางครั้งอาการนี้อาจสับสนกับโรคผิวหนังที่เรียกว่า “Keratosis Pilaris” หรือที่เรียกกันว่าผิวไก่เลยทีเดียว

• สิวที่ก้น : บริเวณก้นมีต่อมไขมันและรูขุมขนจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มักเกิดการเสียดสีกับเสื้อผ้าและเก้าอี้อยู่ตลอดเวลา การสวมใส่กางเกงที่รัดแน่นเกินไป การนั่งเป็นเวลานาน หรือการไม่อาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกาย ทำให้เหงื่อและแบคทีเรียสะสม จึงเป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและกลายเป็นสิวหัวขาวในที่สุด

วิธีรักษาสิวอุดตันหัวขาวรักษาอย่างไร

รักษาสิวหัวขาวมีอยู่หลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของสิวอุดตันหัวขาว โดยการรักษาที่นิยมจะมีดังนี้

1. ใช้ยารักษาสิวหัวขาว

การใช้ยารักษาเป็นวิธีรักษาที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะสิวหัวขาวนั้นเป็นสิวหัวปิดหรือสิวไม่มีหัว ทำให้จำเป็นต้องใช้ยาเพื่อดันหัวสิวออกมาสู่บนผิวเสียก่อน ก่อนที่จะไปรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เพิ่มเติม โดยตัวยาที่มักใช้รักษาสิวชนิดนี้จะมีดังนี้

•  Salicylic acid หรือกรดซาลิไซลิก เป็นตัวยาที่มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเพื่อให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออกมาไวขึ้น และเป็นการลดการอุดตันของรูขุมขนได้อีกด้วย

•  Benzoyl peroxide หรือเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อสิวและช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้

•  ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ มีฤทธิ์ในการลดการสร้างน้ำมันของต่อมไขมัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักของการอุดตันจนเกิดสิวหัวขาวและสิวชนิดอื่น อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างความแข็งแรงแก่ผิวได้ด้วย

•  ยาฆ่าเชื้อ โดยจะไปลดการเจริญของเชื้อสิว ทำให้ลดโอกาสที่สิวอุดตันหัวขาวจะพัฒนาต่อไปเป็นสิวอักเสบหัวปิด สิวหัวหนอง หรือสิวอื่น ๆ ต่อไป
ยาที่ใช้รักษาสิวอุดตันหัวขาวนั้นมีทั้งรูปแบบกินและรูปแบบทา โดยการจ่ายยาชนิดไหนแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละคน

2. กดสิวหัวขาว

อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้กันคือ เป็นสิวอุดตันหัวขาว กดได้ไหม ก็ขอตอบว่า ทำได้ครับ เพราะจริงๆ แล้ววิธีนี้เป็นที่นิยมมาก ๆ เนื่องจากทำง่าย เห็นผลเร็ว โดยการกดสิวเป็นวิธีทำให้สิวอุดตันหัวขาวหลุดออกจากรูขุมขนได้ทันที ลดโอกาสการเกิดหลุมสิวที่เกิดจากการที่มีหัวสิวอุดตันตกค้างจนมันไปขยายรูขุมขนให้กว้างเกินไป อีกทั้งยังลดโอกาสการพัฒนาของสิวหัวขาวไปเป็นสิวอักเสบหัวปิดหรือสิวอื่น ๆ ที่รุนแรงกว่าเดิม

แต่อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยการกดสิวออกนั้นจำเป็นที่จะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากการกดสิวหัวขาวที่เป็นสิวหัวปิดนั้นจำเป็นจะต้องมีการใช้เข็มสะกิดเพื่อเปิดผิวหนังให้สามารถนำสิวออกมาจากใต้ผิวหนังได้ หากทำด้วยตนเองหรือผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญอาจทำให้เกิดการติดเชื้อกลายเป็นสิวอักเสบที่อาการแย่กว่าเดิม อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยสิว หรือ รอยดํา รอยแดง จากสิว ได้ง่าย ๆ

3. เลเซอร์สิวหัวขาว

สิวอุดตันหัวขาวรักษาได้ด้วยเลเซอร์สิว ช่วยแก้ปัญหาสิวอุดตันที่อยู่ลึก ๆ ที่กดออกได้ยาก หรือลึกจนไม่สามารถกดออกได้ ช่วยให้สิวอุดตันหัวขาวหายเร็วขึ้นกว่าวิธีอื่น ๆ อีกทั้งยังไม่ทิ้งรอยสิวหลังสิวหายอีกด้วย

สำหรับบางรายที่มีปัญหาหลังจากรักษาสิวหายแล้ว เช่น รอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิว ก็อาจเข้ารับการรักษาด้วยการใช้เลเซอร์รอยสิวหรือเลเซอร์หลุมสิว ก็จะช่วยให้ปัญหาผิวเหล่านี้ลดลงได้

4. การทำทรีทเมนต์

สาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวหัวขาวเกิดจากการที่ผิวขาวน้ำ ผิวอ่อนแอ ขาดการบำรุง สามารถรักษาด้วยการบำรุงผิวด้วยการทำทรีทเมนต์ผลักวิตามินเข้มข้นลงผิว เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูแข็งแรงและลดการอุดตันลงได้ ให้ผลที่เร็วกว่าการทาครีมปกติเพราะตัวเครื่องมือจะช่วยเร่งการซึมซาบของตัวยาลงสู่ผิวได้ดีกว่า

5. ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง

เพราะสิวอุดตันหัวขาวเป็นสิวที่อาจสังเกตด้วยตาได้ยาก และไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใด ๆ หลายคนจึงคิดว่าไม่ต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์ก็ได้ แต่แท้จริงแล้วสิวอุดตันหัวขาวนั้นมักเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิวอื่น ๆ ที่ใหญ่กว่าเดิม ดังนั้นหากเกิดสิวหัวขาวจึงควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง เพื่อที่จะได้ว่าแผนการรักษาอย่างถูกวิธี

ส่วนใหญ่แล้วการรักษาสิวชนิดนี้จะใช้หลาย ๆ วิธีในร่วมกัน เพื่อให้เห็นผลการรักษาเร็วขึ้นและลดโอกาสการเกิดสิวเสบหรือสิวอุดตันซ้ำ
แทนที่จะบีบสิวเอง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกรักษาสิวใกล้ฉัน เนื่องจากแพทย์มีความชำนาญและมีวิธีการรักษาที่ถูกต้องปลอดภัยมากกว่าครับ

แนวทางดูแลผิวป้องกันสิวอุดตันหัวขาว

การดูแลผิวให้เหมาะสมเป็นวิธีการป้องกันสิวที่ดีที่สุด ทั้งช่วยในแง่ของการป้องกันสิวอุดตันหัวขาวขึ้นใหม่ และยังช่วยลดสิวอุดตันหัวขาว และยังลดโอกาสการเกิดของสิวหัวช้างอีกด้วย สามารถทำได้ดังนี้

•  หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณใบหน้า  เพราะบนมือของเราเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก และเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการอุดตันของสิวหัวขาวมากขึ้น

•  ทำความสะอาดสิ่งของ เครื่องใช้ใด ๆ ที่มีโอกาสสัมผัสกับใบหน้าหรือผิวเราบ่อย ๆ เช่น มือถือ แว่นตา ปลอกหมอน ผ้าห่ม เป็นต้น

•  เปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อย ๆ ไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ เพราะสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ที่เสื้อผ้าอาจทำให้เกิดการอุดตันหรือระคายเคืองผิว กลายเป็นสิวอุดตันหัวขาวได้

•  หลังออกกำลังกายหรือมีเหงื่อออกมาก ควรรีบอาบน้ำทำความสะอาดให้เร็วที่สุด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกจนเป็นสิวหัวขาว

•  ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน จะต้องใช้คลีนเซอร์ โทนเนอร์เพิ่มเติมจากคลีนซิ่งด้วย 

•  หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมัน แป้ง น้ำตาล เพราะมีผลทำให้เกิดไขมันส่วนเกินบนผิวได้

•  เมื่อเกิดสิวอุดตันหัวขาว ไม่แกะ บีบ สัมผัสสิว เพราะจะยิ่งทำให้สิวลุกลามและเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ เป็นสิวอักเสบที่รุนแรงกว่าเดิมได้

•  ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางสูตรอ่อนโยน ไม่ก่ออาการระคายเคืองและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน

•  ถึงแม้ว่าการเกิดสิวหัวขาวจะเกิดจากการที่ผิวหน้าเรามีน้ำมันส่วนเกิน แต่ก็ควรจะต้องบำรุงผิวรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย เพราะอีกหนึ่งสาเหตุของน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าเกิดจากผิวแห้งเกินไปจนร่างกายกระตุ้นการสร้างน้ำมันออกมามากกว่าปกติ

•  อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวบ้างเพื่อลดการสะสมของเซลล์ผิวเก่าในรูขุมขนอันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวอุดตันหัวขาว

•  ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์

ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)

• เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
• อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
• ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
• สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
• เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
• ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

เอกสารอ้างอิง 

Moore, K. (2019, August 7).  Everything You Need to Know About Whiteheads. healthline. https://www.healthline.com/health/whitehead

Smith, L. (2023, January 10). How to remove whiteheads, and what causes them to form? MedicalNewsToday. https://www.medicalnewstoday.com/articles/315104